บทที่ 10
ไปกันใหญ่
มือหนากำหมัดแน่น นี่เธอเล่นเปลี่ยนทั้งรหัสและยังไม่ยอมรับสายเขาเหรอนิวเคลียร์! เธอจะท้าทายเขามากไปแล้ว
ติ้ง!
เสียงประตูลิฟต์เปิดออก แดเนียลหันไปมองเจ้าของร่างบางที่เพิ่งก้าวออกมาจากลิฟต์ด้วยสายตาดุดัน แต่ยิ่งเดือดจัดเพราะมีหนุ่มหน้าอ่อนเดินตามหลังเธอมาติดๆ แถมยังเอามือโอบเอวบางที่เขาเคยโอบกอดมาแล้ว แดเนียลกำหมัดแน่นจนแขนสั่น
“ถ้านายรู้ว่าฉันเป็นใคร นายจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน” มาเฟียหนุ่มผ่อนคลายสีหน้าแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอย่างสบายใจเฉิบ น้ำเสียงที่แฝงด้วยการข่มขวัญอีกฝ่ายและแสดงความเป็นเจ้าของพ่นออกมาเรื่อยๆ
นิวเคลียร์สะบัดมือไปมาไล่ควันบุหรี่ เธอเหมือนจะหายใจไม่ออกและจะอ้วกกับกลิ่นมัน ทั้งที่ก็คุ้นเคยดีตอนอยู่กับแดเนียลเขาก็สูบแบบนี้ แต่ทว่าตอนนี้กลิ่นของมันกลับสร้างปัญหาให้มากๆ
“แดนหยุดแล้วดับบุหรี่เดี๋ยวนี้” เธอออกคำสั่งเสียงเบาพลางป้องปากไอด้วย “ฉันเหม็นควันบุหรี่” นิวเคลียร์ยังไม่หยุดสะบัดมือไล่ควัน แต่ทว่าเสียงหัวเราะ ‘หึ’ ก็หลุดออกจากปากร่างสูง
“เมื่อก่อนชอบไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวนี้ทนดมไม่ได้แล้ว?”
“นี่คุณ”
“ไม่เสือกเรื่องผัวเมีย” แดเนียลยอมทิ้งบุหรี่ทั้งที่ยังสูบไม่หมดลงในกระถางต้นไม้หน้าห้องพัก แล้วก้าวไปหานิวเคลียร์ รั้งตัวเธอมาโอบกอดไว้หลวมๆ “เพราะผัวเมียเขาจะเคลียร์กันเอง” มาเฟียหนุ่มพูดจบประโยคนั้นแล้วจึงบอกให้คนตัวเล็กกดรหัสพร้อมกับเปิดประตูเข้ามาด้านใน
“ปล่อย! ทำแบบนี้ทำไม”
“ทำ? ทำอะไร” เขาทำไขสือทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรลงไป ความโกรธที่สะสมมาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่ากับการกระทำไร้เหตุผลของแดเนียล
“อย่ามาไขสือ นายรู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไร” แดเนียลยอมถอยออกมาหนึ่งก้าว “ฉันไม่อยากอยู่ใกล้นายแดน”
“ขอเหตุผลหน่อย ทำไมไม่อยากอยู่ใกล้กู”
“พอเถอะ” คนตัวเล็กพยายามเดินหนี แต่ถูกอีกฝ่ายรั้งแขนไว้แน่นจนเธอถลามาชนกับอกแกร่ง ความอ่อนเพลียทำให้นิวเคลียร์ไม่มีแรงขัดขืน “แดน...ปล่อยฉัน” เธอพูดเสียงพร่า รู้ว่าตนเองอ่อนแอมากจึงไม่อยากขัดขืนอะไร
“นิว” เมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าซีดเขาจึงรีบพานิวเคลียร์เข้าไปในห้องนอน ร่างเล็กนั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมจ้องหน้าคนที่ออกแรงกระชากเธอเมื่อหลายนาทีก่อนเขม็ง “ทำไม ไม่พอใจที่กูมาขัดขวางความสุขหรือไง”
“ไม่อยากทะเลาะกับนาย กลับไปเถอะฉันจะพัก”
“หรือที่จริงมึงกับมันแอบกินกันลับหลังกู ฮะนิว”
เพียะ! เพียะ!
เธอลุกขึ้นมาตบหน้าเขาด้วยความโกรธจนตัวสั่น
“ไม่อยากเชื่อว่าคำพูดต่ำๆ พวกนั้นจะออกจากปากคนที่ฉันไว้ใจ แกคิดได้ยังไงแดน แกคิดเรื่องเหี้ยๆ แบบนั้นได้ยังไง” น้ำตาเธอไหลพรากด้วยความเสียใจ เขาทำลายความรู้สึกเธอจนหมดด้วยคำพูดที่ไม่ได้ไตร่ตรอง
“แล้วกูจะเชื่อได้ยังไงว่ามึงไม่นอกกายกู”
“อย่าล้ำเส้น!” นิวเคลียร์ตะเบ็งเสียงใส่คนตรงหน้า ยิ่งเธอใช้แรงมากแค่ไหน ร่างกายก็ยิ่งอ่อนแอ ร่างเล็กทรุดนั่งลงกับเตียงนอนเพราะสายตาพร่ามัวและมึนหัวมาก พอเห็นเธอเป็นแบบนั้น แดเนียลจึงรีบเข้าไปดูแต่ก็ถูกอีกฝ่ายผลักออก “อย่ามาใกล้ฉัน ฉันไม่อยากอยู่ใกล้คนแบบนาย”
“ก่อนจะปากดีช่วยดูตัวเองด้วย ไม่สบายทำไมไม่บอกกู”
“…คนอย่างนายจะไปรู้อะไร”
“อย่ามาประชด กูไม่ใช่พระพุทธเจ้า จะได้ตรัสรู้ไปทุกเรื่อง” มาเฟียหนุ่มพ่นลมหายใจออกอย่างหนักแล้วประคองตัวนิวเคลียร์นอนลง “เรื่องที่ตบหน้า เดี๋ยวกูเคลียร์ทีหลัง”
“…” หญิงสาวเบือนหน้าหนีด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนที่จะตะแคงข้างหันหลังให้เขา
“เออ ไม่อยากมองหน้าก็ไม่ต้องมอง” แม้จะพูดออกไปแบบนั้น แต่ก็นั่งเฝ้าจนกระทั่งนิวเคลียร์หลับไป เขาชะเง้อมองเธอครู่หนึ่งแล้วดึงผ้านวมไปห่มให้ก่อนจะเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อได้เห็นหน้าเธอชัดๆ “มือหนักฉิบหาย...” ไม่ว่าเปล่าแต่ยังเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มและเช็กว่ามุมปากมีเลือดออกไหม ทว่ารอยฝ่ามือก็เป็นรอยแดงชัดที่แก้มทั้งสองข้าง
วันต่อมา
แดเนียลนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงห้องพักนิวเคลียร์ ควันสีขาวพวยพุ่งลอยอยู่ในอากาศครู่หนึ่งก็จางหาย แล้วกลับเข้าไปในห้องนอน
“อื้อ…ปวดหัวอะไรแบบนี้เนี่ย” นิวเคลียร์พึมพำก่อนจะดันตัวลุกขึ้นมานั่ง หญิงสาวนวดคลึงขมับตัวเองเบาๆ ก่อนจะก้าวลงจากเตียงเพื่อไปหาน้ำเย็นๆ ดื่มดับกระหาย ทว่าต้องหยุดเท้ากะทันหันเพราะหางตาเหลือบไปเห็นเจ้าของเสื้อเชิ้ตสีดำที่พาดอยู่บนพนักเก้าอี้นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟามุมห้องนอน “แดน…”
“กินยา” คำสั่งส่งทอดออกไปในทันทีที่นิวเคลียร์เอ่ยเรียกชื่อเขา เธอไม่แม้แต่จะมองยาแก้ปวดที่ชายหนุ่มหามาไว้ให้ แต่กลับลุกขึ้นเดินออกมาข้างนอกเพื่อสูดอากาศ หวังให้อาการปวดขมับทุเลาลงบ้าง
“ทำไมไม่กลับ” เธอเอ่ยถามคนที่เดินมาหยุดอยู่ข้างหลังเสียงเรียบ แต่แดเนียลปิดปากเงียบ มือหนาจะวางลงบนเอวคอด นิวเคลียร์ก้มมองแล้วหันหน้าไปหาเขา “อะไร มาอารมณ์ไหนอีก”
“ฉันรู้ว่าพูดแรงไป”
“ไม่ใช่แค่พูดแรง แต่การกระทำของแกก็แรงด้วย”
“ก็ไม่ได้ตั้งใจไหมวะ ตอนนั้นอารมณ์มันขึ้น”
“โกรธเป็นคนเดียวเหรอ” นิวเคลียร์แกะมือหนาออกจากเอวแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟา“ถ้ายังอยากคุยกันเหมือนเดิมก็กลับไป ฉันอยากอยู่คนเดียว” เธอกอดอกพร้อมกับบอกคนที่กำลังจะนั่งลงบนโซฟาทำให้แดเนียลต้องยืนตัวตรงแล้วมองหน้าเธอ
“ไล่กันแบบนี้เหรอ”
“ไม่ได้ไล่ หรือจะคิดว่าไล่ก็ได้นะ ถ้านายเห็นฉันเป็นคนแบบนั้น”
“เลิกประชดกูได้แล้ว กลับก็กลับ แต่ก่อนกลับไปกินยาก่อน” เขาเท้าเอวมองนิวเคลียร์อย่างกดดันจนเธอต้องเดินไปหยิบยาที่เขาเตรียมไว้ให้มากินให้ดู เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วแดเนียลจึงออกมาจากห้องพักเธอด้วยความหงุดหงิดใจเล็กน้อย “ประชดประชันเก่ง อารมณ์ขึ้นลงอย่างกับวัยทอง” มาเฟียหนุ่มบ่นกระปอดกระแปดเข้ามาในลิฟต์ก่อนจะกดโทร. หาผู้เป็นพี่
(ไม่ว่าง)
“ช่วยว่างหน่อยเถอะ”
(แค่นี้)
“เดี๋ยว!”
(ว่ามา)
“ดื่มหน่อยไหม มีไรจะคุยด้วย”
(ประโยคแรกกูว่าไง) ดีแลนย้อนถามน้องชายเสียงเรียบ
“แค่ดื่มกับน้องแค่นี้จะตายเหรอวะ”
(หึ!) นั่นเป็นเสียงแค่นหัวเราะในลำคอของผู้เป็นพี่ก่อนที่สายจะถูกตัดไปโดยดีแลน แดเนียลกระตุกยิ้มมุมปากแล้วไปรอพี่ที่คลับที่ประจำ
ดีแลนขับรถมาจอดข้างคลับหรูที่ประจำ เขากดโทรศัพท์พิมพ์ข้อความส่งหาน้องชายตัวดีก่อนที่จะเดินเข้ามาด้านใน ด้วยรูปร่างสูงโปร่งและเขามีใบหน้าคมคายสไตล์ฝรั่งจึงเป็นที่จ้องมองของบรรดาสาวๆ เหล่าผีเสื้อราตรี บางคนเอ่ยแซวบางคนก็เดินเข้ามาทักทายทำความรู้จัก ทว่าพวกเธอไม่ได้อยู่ในสายตาคนอย่างดีแลน
“มีไรจะคุย?” ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับยกขาไขว่ห้างมองผู้เป็นน้องที่กำลังกระดกเหล้าเข้าปากราวกับน้ำเปล่า
“นิวเปลี่ยนไป”
“เรื่องเมียมึงกูจำเป็นต้องรู้เหรอ” มาเฟียหนุ่มย้อนถาม แดเนียลพ่นลมหายใจออกกับคำถามดักทางของผู้เป็นพี่
“ช่วยฟังกูเล่าให้จบก่อนดีไหม” เขาส่ายหน้าอย่างเอือมระอาใจกับสีหน้าเหนื่อยหน่ายของพี่ชายแล้วเริ่มเล่าทุกอย่างให้ดีแลนฟังจนจบ “มึงว่ากูควรบอกไปตรงๆ ไหมว่าชอบนิว”
“เรื่องผัวๆ เมียๆ กูไม่อยากยุ่ง”
“นี่มึงยังเห็นกูเป็นน้องปะดีน”
“ไม่เคยนะ”
“ไอ้…” แดเนียลสบถคำหยาบเสียงเบาแล้วกระดกเหล้าเข้าปากอึกใหญ่ “อย่าให้เห็นมานั่งอยู่สภาพเดียวกับกูนะ” คำคาดโทษน้องชายไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านหรือรู้สึกอะไร ดีแลนยกยิ้มมุมปากแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบเล็กน้อย
“กระดูกมันคนละเบอร์กันนะ” มาเฟียหนุ่มควงแก้วเหล้าขณะที่สายตาจับจ้องน้ำสีอำพันที่หมุนวนในแก้วจนเกือบจะหก แดเนียลยกยิ้มมุมปากกับคำพูดของผู้เป็นพี่ชาย เขาจะรอดูวันที่ดีแลนมานั่งปรับทุกข์กับเขาเรื่องผู้หญิง และมันต้องมีสักวันที่จะได้เห็นผู้ชายที่ผยองตนเองอย่างดีแลนจมกับความคิดตัวเอง…เขาเชื่อแบบนั้น