EP.5 เธอกล้าขัดคำสั่งฉัน?

1609 คำ
“งั้นเธอก็จัดการสิ” แล้วเสียงคุณภีมก็ดังขึ้น ทำให้ฉันต้องเงยหน้าไปมอง ก่อนจะเห็นพี่โบว์เทอาหารตรงหน้ารวมกันในถ้วยใบเดียว “เธอมากินข้าวสิ” แล้วคุณภีมก็หันมาเรียกฉัน “เอ่อ...” “ภีมเค้าอุตส่าห์ให้เธอร่วมโต๊ะแล้วนะ อย่ามาเรื่องมากหน่อยเลย” พี่โบว์หันมาเสริม “แต่น้ำมนต์ยังไม่หิวค่ะ” “ถ้าเธอไม่กิน วันนี้ก็ไม่ต้องกินข้าวเย็น” คุณภีมบอกออกมา ถ้าเป็นวันอื่นๆฉันไม่กังวลเลย แต่วันนี้ฉันได้กินข้าวไปเมื่อเช้าแล้วก็อ้วกไปหมดแล้ว แล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้องอีกเลยทั้งวัน “เร็วๆสิ หรืออยากให้ภีมอารมณ์เสีย” พี่โบว์เร่งรัด “จะกินดีๆ หรือจะยกไปกินที่ห้องเก็บของ” คุณภีมกดดันฉันทันที “คุณภีม...” “กิน!” ฉันสะดุ้งเมื่อคุณภีมตะคอกออกมาเสียงดัง “มานี่!” “โอ๊ย!” พี่โบว์ลุกมากระชากฉันให้นั่งลงเก้าอี้ข้างๆแล้วเลื่อนถ้วยกับข้าวที่เทผสมกันมาวางตรงหน้า “กินเข้าไปสิ จะได้ไม่หิว” “ฉันว่าเธอไม่เหมาะกับการนั่งกินบนโต๊ะว่ะ” แล้วคุณภีมก็พูดออกมาอีกครั้งก่อนที่ฉันจะเห็นเค้าส่งสายตาให้พี่โบว์ “อ๋อ อย่างเธอมันเหมาะกับลงไปกินที่พื้นน่ะ” แล้วพี่โบว์ก็ยกถ้วยใบนั้นลงไปวางที่พื้นข้างโต๊ะทันที “ฮึก คุณภีม...” “เธอจะเรียกหาสวรรค์วิมารอะไรนักหนา ลงมา” แล้วพี่โบว์ก็กระชากฉันอีกครั้งให้ลงไปนั่งที่พื้น “ฮึก” “อ้าว รออะไรล่ะ กินกับข้าวฝีมือตัวเองสิ” คุณภีมลุกมากอดอกยืนอยู่ตรงหน้าฉันพูดขึ้น “น้ำมนต์ไม่อยากทาน” ฉันก้มหน้าตอบไปด้วยความกลัว “เธอกล้าขัดคำสั่งฉัน?” “ไม่ค่ะ น้ำมนต์ไม่กล้า” “แต่ที่เธอทำอยู่ตอนนี้คือกำลังขัดคำสั่งฉัน” “ฮึก” ไม่ได้ขัด แต่แค่ไม่อยากกินแบบนี้ “อ๋อ เธอคงอยากไปนั่งกินที่ห้องเก็บของมากกว่าสินะ” “ไม่ค่ะ ไม่ น้ำมนต์ไม่อยากไป” ฉันรีบเงยหน้าไปบอกคุณภีมทันที “ไม่อยาก งั้นก็กินซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน” “อ่ะนี่ ฉันให้” แล้วพี่โบว์ก็วางช้อนลงมาในถ้วย ฉันยื่นมืออันสั่นๆของตัวเองไปจับช้อนเพื่อตักกับข้าวตรงหน้า ถึงมันจะเป็นสิ่งที่ฉันทำ แต่ว่าเค้าเทรวมกันไปแล้ว แล้วอีกอย่าง พวกเค้าไม่ได้มีแค่กับข้าว แต่ยังเทข้าวที่เหลือจากที่พวกเค้ากินลงไปรวมด้วย “หรือว่าอยากให้ฉันป้อน?” คุณภีมถาม “ไม่ค่ะ” “ก็อย่าลีลา รีบๆกินเข้าไปซะ” “ฮึก” ฉันยกช้อนที่มีกับข้าวขึ้นมาก่อนจะเอาเข้าปากตัวเองอย่างจำยอม “ชักช้าว่ะ กินแบบนี้เมื่อไหร่จะเสร็จ” คุณภีมพูด “เอายังไงดีคะ” พี่โบว์ถาม “เธอช่วยป้อนเด็กมันหน่อยสิ” คุณภีมพูดพร้อมกระตุกยิ้มมุมปากด้วย “จัดให้ค่ะ” “น้ำมนต์ทานเองได้ค่ะ” ฉันพยายามขยับหนีพี่โบว์ที่ยอตัวมา แต่ไม่ได้หยิบช้อน แต่กลับหยิบมันมาทั้งถ้วย ซ่า! “แค่นี้ก็หมดถ้วยแล้ว” กับข้าวในถ้วยถูกราดมาบนหัวฉันจนหมด ฉันควรดีใจใช่ไหมที่ไม่ต้องกินมันลงไป “หึ ทำดีนี่” คุณภีมพูดอย่างพอใจ “งั้นเราไปหาอะไรทานกันบ้างดีกว่าค่ะ ให้คนใช้ทานอิ่มก่อนเจ้านายมันไม่ดีเท่าไหร่” “ไปสิ ส่วนเธอก็เก็บกวาดห้องให้เรียบร้อยด้วยแล้วกัน กลับมาอย่าให้ฉันได้กลิ่นเหม็นล่ะ” คุณภีมสั่งฉันออกมา ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนี้กับพี่โบว์ “ฮึก ฮือ” ทำไมฉันอ่อนแอจังนะ เอะอ่ะก็ร้องไห้ โตขนาดนี้แล้วแท้ๆ แต่ถ้าไม่ร้องฉันก็คงเก็บกดแย่เลยสิ อย่างน้อยน้ำตาก็ช่วยระบายความรู้สึกเสียใจข้างในออกมา พอเลิกร้องฉันก็เริ่มต้นใหม่แค่นั้น(ถึงการเริ่มต้นจะเกิดขึ้นทุกวันก็เถอะ) ฉันเลิกสนใจความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองแล้วหันมาเก็บกวาดของที่เลอะพื้นให้เรียบร้อย แล้วนำพาตัวเองไปทำความสะอาดบ้าง “วันนี้พอแค่นี้ค่ะ ไปพักได้” เสียงอาจารย์ดังบอกหมดคาบสอน “ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ” แล้วนักศึกษาทุกคนก็พากันเก็บของเพื่อไปพักกลางวัน “วันนั้นกลับไปเค้าได้ทำอะไรเธอไหมน้ำมนต์” หมวยถามฉันด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง “ไม่นี่” ฉันตอบเพื่อนไปด้วยรอยยิ้มเพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง “แน่ใจหรอ คนอย่างพี่ภีมนี่หรอจะไม่ทำอะไรแกจริงๆ” กัสจังถามไม่อย่างไม่อยากเชื่อ “เค้าไม่ได้ทำอะไรฉันหรอก แค่ว่านิดหน่อยเท่านั้นเอง” “อืมถ้าแค่นั้นก็ดีแล้ว ไปกินข้าวกันดีกว่า” แล้วพวกฉันก็เดินไปที่โรงอาหารเพื่อทานข้าวเที่ยง “คนเยอะเป็นบ้าเลย” กัสจังบ่นออกมาเมื่อหาที่นั่งได้ “งั้นเดี๋ยวกูกับน้ำมนต์ไปซื้อข้าวกับน้ำมึงเฝ้าโต๊ะแล้วกัน” หมวยหันไปบอกกัสจัง “เออๆกูเอาเหมือนเดิม” “อืม” แล้วฉันก็แยกไปซื้อน้ำ ส่วนหมวยไปสั่งข้าว “Thank you” พอข้าวกับน้ำวางตรงหน้า กัสจังก็พูดขึ้น เราสามคนเลยนั่งกินข้าวกัน “เห้อ อิ่มว่ะ” กัสจัง “เออ ข้าวมหาลัยก็อร่อยนะ ได้เยอะด้วย แต่แม่งคนเยอะชิบ” หมวยว่า ก่อนพวกเราจะนั่งคุยกันย่อยอาหาร แต่... ซ่า! เสียงน้ำราดลงที่ตัวฉันเปียกตั้งแต่เสื้อและกระโปรง “อุ๊ยโทษที ฉันไม่ทันเห็นน่ะ” และไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือพี่โบว์ที่ทำน้ำก๋วยเตี๋ยวหกใส่ฉัน “นี่ตั้งใจหรอ!” หมวยลุกขึ้นหันไปถามพี่โบว์ทันทีด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดี “เปล่านี่ พี่ก็บอกแล้วว่าไม่ทันเห็น” “คนนั่งอยู่ตัวเป็นๆแบบนี้ไม่เห็นหรอห๊ะ” หมวยยังคงไม่ยอม “ไม่เป็นไรหมวย” “เพื่อนน้องยังไม่เดือดร้อนเลย น้องก็อย่ามาหาเรื่องพี่ดีกว่านะ” “ปล่อยไปเหอะหมวย คนแบบนี้เก็บตาไว้หาแต่แท่งแทงรู มันไม่ได้มีตาไว้มองอย่างอื่นหรอก” กัสจังหันไปพูดกับหมวย “นี่แกว่าฉันหรอ!” “เออ แล้วทำไม” กัสจังถามกลับเสียงแข็ง “ช่างเถอะ วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์มามีเรื่องกับพวกเธอ” ว่าจบพี่โบว์ก็เดินออกไปกับเพื่อนอีกคน “เอาไงเนี่ย” หมวยหันมาถาม “เดี๋ยวเราไปล้างก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก” “ล้างอะไรล่ะ น้ำก๋วยเตี๋ยวนะเว้ย อีกอย่างมันเลอะเต็มเสื้อแกเลยอ่ะ” “มึงพาน้ำมนต์ไปห้องน้ำก่อน เดี๋ยวกูไปเอาชุดมาให้” กัสจังพูด “เออๆ ป่ะน้ำมนต์” แล้วหมวยก็พาฉันเดินไปที่ห้องน้ำหลังโรงอาหาร “เปลี่ยนเสื้อผ้าออกเลย ล้างไปก็ไม่หายหรอก เดี๋ยวเปลี่ยนชุดที่กัสจังเอามาให้” “อื้ม” ฉันทำตามที่หมวยบอก โดยถอดชุดนักศึกของตัวเองออกทั้งหมดแล้วเช็ดตัวส่วนที่มันเลอะ ดีที่มันไม่ได้เปืยกโดนเสื้อชั้นในเลยทำให้ไม่ต้องกลัวแสบ “อ่ะ ใส่ชุดฉันไปก่อน” กัสจังที่กลับมายื่นชุดนักศึกษาให้ฉัน “ขอบใจนะ” ฉันรับมาแล้วปิดประตูห้องน้ำเปลี่ยนทันที “โชคดีนะที่ฉันไปเอาจากร้านซักรีดเมื่อวานแล้วไม่ได้เอาลง” เสียงกัสจังพูด แต่ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ เพราะเพื่อนฉันทั้งสองคนใส่ชุดนักศึกษาที่มันพอดีตัวและกระโปรงที่สั้นแค่ครึ่งน่องซึ่งฉันไม่เคยใส่แบบนี้ไง มันเลยทำให้ไม่มั่นใจ “เห้ย แกใส่แบบนี้โคตรสวยเลยน้ำมนต์” พอเปิดประตูออกมาเสียงหมวยก็ดังขึ้น “เออจริง งั้นมานี่ดีกว่า เดี๋ยวฉันแต่งหน้าให้นิดหน่อย” แล้วกัสจังก็ลากฉันไปที่หน้ากระจกก่อนจะเปิดกระเป๋าตัวเอง “แต่ฉันว่ามันสั้นไปอ่ะ” “สั้นอะไรล่ะ คนเค้าใส่กันทั้งมหาลัย” หมวยพูด “ใช่ แกก็เปลี่ยนมาใส่แบบนี้บ้าง ไม่ใช่เป็นคุณป้ากระโปรงคลุมเข่าอยู่ได้” กัสจังว่าอีกคน “แต่ฉันไม่มั่นใจนี่” “นั่นแหละยิ่งต้องใส่ คนเราต้องมีความมั่นใจในตัวเองไม่งั้นจะไปสู้อะไรใครเค้าได้” หมวยว่า “เออ ไม่ว่าแกจะทำอะไร ถ้าแกไม่มั่นใจในตัวเอง แกจะทำอะไรสำเร็จได้ล่ะ” กัสจัง “เชื่อพวกฉัน แล้วมันจะทำให้บุคลิกแกดีขึ้น” มันก็จริงอย่างที่เพื่อนฉันว่า ฉันเป็นพวกไม่มีความมั่นใจในตัวเองสักอย่าง มีดีแค่ความตั้งใจและขยันแค่นั้นที่ทำให้การเรียนของฉันได้เกรดดีๆ “เสร็จแล้ว ไปเรียนกัน” กัสจังที่แต่งหน้าให้ฉันเสร็จก็พูดขึ้น “สุดยอด ปกติแกสวยอยู่แล้ว ยิ่งแต่งเพิ่มอีกนิดหน่อยแบบนี้ยิ่งสวยเลยน้ำมนต์” หมวยชม “แกก็พูดเกินไป” ถึงจะเป็นเพื่อนสนิท แต่ก็เขินนะ “ฮ่าๆ ไปกันได้แล้ว ไปเดินเชิดๆให้หนุ่มน้อยใหญ่มองเล่นดีกว่า” กัสจังพูด วันนี้พวกฉันมีเรียนเลิกสี่โมงและเป็นวิชาเอกด้วย ฉันเลยต้องยอมใส่ชุดกัสจัง ไม่งั้นนะฉันคงขาดเรียนแล้วกลับคอนโดไปแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม