บทที่ 11 พยายาม (ไม่มากพอ)

1539 คำ
บทที่ 11 พยายาม (ไม่มากพอ) แดเนียลกลับมาที่คอนโดส่วนตัวหลังจากกลับจากคลับ เขาเดินมานั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นก่อนที่จะจุดบุหรี่สูบระบายความเครียด ครั้นจะโทร. หานิวเคลียร์ เขารู้อยู่เต็มอกว่าเธอคงไม่รับสายอีกตามเคย แต่มันรู้สึกคันยุบยิบที่หัวใจและอยากทำอะไรสักอย่างที่ดีกว่ามานั่งเอกเขนกอยู่ในห้อง “เอาไงวะ” มาเฟียหนุ่มพ่นควันบุหรี่ออกมาลอยคละคลุ้งในอากาศแล้วคาบไว้ที่ปาก เขากดโทร. หาลูกน้องคนสนิทและสั่งงาน (นายให้ผมตามคุณนิวทำไมครับ) “กูสั่งให้ทำก็ทำ” (ครับนาย แล้วแบบนี้คุณนิวจะไม่โวยวายเหรอครับ ถ้าเกิดจับได้ขึ้นมานายอาจจะซวยเอานะครับ) ลูกน้องหนุ่มเตือนสติผู้เป็นนาย “กูสั่งก็ทำ แต่ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดอะไรที่ไม่เข้าหูกูจะกรอกกระสุนใส่ปากมึง!” เสียงเข้มเจือด้วยความหงุดหงิดส่งทอดไป ลูกน้องหนุ่มตอบกลับอย่างเข้าใจแจ่มแจ้งก่อนจะวางสายผู้เป็นนาย “หรือกูควรทำยังไงวะแม่ง เอาใจยากฉิบหาย!” แดเนียลหัวเสียไม่น้อย เขาเองก็คิดไม่ตกที่นิวเคลียร์เป็นแบบนี้ วันต่อมา “เอากระเทียมมาดิ๊!” คำสั่งถูกส่งทอดออกไปหาลูกน้องที่กำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมเครื่องปรุงรสให้เจ้านาย ซึ่งไม่รู้ผีเข้าหรืออะไรดลใจให้เข้าครัวแต่เช้ามืด “กูบอกให้เอากระเทียมโว้ย!” “ครับๆ” “อ้าว บ้านกูครัวกูพังฉิบหายหมดแล้ว” เดนนิสเท้าเอวมองความชุลมุนด้วยสีหน้าเอือมระอาใจสุดๆ ไม่รู้ผีห่าตัวไหนมันเดินผ่านลูกชายเขาให้ขยันตื่นมาสร้างความฉิบหายแต่เช้า “พ่อมาก็ดีละ มาชิมอันนี้ให้หน่อย” แดเนียลเชิดหน้าไปทางจานผัดผักใส่กุ้งที่ถูกจัดจานไว้อย่างสวยงาม หน้าตาไม่เลวเลยแต่รสชาตินั้นเขาไม่อาจเดาได้ เดนนิสเดินเข้ามาหยิบช้อนตักผัดผักใส่ปาก ทันทีที่รสสัมผัสถึงปลายลิ้นเขาก็พ่นออกมาจากปากทันที “นี่มันผัดผักหรือผัดน้ำตาลแดน!” “ไม่อร่อยเหรอ” ยังมีหน้ามาถามอีก “แกลองชิมดูหรือยัง” “ยังเลยครับ แต่สีมันน่าจะอร่อย” “แม่มึงสอนเหรอว่าให้เดารสชาติอาหารจากสีของมันว่าอร่อย” ผู้เป็นพ่อทั้งพูดทั้งกระดกน้ำเปล่าลงคอ หมดกันต่อมรับรสในตอนเช้าเขาพังแล้วมั้ง “ผีห่าตัวไหนมันเข้าสิงแกให้มาป่วนบ้านพ่อแต่เช้าวะ” “ผีอะไร” แดเนียลยังมีหน้าหันมาขมวดคิ้วถามพ่อ “ไม่อร่อยก็ทำใหม่” “ครัวกับบ้านอันไหนมันจะพังก่อนกันวะ” มาเฟียใหญ่สบถคำพลางตวัดสายตาดุลูกน้องที่ไม่รู้จักห้ามปรามเจ้านายพวกมัน “อย่าให้เห็นไอ้พวกนี้วิ่งไปเอาถังดับเพลิง ไม่งั้นแกจะโดน” “โธ่พ่อ ก็แค่ทำกับข้าวเอง” เดนนิสกวาดสายตามองความฉิบหายแล้วสูดลมหายใจจนสุดก่อนจะพ่นออกมายาว ๆ เขาเดินออกมาทั้งที่ยังกระดกน้ำดื่มกลั้วปากกลั้วคอให้ชะล้างความหวานที่ติดอยู่ตามกระพุ้งแก้ม “ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะเนี่ย” ขวัญข้าวเอ่ยถามสามีที่กำลังนั่งดื่มน้ำอยู่บนโซฟาแทนที่เครื่องดื่มในตอนเช้าหลังจากตื่นนอนของเขาควรจะเป็นกาแฟร้อนหรือชาร้อน ทว่าคำถามเธอได้รับคำตอบทันทีเมื่อลูกชายคนเล็กถือจานอาหารมาวางลงบนโต๊ะ กลิ่นน้ำปลาลอยมาเตะจมูกจนเธอสำลัก “อะไรเนี่ยลูก” ขวัญข้าวถามลูกชายพลางมองอาหารในจานด้วยสีหน้าแหยๆ “ผัดผักครับ” เดนนิสขนลุกซู่เมื่อได้ยินคำคำนั้นจากปากลูกชายคนเล็ก ขวัญข้าวมองหน้าสามีแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่ต้องเดาเลยว่าทำไมเดนนิสถึงตกอยู่สภาพนี้ คงเป็นเพราะผัดผักลูกชายเขาแน่ๆ “แม่ชิมหน่อยสิ ผมจะได้ไปทำใหม่” และแล้วสิ่งที่เธอกลัวตอนนี้ก็เกิดขึ้น แดเนียลเลื่อนจานผัดผักมาตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ให้แม่อีก “มาครับ เดี๋ยวผมป้อนนะครับ” เดนนิสสะกิดแขนภรรยาพร้อมกับขยิบตาให้เธอ “แม่ว่าแม่ตักเองดีกว่าลูก” ขวัญข้าวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่แล้วตักผัดผักขึ้นมาใส่ปาก รสชาติแรกที่ปลายลิ้นสัมผัสคือความเค็มจนเธอเผลอหลับตาแน่น ต่อมาก็หวานและขมปี๋ด้วยเพราะเมื่อกี้ตักถูกกระเทียมไหม้ๆ ติดมาด้วย “อร่อยไหมครับ” “ดูหน้าแม่แกบ่งบอกว่าอร่อยเหรอ” “พ่ออย่าจุ้นดิ แม่อาจจะชอบไง” “ชอบกับแม่มึงสิ ไปที่รัก ไปล้างปากกันดีกว่า” ว่าจบเดนนิสก็พาภรรยาไปล้างปากในขณะที่แดเนียลทำหน้าระอาใจกับสิ่งที่พ่อทำออกนอกหน้า “เบื่อคนรักกัน” เขากระดิกนิ้วเรียกแม่บ้านแล้วให้เธอนำจานผักผัดไปเก็บที่ห้องครัว “สายเข้า” แม่บ้านสาวหยิบโทรศัพท์มือถือตนเองออกมากดรับสายโดยเธอวางจานผัดผักไว้ที่เคาน์เตอร์ในห้องครัว ขณะเดียวกันแม่บ้านอีกคนก็เดินเข้ามานำอาหารไปขึ้นโต๊ะเพราะวันนี้ดีแลนจะเข้ามาที่บ้าน “โผล่หัวมาจนได้นะ” “…” ผู้เป็นพี่เหลือบตามองตัวปัญหา ก่อนที่จะถอนหายใจออกยาวๆ แล้วนั่งลงบนโซฟา “พ่อกับแม่ไปไหน” “…” แดเนียลบุ้ยปากไปทางห้องรับประทานอาหารก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืน “กินข้าวให้อร่อยนะพี่ชาย กูไปละ” “ไม่จุดธูปเชิญกินข้าวไม่ได้?” “หึ…” แดเนียลแค่นหัวเราะอย่างขบขันแล้วควงกุญแจรถยนต์เดินออกมาจากบ้าน “คุณดีแลนคะ คุณท่านเรียกแล้วค่ะ” แม่บ้านสาวเดินเข้ามาเรียกดีแลนด้วยท่าทางสุภาพ “ครับ” มาเฟียหนุ่มเดินอาดๆ ไปที่ห้องรับประทานอาหารซึ่งตอนนี้พ่อกับแม่นั่งรออยู่แล้ว ขวัญข้าวชะเง้อมองลูกชายคนเล็กและมองหน้าดีแลนอย่างเป็นคำถาม “ไปแล้ว” “เจ้าลูกคนนี้นี่นะ! กินข้าวกับพ่อแม่สักมื้อจะตายหรือไง นี่ก็อีกคนหนึ่ง” เธอช้อนตามองลูกชายคนโตที่เพิ่งจะกลับบ้าน “ตอนที่แม่ทำบ้านหลังนี้ แม่บอกพระท่านไว้ว่าอย่าโยงสายสิญจน์ไปที่ประตูเผื่อลูกชายกลับมาบ้านจะได้เข้ามาได้” ดีแลนก้มหน้าแล้วพรูลมหายออกเบา ๆ เขารู้สึกชินกับคำพูดแดกดันของแม่แล้ว แต่ทว่าบางทีก็รู้เหมือนถูกแม่ลากไปตบที่กลางสี่แยกไฟแดงด้วยคำพูดเหล่านั้น “ลูกมากินข้าวด้วยก็บุญหัวแล้ว นั่งๆ” ไม่วายที่พ่อจะกระแนะกระแหนตามแม่ “…ครับ” เขานั่งลงพร้อมกับมองจานอาหารบนโต๊ะ “เมื่อเช้าน้องแกมาพังครัวเมียพ่อ เละเทะไปหมด” เดนนิสเล่าให้ลูกชายฟัง “ทำผัดผักอะไรของมันไม่รู้ กินคำเดียวพ่อเกือบได้ตัดขา” “…” “สงสัยช่วงนี้มันน้ำตาลตก ผัดผักเลยออกมาหวานจนกลบรสชาติอื่นหมด” เขายังพูดต่อ ดีแลนพยักหน้ารับเบาๆ จากนั้นจึงตักผัดผักใส่จานข้าวตัวเอง ก่อนที่จะตักขึ้นมาใส่ปากพร้อมกับข้าวสวย “...!!!” คะ...คงไม่ใช่ผัดผักจานนี้หรอกใช่ไหม...ดีแลนมองหน้าแม่ ซึ่งขวัญข้าวยิ้มหวานให้เป็นเชิงถามว่ากับข้าวที่แม่ทำอร่อยไหม “เป็นไงลูก อร่อยไหมคะ” เธอเอ่ยถามพร้อมกับตักผัดผักจานเดิมใส่ลงในจานดีแลนอีก มาเฟียหนุ่มกลั้นใจกลืนลงคอทั้งที่ไม่ได้เคี้ยวพร้อมกับกระดกน้ำตามอีกหนึ่งแก้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หายหวาน ความหวานมันแสบคอจนเผลอไอออกไป “อะ..อร่อยครับ” เขาตอบกลับเสียงสั่นก่อนที่จะตักแกงอย่างอื่นมาคลุมข้าว การกระทำของดีแลนทำเดนนิสประหลาดใจ ลูกชายสองคนนิสัยต่างกันและการกินหรือการพูดก็ต่างกันอยู่มาก ปกติดีแลนไม่ชอบข้าวแฉะ ส่วนแดเนียลจะชอบตักกับใส่ข้าวทีละอย่างแล้วกินเฉพาะที่ตัวเองตักไปเท่านั้น “หน้าแกซีด ๆ ไปนะ” เดนนิสถามเพราะเป็นห่วงลูกชาย “ปกติครับ” ดีแลนตักข้าวใส่ปากด้วยความรีบร้อนจากนั้นก็ให้แม่บ้านมาเติมน้ำอีกแก้ว เขากระดกดื่มแล้วลุกออกมาจากโต๊ะอาหารโดยไม่บอกกล่าวพ่อกับแม่ “แดน...มึง!!” มาเฟียหนุ่มขบกรามแน่นคาดโทษน้องชาย แม้ตัวจะไม่อยู่แต่แดเนียลก็สร้างความฉิบหายให้เขาได้ “นายหน้าซีดมากเลยครับ” ลูกน้องเอ่ยถามเพราะเป็นห่วงผู้เป็นนายที่นั่งเหงื่อซึมอยู่เบาะหลัง “แวะซื้อน้ำด้วย” เขายังแสบคอไม่หาย แถมตอนนี้รสสัมผัสก็มีแต่ความหวานเต็มปาก “กี่ขวดดีครับนาย” “ห้าขวดใหญ่!” “คะ...ครับ” “...!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม