รชนิชลอาบน้ำแล้วสวมใส่ชุดเดิม เดินออกมาจากห้องตรงไปที่ลิฟต์ กดลงไปชั้นที่คนของแม่ใหญ่รออยู่ เธอเหม่อลอยคิดไปหลายเรื่องจนในสมองตีกันให้วุ่นวายไปหมด
ติ๊ง!…
เสียงประตูเหล็กของลิฟต์เปิดออก ปลุกเธอให้กลับมา ณ ปัจจุบัน เธอก้าวขาออกไปจากประตูทางเข้า ก่อนจะขึ้นรถที่คนรถเปิดประตูรออยู่แล้ว
หญิงสาวกลับถึงโคมแดงตอนเกือบจะตีห้า เธอขึ้นไปที่ชั้นสอง แล้วเปลี่ยนชุดก่อนจะขอตัวกลับ รชนิชลรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน และเพราะเป็นครั้งแรกของเธอ เธอจึงรู้สึกปวดเนื้อตัวและระบมกับตรงกลางความสาว แม่ใหญ่เตรียมยาแก้ปวดไว้ให้เธอแล้ว พร้อมกำชับอีกสองสามคำเรื่องการให้บริการแขกของโคมแดง หญิงสาวพยักหน้าอย่างขอไปทีด้วยความเหนื่อยล้า
เมื่อกลับมาถึงห้องได้เธอก็เปลี่ยนชุดแบบรีบๆ กินยาแก้ปวดที่แม่ใหญ่มอบให้ แล้วผล็อยหลับไป
โดยไม่ล่วงรู้เลยว่า... ชีวิตของเธอ... จะเปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่คืนนี้
…
ด้านชรัน หลังจากแยกกับรชนิชลมาแล้วเขายังคงไม่เข้านอน ชายหนุ่มนั่งดื่มวิสกี้คนเดียวในห้องนอนส่วนตัวซึ่งแยกกับภรรยา ระหว่างนั้นเขายกมือที่สั่นเทาของตัวเองขึ้นมาดู ชายหนุ่มมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาจะต้องควบคุมมันให้ได้ ไม่ให้เผลอไปแสดงออกต่อหน้าคนอื่น แต่ในขณะเดียวกันนั้นคำพูดของหญิงสาวซึ่งเด็กกว่าเขาเป็นรอบก็โผล่ขึ้นมาในหัว
ใจของเขาสงบลงมากกว่าเดิม มันไม่ได้ร้อนรนทุรนทุรายอีกต่อไป คงต้องขอบคุณแม่เด็กสาววารีคนนั้น... เป็นน้ำดับทุกข์สมชื่อจริงๆ
เก้าโมงเช้า
ชรันมาถึงโรงแรมพร้อมด้วยประจักษ์เลขาคนสนิทตามปกติ เขายังคงบริหารจัดการงานได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นทุกวัน สิ่งที่ไม่ปกติเดียวของเขาในวันนี้คือจิตใจ... ชายหนุ่มค่อนข้างสับสน ในหัวของเขา คอยแต่คิดถึงดวงหน้าหวานที่เปื้อนเปรอะไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้นไห้ออกมา วารีคนนั้น คนที่ร้องไห้ไม่มีเสียง คนที่กล้าเล่าเรื่องตัวเองให้เขาฟังอย่างจริงใจ คนที่กล้าของานเพื่อช่วยพี่ชายและเสนอตัวช่วยเรื่องอาการมือสั่นและอาการกลัวกลางคืนของเขา
‘จักษ์แกโอนเงินให้แม่ใหญ่หรือยัง’
‘เรียบร้อยแล้วครับคุณเพชร’
‘ดี’
‘วันนี้หน้าตาของคุณเพชรดูสดชื่นขึ้น... เพราะนอนได้มากกว่าเดิมหรือเปล่าครับ’
‘อืม’ ชรันตอบรับไปตามความจริง เช้านี้เขารู้สึกผ่อนคลาย และอบอุ่นในใจแปลกๆ
‘แกมีอะไรก็ไปทำเถอะ... แล้วเรื่องโรงแรมที่สิงคโปร์ เรียบร้อยดีใช่มั้ย’
‘เรียบร้อยดีครับ ผมโทรสอบถามตั้งแต่เช้าแล้ว’
‘ดีมาก’
ประจักษ์ค้อมหัวก่อนเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ชรันจมดิ่งอยู่กับความคิดที่สลัดออกจากหัวไม่ได้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยที่สุดที่เขาเคยนอนด้วย แต่เธอเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขที่สุด
แถมเธอยังมาล่วงรู้ความลับที่เขาปกปิดมันไว้อีก เพราะมีเพียงแค่คนสนิทจริงๆ ที่รู้เรื่องของเขา
ผิวของเธอสวยเนียนละเอียดมือ... กลิ่นหอมหวานที่ซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก ทำให้ชายหนุ่มเผลอยกยิ้มมุมปากอย่างไม่รู้ตัว
……
รชนิชลมาเยี่ยมพี่ชายที่โรงพยาบาล เธอนั่งคุยกับพ่อถึงอาการของพี่ชาย พี่ชายของเธออาการยังไม่ดีขึ้น มีแต่อาการทรงๆ และต้องพยุงไว้ไม่ให้ทรุดไปมากกว่านี้
หญิงสาวพูดคุยกับพ่อต่ออีกสองสามคำ กำชับให้พ่ออย่าลืมดูและตัวเองและไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายอีก เธอมาสลับกับพ่อให้พ่อกลับไปพักผ่อน วันนี้เธอจะอยู่เฝ้าพี่ชายเอง
หลังจากส่งพ่อกลับบ้าน รชนิชลก็จะดูนาฬิกา ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว นอกจากภาพอาการป่วยของพี่ชาย ก็มีภาพความไม่ปกติของชายหนุ่มอีกคนที่เธอไม่สามารถสลัดเขาหลุดออกไปได้ ในห้วงความคิดของเธอยังคงย้อนไปถึงคืนแรกของการมีความสัมพันธ์กับชรันอยู่เสมอ และยังคงเต็มไปด้วยภาพการพบเจอกับเขาในอีกแปดครั้งถัดมา
เธอถูกเรียกจากแม่ใหญ่ให้ไปหาเขาอาทิตย์ละสองถึงสามครั้ง และทุกครั้งที่ไปหา เธอก็จะคอยสังเกตและดูอาการท่าทางของเขาตลอด เอาเข้าจริงหญิงสาวก็ไม่ได้ใช้วิธีการบำบัดอะไร มีแค่การใช้สัมพันธ์ทางกายในการช่วย และพยายามทำให้เขารู้สึกสบายใจในเวลากลางคืนก็เท่านั้น
เธอถึงกับไปที่ห้องสมุดเพื่อค้นคว้าหาสาเหตุ เพราะอยากให้เขาได้ใช้ชีวิตแบบปกติ บางทีก็แอบคิดว่าชรันอาจจะต้องการความสัมพันธ์ทางกาย ในการช่วยให้ความกลัวต่อกลางคืนมันลดลง
แต่ในเมื่อมีภรรยาแล้วทำไมถึงไม่เลือกที่จะอยู่กับภรรยาแต่เลือกที่จะซื้อบริการของโคมแดงแทน หญิงสาวเหม่อลอยคิดวนไปต่างๆ นานา จนกระทั่งเสียงในโทรทัศน์ดังขึ้น เป็นการรายงานข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวโรงแรมสาขาใหม่ของชรัน ซึ่งกำลังเป็นข่าวดังในตอนนี้
และชายหนุ่มในทีวีก็คือชรันที่กำลังกล่าวเปิดงานอยู่ รชนิชลมองเขาผ่านทางหน้าจอทีวี และสักพักเธอก็ได้ยินเสียงพยาบาลในห้อง พูดถึงผู้หญิงคนที่อยู่ข้างๆ ชรันในข่าว
ซึ่งเธอดูสวยแถมเหมาะสมกับชรันเป็นอย่างมาก นั่นก็คือภรรยาของเขาเอง... คุณดารินทร์
“เหมาะสมกันมากเลยเนอะ”
“ใช่ คุณดารินทร์สวยสง่า เดินไปด้วยกันเป็นคู่กิ่งทองใบหยกเลย”
“คุณชรันก็ทั้งหล่อ ทั้งรวย แต่งงานกันมาตั้งนาน ทำไมถึงไม่มีโซ่ทองคล้องใจก็ไม่รู้ ลูกออกมาคงหน้าตาดีตามพ่อกับแม่แน่นอน”
“ไปทำงานต่อกันเถอะ เดี๋ยวโดนหัวหน้าดุ”
รชนิชลจ้องมองไปที่ทีวีเห็นเขาเดินเคียงข้างกับภรรยา ก็ดูเขาจะใส่ใจภรรยามากเป็นพิเศษ ทำให้หญิงสาวรู้สึกผิด ร่วมกับมีความรู้สึกสงสารคุณภรรยาที่สามีมาใช้บริการโคมแดงเพื่อนอนกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้
แต่เธอก็ได้แค่คิดอยู่ในใจ นั่นเพราะเธอก็ยินยอมที่จะร่วมรักกับชรันเหมือนกัน เธอไม่ปฏิเสธว่าเธอรักการสัมผัสจากเขา มันทำให้เธอมีความสุข แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เธอต้องเอ่ยถามเบาๆ กับจอทีวี ที่ไม่มีคำตอบกลับมาว่า
‘คุณเป็นคนยังไงกันแน่นะ?’
ความรู้สึกที่เริ่มถักทอในใจของหญิงสาว ซึ่งมีต่อชรันมันเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เจอเขา...
แกจะต้องระวังเรื่องความอ่อนไหวเพราะเขามีภรรยาแล้ว เข้าใจไหมรชนิชล แกจะเผลอใจให้เขามากกว่านี้ไม่ได้ ถ้าแกไม่อยากเสียใจในอนาคต หญิงสาวพูดเบาๆวนไปวนมา