บทที่ 8
ไม่รู้ใจตัวเอง
หลายชั่วโมงต่อมา ภายในห้องพักสุดหรูหราถูกปกคลุมด้วยไอความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศและความเงียบเคล้ากับกลิ่นแอลกอฮอล์ที่อยู่ในแก้วในมือของแดเนียล ไม่รู้ว่านิวเคลียร์ทำเขาอารมณ์เสียตั้งแต่ตอนไหนแต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกหงุดหงิดใจมาก
“แม่ง..”
“นายครับ คุณดีแลนมาครับ” ลูกน้องคนสนิทเขาเดินเข้ามารายงานเสียงเรียบแล้วก้มหน้า แดเนียลละสายตาจากแก้วเหล้าแล้วถอนหายใจกับคำรายงานของลูกน้อง ร้อยวันพันปีไม่โผล่หัวมาหาน้อง วันนี้ฝนคงตกห่าใหญ่ไม่ก็พายุเข้า
“มันมาทำไม ว่างมากหรือไง” เขาย้อนถามลูกอย่างเหนื่อยหน่าย
“เออ กูว่างมากเลยแวะมาดูน้องสารเลวหน่อย” ผู้เป็นพี่กอดอกยกยิ้มมองสภาพผู้เป็นน้อง ก่อนที่จะพยักหน้าให้ลูกน้องแล้วเดินเข้าไปหาแดเนียล “เพราะอะไร?” เสียงเข้มของมาเฟียหนุ่มเอ่ยถามน้องชายที่เงียบผิดปกติ เพราะถ้ามันปกติป่านนี้คงตอบกลับเขาไม่ก็หลอกด่าเขาไปแล้ว
“เปล่า”
“กูจะพยายามเชื่อคำโกหกมึงแล้วกันนะ” ผู้เป็นพี่ชายกระตุกยิ้มมุมปากกับคำโกหกคำโตที่น้องชายบอกมา เขากับแดเนียลอายุห่างกันสองปีก็จริงแต่สองคนเติบโตมาด้วยกัน ไอ้เรื่องโกหกของแดเนียลเป็นเรื่องเดียวที่เขามักเป็นผู้ชนะที่ดูออกอยู่เสมอแม้ว่าน้องชายตัวดีมันจะพยายามโกหกเขาแค่ไหน แต่คนอย่างดีแลนก็มักจะจับโกหกน้องได้ตลอด... “แล้วน้องนิวเอวเด้งของมึงไม่มาหรือไง”
“เสือกเรื่องของกูมากไปแล้ว” แดเนียลเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มมองพี่ชายด้วยสายตาเชิงตำหนิและเตือนกลายๆ ว่าเขาล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว เพราะปกติเรื่องส่วนตัวพวกเขาจะไม่ยุ่งของกันและกันนอกเสียจากเรื่องเรื่องนั้นจะมีผลประโยชน์ต่อกัน “แล้วว่าง?” แดเนียลเอ่ยถามอีกครั้งพร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกลูกน้องให้นำแก้วเหล้ามาให้เขา
“กูไม่ดื่ม”
“เสียมารยาทกับเจ้าของห้องได้ไง”
“ปกติก็ไม่มีมารยาทอยู่แล้ว” ดีแลนเลื่อนเก้าอี้ทำงานอีกตัวมานั่งแล้วยกเท้าขึ้นไปพาดกับโต๊ะทำงานผู้เป็นน้อง แดเนียลมองการกระทำสุดท้าทายความตายของพี่ชายอย่างยิ้มๆ “ไม่ได้มาหาเรื่อง แต่อยากมาถามว่า…” มาเฟียหนุ่มลากเสียงยาวอย่างยั่วยวนอีกฝ่าย
“ถ้าจะมากวนตีน แนะนำให้รีบย้ายก้นมึงออกไปจากห้องกู”
“ใจเย็นดิวะ”
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ของมึง” แดเนียลตวัดสายตามองพี่ชาย ให้ตายสิวะ! นี่เขาต้องจัดการกับอารมณ์ไหนก่อนดี ระหว่างหัวเสียกับไอ้เวรนี่กับหงุดหงิดเรื่องของนิวเคลียร์
"ดื่มหน่อยก็ดี" ดีแลนกระตุกยิ้มมุมปากแล้วกระดิกนิ้วเรียกลูกน้องมาสั่งเหล้า "คุยกันแบบไม่มีตัวช่วยเชื่อมความสัมพันธ์กันมันคงไม่เหมาะเท่าไหร่" เขารู้ดีหากไม่มีแอลกอฮอล์เป็นตัวเชื่อมสัมพันธไมตรีร้อยทั้งร้อยคงไม่มีคำพูดดีๆ พ่นใส่กันหรอก
“มีไร ถ่อมาถึงนี่คงไม่ใช่อยากมาหากูเพราะคิดถึงหรอกใช่ไหม” แดเนียลกระดกเหล้าที่เหลือค่อนแก้วเข้าปากจนหมดแล้วปรายตามองพี่ชายที่เอาแต่นั่งเงียบ “ทำไม เลขาฯ คนสวยเฉดหัวมาหรือไง” แดเนียลยกยิ้มเมื่อสามารถทำให้พี่ชายหันมาสนใจเขาได้ แต่แปลกตรงที่มันเงียบจนผิดปกตินี่สิ หรือว่ามันถูกซัมเมอร์เฉดหัวมาจริงๆ วะเนี่ย
