ชายหนุ่มไล่สายตามองเธอไปทั่วร่างอย่างพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะเริ่มไล้ริมฝีปากและจมูกสำรวจไปทั่วผิวกายสาว ขณะสัมผัสด้านล่าง ที่มีชั้นในตัวจิ๋วไปด้วย สัมผัสของเขาสร้างความเสียวซ่าน จนต้องบิดตัวเร่าๆ
ฝ่ามือหนาฟอนเฟ้นไปทั่วร่างบางที่จับตรงไหนก็นิ่มลื่นราวกับเส้นไหม กลิ่นแชมพูกับสบู่ที่เธอใช้ปลุกเร้าอารมณ์ดิบเถื่อนของเขาให้โหมกระหน่ำ
นานแค่ไหนแล้วหรือ... ?
แทบไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่จะทำให้เขาอยากเป็นเจ้าของเธอแบบนี้ แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาที่แต่งงานกันมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเขายังไม่เคยแตะต้องเธอเลย
ฝ่ามือหนากอบกุมนวลเนื้ออวบอิ่มของดอกไม้แรกแย้ม ไล้ไปมาพร้อมกับแหวกชั้นในตัวจิ๋ว ก่อนจะใช้ปลายนิ้วข้างหนึ่งแตะบนปุ่มสีชมพูตรงกลาง เคล้าคลึงบดไล้ไปตามแรงอารมณ์
พร้อมสอดประสานนิ้วเรียวอีกข้างเข้าไปตรงร่องสีชมพู เมื่อกลีบกุหลาบแรกแย้มถูกกระตุ้น น้ำหวานสาวก็หลั่งไหลออกมาได้ไม่ยากจนรู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะตรงหน้าขาด้านใน
‘อ๊ะ’ รชนิชลเปล่งเสียงครางน่าอาย และเผลอจิกเล็บลงบนที่นอน พร้อมกับแอ่นลำตัวเข้าหาเขา
‘วารี... เธอชอบแบบนี้มั้ย’ ชรันถามเธอด้วยเสียงกระเส่า
‘…’
‘ตอบฉันสิ ไม่งั้นฉันจะหยุด’ เขาเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเธอ หญิงสาวตอนนี้สติแทบจะไม่เหลือ เธอล่องลอย เบาหวิวราวกับนุ่นโบยบินอยู่กลางอากาศ
‘ช..ชอบค่ะ’ เธอหอบพลางตอบด้วยเสียงกระเส่า
‘ดี... งั้นฉันจะทำแบบนี้กับเธอ’ เขาบดคลึงปุ่มสีชมพูอ่อนของเธอรัวเร็วขึ้น
‘อ๊า!’ หญิงสาวบิดตัวไปตามพร้อมกับครวญครางออกมาด้วยความกระสัน
‘ร้องออกมาดังๆ ฉันชอบเสียงเธอ’ เขาออกคำสั่ง
รชนิชลเม้มกัดริมฝีปากไว้ไม่ให้เผลอครวญครางเสียงอันน่าอายออกไป จนริมฝีปากเริ่มเจ็บและรับรู้ได้ถึงกลิ่นเลือดที่อยู่ภายใน
‘อย่ากัดปากตัวเองแบบนั้น... ฉันไม่ชอบ’ เขาดุเธอด้วยเสียงแหบพร่า
เธอจึงปรือตามองเขาด้วยสายตาที่ฉ่ำไปด้วยเสน่หา
ไม่นานนักชรันก็สวมใส่เครื่องป้องกัน พร้อมจ่อแก่นกายใหญ่โตพยายามชำแรกเข้าไปในกลีบดอกไม้ ช่องทางสาวคับแน่นจนเขาไม่สามารถดุนดันมันเข้าไปได้ในครั้งเดียว
ฝ่ามือหนาบีบเค้นทรวงอกของเธอ ขณะรชนิชลก็มองมือที่สั่นเทาของเขา แล้วจับมือเขาอย่างอ่อนโยนจนชายหนุ่มสัมผัสได้
ชรันมองการกระทำของเธอด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ล้ำลึกจนเกินที่เธอจะคาดเดาได้ นาทีที่เธอเผลอจ้องตาเขา ชายหนุ่มก็ดุนดันตัวตนของเขาเข้าไปจนสุด
รชนิชลน้ำตาไหลรินออกมาด้วยความเจ็บปวดที่ถูกพรากพรหมจรรย์ หากแต่เธอไม่ได้กรีดร้องออกมา หญิงสาวเลือกที่จะกัดปากตัวเองเพื่อกดข่มความเจ็บปวด
ชรันเห็นแบบนั้นจึงใช้หัวแม่มือไล้ไปตามริมฝีปากเธออย่างแผ่วเบา ท่าทีไม่ประสีประสา การอดกลั้นต่อความเจ็บปวดของหญิงสาวและช่องทางที่คับแน่นจนแก่นกายเขาปวดหนึบ ทำให้ชายหนุ่มเผลอไผลแสดงความอ่อนโยนออกไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาใช้หลังมือเกลี่ยน้ำตาให้เธอ พร้อมกับเอ่ยถามว่า
‘ยังเจ็บอยู่มั้ย... ฉันขอโทษนะ’ คำขอโทษที่เอื้อนเอ่ยออกไปอย่างแผ่วเบา ซึ่งเขาจำแทบไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เขาเอ่ยคำนี้คือตอนไหน เพราะเขาเกลียดที่คนเรามักใช้คำนี้เพื่อแก้ตัวเวลาที่ทำอะไรผิด
‘อย่าเกร็ง ปล่อยตัวตามสบายนะ’
‘…’ หญิงสาวขมวดคิ้วแน่นด้วยความเจ็บ เธอไม่ตอบแต่พยักหน้ารับ
เมื่อเห็นร่างเล็กเริ่มผ่อนคลายลง ร่างสูงจึงเริ่มขยับตัวเข้าออกเป็นจังหวะ จนคนใต้ร่างเกร็งกระตุกเป็นระยะ
เสียงเนื้อกระทบเนื้อผสมปนเปไปกับเสียงโยกคลอนของเตียงนอน จนแยกไม่ออกว่าเสียงไหนเป็นเสียงไหน ชายหนุ่มค่อย ๆ เร่งจังหวะขยับร่างเร็วขึ้นจนในที่สุดเขาเขาคำรามลั่นห้อง พร้อมความอุ่นวาบในช่องท้องที่เธอรู้สึกได้ จากนั้นเขาก็ถอดถอนตัวตนออกมา
เลือดสีแดงที่ติดอยู่รอบถุงยางอนามัย บ่งบอกได้ว่าผู้หญิงคนนี้... ยังบริสุทธิ์ เลือดของเธอเปรอะเปื้อนมือเขา สิ่งนี้สะกิดใจชายหนุ่มอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็สลัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว เขาโยนถุงยางทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างตัวและล้างมือ ก่อนจะกลับออกมาอีกครั้ง เขามองเธออย่างหิวกระหายราวกับราชสีห์ที่กำลังจะตะครุบหนูขาวตัวกระจ้อย
เธอสังเกตมืออันสั่นเทาของเขาได้อีกครั้ง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาไม่ได้สัมผัสเนื้อตัวของเธอ เขาหยิบเครื่องป้องกันมาสวมใส่อีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าหาหญิงสาวและเริ่มต่อรอบสอง เสียงครวญครางของหญิงสาวพร้อมกับเสียงครางในลำคอของเขาสอดประสานกันไปพร้อมๆกับความสั่นไหวของเตียง ก่อนที่ชายหนุ่มจะเสร็จสมปล่อยธารน้ำขาวขุ่นข้นเต็มถุงยาง
หลังจากเสร็จกิจรอบสอง รชนิชลนอนหมดแรงอยู่บนเตียง ในขณะที่ชายหนุ่มผละตัวลุกออกไปเพื่อตรงไปยังห้องน้ำ โดยหันมาเอ่ยสั่งเบาๆ ว่าเธอสามารถนอนพักที่นี่และค่อยออกไปในช่วงเช้าได้ หญิงสาวที่ได้ยินก็ขานรับเสียงสั่นๆ อย่างไม่ได้คิดอะไรมากมายนัก ความเหนื่อยล้าทำให้เธอยากสูดอากาศสักหน่อย หญิงสาวลุกจากเตียงพลางเดินไปที่ริมหน้าต่าง
เธอพึ่งจะรูดผ้าม่านยังไม่ทันได้จับบานหน้าต่าง เสียงดุราวกับราชสีห์ของชรันก็ดังออกมาจากห้องน้ำ เขาคงได้ยินเสียงเธอรูดม่าน
‘ใครอนุญาตให้เธอลุกเดินไปทั่ว อย่ายุ่งกับหน้าต่างและปิดม่านเดี๋ยวนี้!’ น้ำเสียงของเขาดุดันและจริงจังจนรชนิชลตกใจกลัวและรีบรูดม่านปิดไว้ตามเดิม หญิงสาวถลากลับขึ้นไปนอนบนเตียงก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
หลังจากนอนเอาแรงได้พักหนึ่ง หญิงสาวก็ได้แต่นึกกับตัวเองว่าผิดคาด ที่การมีความสัมพันธ์ครั้งแรกไม่ได้เจ็บปวดมากอย่างที่คิดไว้
เธอไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าอาจด้วยชายหนุ่มหรือคุณชรันค่อนข้างถนอมเธอ เขาไม่ได้เอาแต่ใจจนเกินไป แม้ช่วงท้ายจะรุนแรงเล็กน้อยแต่ก็ปลอดภัย เพราะเขาสวมใส่ถุงยางอนามัย ไม่ด้นสด ทั้งสองรอบจึงเป็นการร่วมรักที่เธอเผลอมีอารมณ์ร่วมจนเสร็จสมไปกับเขา
หญิงสาวนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยสักพัก เธอยังคงสับสนกับตัวเองที่ตอนนี้มานอนอยู่บนเตียงในคอนโดหรู กับชายแปลกหน้าที่แทบจะไม่รู้จักกันได้ยังไง
ผ่านไประยะเวลาหนึ่งเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วสวมใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายกลับคืนเหมือนเดิม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตอนจะมีอะไรกับเธอเขาได้ถอดวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง
‘เลขาของฉันจะจัดการเรื่องโอนเงินไปให้แม่ใหญ่เอง พรุ่งนี้เธอจะได้รับ’
‘ขอบคุณค่ะ’ เธอยกมือไหว้ขอบคุณเขา ด้วยมือที่กำผ้าห่มไว้แน่น คล้ายกับต้องการให้มันเป็นเกราะกำบัง
‘คืนนี้ขอบใจเธอมาก’
‘ค่ะ’
ชรันกำลังจะเดินออกไปจากห้อง แต่รชนิชลก็เผลอพลั้งปากถามในสิ่งที่สงสัย
‘คุณ... กลัวตอนกลางคืนเหรอคะ?’
‘…’
และนั่นเป็นครั้งแรก... ที่ราชสีห์ทองคำ หันสายตามาสบประสานกับเธออย่างจริงจัง เขาก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ คล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง