สรุปว่าเป็นอันตกลง รชนิชลเซ็นชื่อของเธอลงไปในกระดาษ เธอรู้ดีว่าหลังจากที่เธอจรดปากกาเซ็นสัญญานี้ และนับแต่นี้ เธอคือสินค้าที่มีชีวิตภายในร้านโคมแดง และมีหน้าที่รองรับแขกการ์ดทองคำคนนั้น
เธอโดนผู้ช่วยของแม่ใหญ่พาไปอีกห้อง มีผู้หญิงสองคนจับเธออาบน้ำและขัดสีฉวีวรรณตัวเธอทุกซอกทุกมุม ทุกซอกทุกมุมจริงๆ จนเธอคิดว่าตัวเองคงจะตัวเปื่อย
ผู้หญิงทั้งสองคนพูดไม่หยุดปากว่าผิวของเธอทั้งนิ่มและหอม ก่อนจะจับเธอขึ้นจากน้ำ แล้วพาเธอทำผมแต่งตัวจนเรียบร้อย จากนั้นแม่ใหญ่เดินถือบุหรี่เข้ามาพลางสอนและบอกเธอถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอจำเป็นต้องรู้ ทั้งเรื่องความชอบของผู้ชายที่เธอต้องไปปรนนิบัติ การวางตัว และเรื่องเซ็กส์... หญิงสาวกังวลใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็พยายามจดจำรายละเอียดที่แม่ใหญ่บอกแต่โดยดี หลังจากนั้นผู้ช่วยแม่ใหญ่จึงลงไปส่งเธอขึ้นรถ
มือเรียวยกนามบัตรหรูขึ้นมองอีกครั้ง ขณะที่รถจอดลงที่ชั้นรองรับสูงสุด เขตหวงห้ามที่เข้าได้เฉพาะผู้เกี่ยวข้อง ดวงตาไล่จดจำชื่อที่สลักอยู่ในนั้นจนขึ้นใจ เพื่อไม่ให้ผิดพลาดสำหรับครั้งแรก ชื่อของราชสีห์แห่งตึกระฟ้า...
ชรัน สีหโรจนภูวดล
เมื่อรถจอดสนิท เธอมองออกไปนอกตัวรถ เห็นผู้ชายคนหนึ่งประสานมือยืนรออยู่ ประมาณด้วยสายตา เขาคงอายุประมาณสามสิบปลายๆ แต่น่าจะยังไม่สี่สิบ ชายคนนั้นอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กับกางเกงสแล็กส์ที่ดูภูมิฐาน เขาเดินเข้ามาเปิดประตูรถให้เธอ
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้ง ก่อนจะก้าวลงจากรถด้วยความประหม่า ต้องเป็นผู้หญิงที่หน้าด้านแค่ไหน ที่รู้ทั้งรู้ว่าเขามีเมีย แต่ก็ยังเสนอหน้ามานอนกับเขา
แต่ตอนนี้เธอเป็นสินค้าและเธอต้องการเงิน รชนิชล...เธอตัดเรื่องอื่นออกไปก่อน คิดเช่นนั้นหญิงสาวจึงวางหน้าเฉย ส่งยิ้มน้อยๆ แบบฝืนๆ ไปให้ผู้ชายตรงหน้า
‘สวัสดีครับ ผมประจักษ์เป็นเลขาของคุณชรัน เชิญคุณเดินตามผมมาเลยครับ’ ชายหนุ่มภูมิฐานคนนั้นหรือประจักษ์ เลขาของคุณชรันชายที่เธอต้องไปปรนนิบัติ มองหน้าเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ยังคงปฏิบัติต่อเธออย่างให้เกียรติไม่ขาดตกบกพร่อง
รชนิชลยกมือไหว้เขาตามมารยาทเพราะเธอเด็กกว่าเขามาก ก่อนจะก้าวเดินตามเข้าไปข้างใน เมื่อเข้าสู่ตัวอาคารแอร์เย็นสัมผัสผิวกายเธอจนรู้สึกเย็นวาบไปถึงขั้วหัวใจ ประจักษ์เดินนำเธอไปจนถึงลิฟต์หรูซึ่งอยู่สุดทางเดิน
หลังจากขึ้นลิฟต์สุดหรูดังกล่าวขึ้นมาจนถึงชั้น 64 เธอก็พยายามควบคุมลมหายใจอีกสองถึงสามครั้ง ก่อนเลขาของเขาจะผายมือไปยังบานประตูไม้ตรงสุดทางเดินให้เธอ แล้วเดินจากไป
เธอยืนจ้องประตูไม้บานใหญ่นั้นอยู่อึดใจ ก่อนจะทำตามที่ได้รับการสั่งสอนจากแม่ใหญ่ เริ่มจากเคาะประตูก่อน และรับฟังเสียงขาน เมื่อได้ยินเสียงขานรับให้บอกชื่อตนเอง ‘วารี’ ...เธอเลือกใช้ชื่อนี้เป็นในวงการที่ดัดแปลงออกมาแล้วแปลว่าน้ำ ตามชื่อจริงและชื่อเล่นของเธอ
‘เข้ามา’
ชายหนุ่มที่อยู่ด้านในตอบรับด้วยเสียงทุ้มต่ำ
รชนิชลผลักประตูก่อนจะเดินเข้าไปและในเสี้ยวนาทีนั้น ดวงตาของเธอก็ต้องปรับโฟกัสกับแสงสว่างในห้อง ที่สว่างจ้าราวกับอยู่ในช่วงกลางวัน ทั้งที่จริงขณะนี้เป็นเวลาดึกมาแล้ว
หญิงสาวเริ่มวางตัวไม่ถูก ในใจคิดไว้ว่าบรรยากาศควรจะเป็นแสงสลัวๆ เหมือนในหนังที่เคยดู แต่ตอนนี้ราบกับกลับตาลปัตรไปมาก กระทั่งเสียงทุ้มใหญ่คำรามดังอีกครั้ง
เธอทำหน้าเลิ่กลั่ก เพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรก่อนดี สายตาของเธอถึงไปหยุดที่ผู้ชายตัวสูงใหญ่
และนั่นทำให้เข้าใจคำว่าราชสีห์ในคราบมนุษย์อย่างถ่องแท้
‘วะ..วารีค่ะ’ หญิงสาวพูดแนะนำตัวอย่างตะกุกตะกัก
เธอหลุบตาลงต่ำขณะแอบมองไล่สำรวจรูปลักษณ์ และเข้าหาตามคำสั่งของเขาอย่างช้าๆ ด้านชรันก็ไล่สายตามองมาที่เธอ ก่อนจะพึมพำเบาๆ ว่า
‘เหมือนจริงๆ เสียด้วย อย่างที่แม่ใหญ่บอก’
รชนิชลที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถาม ‘คุณพูดว่าอะไรนะคะ’
เธอช้อนตาขึ้นประสานกับเขา ก่อนจะหลุบสายตามองพื้น เมื่อได้ยินประโยคต่อมาของชายหนุ่ม
‘เธอพูดมากเกินความจำเป็น’ เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ ‘เริ่มงานของเธอได้แล้ว’
รชนิชลยังยืนนิ่งอยู่กับที่ เขาเหลือบสายตามองไปที่เธออย่างรำคาญ ก่อนเขาจะตัดสินใจดึงแขนเรียวให้ร่างบางลงมานั่งบนตัก
‘เธอคิดว่าควรจะทำอะไรก่อนดี’ เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นอย่างคาดเดาความรู้สึกไม่ถูก
หญิงสาวพยายามคิดถึงวิธีการในหัวว่าควรจะเริ่มต้นจากตรงไหน ก่อนจะตัดสินใจปลดเดรสสายเดี่ยวลงไปกองที่เอวด้วยความประหม่า ทรวงอกอิ่มปรากฎสู่สายตาของชายหนุ่ม
มือน้อยๆ ค่อยๆเลื่อนไปจับตรงสายเสื้อคลุมของเขา ก่อนจะเปิดออกจากกัน เผยให้เห็นกล้ามท้องที่เป็นลอนสวย ทั้งรูปร่าง กลิ่นกาย และสัมผัสทำให้เธอรู้สึกอื้ออึงในหัวพร้อมทั้งหายใจไม่ออก หัวใจเต้นรัวแรงราวกับกลองศึกดังออกมาจนได้ยินชัดเจนเพราะห้องที่เงียบกริบ
เธอสังเกตเห็นว่ามือของเขาสั่นเทา ยามที่แตะต้องไปตามร่างกายของเธอ เธอจึงประคองฝ่ามือเขาทั้งสองข้าง ให้มาลูบไล้ที่ตัวเอง และเอนใบหน้ากับริมฝีปากเข้าไปพูดด้วยเสียงอันสั่นไหวเล็กน้อย แต่กลับกลายเป็นการกระตุ้นอารมณ์ของเขาโดยธรรมชาติ
‘สัมผัสในที่ที่คุณต้องการสิคะ’
ชรันหัวเราะในลำคอไปกับความไม่ประสีประสาของเธอ ก่อนเขาจะอุ้มร่างเกือบเปลือย พาเดินไปที่เตียงนอนใหญ่ วางเธอลงพร้อมรั้งเดรสตัวสวยออกจากร่างบาง เหลือทิ้งไว้เพียงชั้นในตัวจิ๋วที่แทบจะปกปิดอะไรไม่มิด