“ไม่ แค่ไม่ได้คุยกันนิดหน่อย”
“ไม่นิดหน่อยละมั้งกูว่า” นิดหน่อยของมึงมันเท่ากับสิ่งที่กูเจอมาไหมวะ แม่ง…เรื่องของกูยังเอาไม่รอดเลยเนี่ย แดเนียลบ่นอุบในใจพลางรับแก้วเหล้ามาจากมือพี่ชายที่รินส่งมาให้ “หนักเหรอวะ” แดเนียลเอ่ยถามอีกครั้ง
“ก็ไม่เท่าไหร่” มันยังพูดด้วยท่าทางสบายๆ ถ้าไม่ได้มากมายอะไรแล้วจะถ่อขับรถหลายกิโลมาหากูทำซากอะไรวะแม่ง แดเนียลชักสีหน้าใส่ดีแลนแล้วลุกขึ้นยืน “มึงเถอะ...นั่งแดกเหล้าแบบนี้อกหักมาหรือไง”
“อกหัก? เหอะ!!” แดเนียลแค่นหัวเราะออกมาอย่างนึกขำ คนอย่างเขาเนี่ยนะจะอกหักเพราะผู้หญิง มึงดูถูกกูเกินไปแล้วไอ้ดีน... “ไร้สาระนะมึงอะ เคยเห็นกูอกหักเพราะผู้หญิงหรือไง หึ!” ดีแลนปรายตามองน้องชายที่แค่นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน
“ก็ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่ถูกมึงทิ้งไง เธอดูเหมือนจะอยู่เหนือกว่าพวกผู้หญิงหิวเงินพวกนั้นนะน้องชาย” แดเนียลสะอึกเล็กน้อยกับคำพูดของผู้เป็นพี่ แต่ก็รู้สึกหงุดหงิดใจแปลก ๆ เมื่อใบหน้าของนิวเคลียร์ฉายเข้ามาในหัวซ้ำๆ “ทำไม...กูพูดแทงใจดำเหรอ หรือไปสะกิดใจเรื่องอะไรหรือเปล่า” แดเนียลหลับตาพ่นลมหายใจออกด้วยอยากระงับอารมณ์ เขาภาวนาแค่ว่าตอนนี้อย่าพุ่งไปต่อยปากพี่ชายเป็นพอ
“ถ้าจะมากวนส้นตีนกูก็กลับไปซะ ก่อนที่กูจะฝังลูกตะกั่วลงหัวมึง” แค่น้ำเสียงและแววตาที่แดเนียลแสดงออกมา ก็ทำให้ดีแลนจับสังเกตได้แล้วว่ามันมีเรื่องกับนิวเคลียร์จริงๆ และคงหนักหน่วงอยู่พอสมควร ไม่งั้นแดเนียลคงไม่มานั่งซึมอยู่แบบนี้ มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากแล้วจ้องน้ำสีอำพันในแก้ว
“มึงอยู่กับนิวมานานแค่ไหนแล้ววะแดน”
“ถามเหี้ยอะไร”
“นานใช่ไหม...” ผู้เป็นพี่หันมามองหน้าน้องชายตรง ๆ ถ้าคนอย่างแดเนียลไม่รู้สึกรู้สาอะไรเขาก็ไม่แปลกใจหรอก เพราะความโง่มันไม่เข้าใครออกใคร แต่มันจะรู้ไหมว่าการกระทำของมันที่มีต่อนิวเคลียร์มันมากกว่าคำว่าเพื่อนไปแล้ว ไหนจะเรื่องที่พวกเขาสองคนแอบกินกันลับๆ แล้วเรื่องนี้ก็ได้ยินถึงหูพ่อกับแม่แล้วด้วย
“เลิกพูดถึงผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว แล้วไสหัวมึงออกไปจากห้องกู!”
“ใจเย็นน้องชาย”
“กูเย็นไม่ลงเพราะมึงนี่แหละดีน กลับไป” แดเนียลย้ำคำด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำลง บ่งบอกว่าเขาเอาจริงหากพี่ยังเล่นลิ้นอยู่แบบนี้ ดีแลนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับวางแก้วเหล้าที่เขากระดกดื่มหมดแล้วลงบนโต๊ะ
“ทำอะไรไว้ ใจมึงอะรู้ดีที่สุด...ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะรู้เรื่องดีไปกว่ามึงหรอก เพราะเขาไม่ได้เผชิญเรื่องจริงแบบมึงและ...ความรู้สึกมึงที่มีต่อนิวเคลียร์” ดีแลนกระตุกยิ้มมุมปากแล้วเดินออกไปจากห้องน้องชายอย่างอารมณ์ดี
แม่งเอ๊ย! เสือกอยากมาเป็นกูรูเรื่องความรักเหรอมึง เอาของตัวเองให้รอดก่อนไหมวะ!! แดเนียลหัวเสียไม่น้อย แต่ก็พยายามระงับอารมณ์ตัวเองไว้ แต่พอนึกถึงนิวเคลียร์ อารมณ์ที่คิดว่าตัวเองควบคุมมันอยู่ก็ระเบิดออกมา ทำไมวะ ทำไมต้องเป็นเธอคนเดียวที่มาปั่นป่วนหัวใจและความรู้สึกเขา แค่เป็นเรื่องของนิวเคลียร์เขาก็แทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว