8
โก้สงสารและเห็นใจดวงดารามาก เขาเคยพูดและตักเตือนเมญ่าหลายครั้ง เรื่องการพูดจาดูหมิ่นดูแคลนและเหยียดหยาม รวมถึงพูดจาไม่ดีใส่ดวงดาราที่ทำงานอย่างดี ไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่มีปากมีเสียง ทำตามคำสั่งทุกอย่างและที่สำคัญมีความซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ ซึ่งหาไม่ได้ง่ายในในยุคปัจจุบัน หากทำเกินกว่าเหตุดวงดาราอาจทนไม่ไหวคิดลาออก คราวนี้เมญ่าจะไม่มีคนรองรับอารมณ์ ไม่มีคนคอยเก็บคราบความสุขที่ไม่คิดทำลายทิ้งด้วยตัวเอง ทว่าเมญ่ากลับเมินเฉย ไม่ใส่ใจคำพูด คำเตือนของโก้ บางครั้งกลับทำให้เมญ่ายิ่งโขกสับดวงดารามากขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ลิซทนได้ อีกอย่างเมญ่ามีบุญคุณกับลิซ ถ้าลิซไม่ได้แม่ย่าช่วย...” ดวงดารายังพูดไม่ทันจบประโยค สาวประเภทสองก็วีนใส่
“โอ๊ย! แม่คุณ จะเป็นนางเอกอีกนานไหมเนี่ย บุญคุณมันหมดไปตั้งนานแล้วมั้ง”
“จริงๆ แล้วเมญ่าก็ไม่ได้ร้ายอะไรหรอกค่ะพี่โก้ ถ้าไม่หงุดหงิดไม่พอใจเธอก็น่ารักดี บางครั้งมีน้ำใจให้ลิซกับลูกด้วย” ดวงดาราแก้ตัวแทนเมญ่า “ลิซขอบคุณพี่โก้มากนะคะที่เป็นห่วงลิซ แต่ลิซยังไหว ลิซโอเคค่ะ”
ดวงดาราไหว้โก้ ก่อนกอดโก้อย่างเอาใจ โก้ถอนหายใจพรืดยาว กอดตอบดวงดาราที่เขาเห็นเป็นน้องสาวคนหนึ่ง ในใจคิดว่า หากดวงดาราเป็นเมญ่าก็คงดี เขาจะได้ไม่ต้องทนอยู่กับคนสวยแต่รูปจูบไม่หอม
“หล่อนก็เป็นซะอย่างนี้ เมญ่าถึงได้จ้องจะกัดหล่อน” โก้พูดตามตรง “หล่อนเองก็ไม่ใช่ว่าจะสิ้นไร้ไม้ตรอก ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศสก็เป๊ะ หางานเป็นล่ามก็ได้ ความรู้ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีจบปริญญาตรี มีวุฒิป.ตรีบวกกับเก่งภาษา ไปสมัครงานที่ไหนใครก็รับ หรือถ้าไม่อยากหาเอง ฉันหาให้ได้นะ”
“ขอบคุณพี่โก้มากค่ะ แต่ลิซโอเคค่ะ” ดวงดารายืนยันความตั้งใจเดิม
“ตามใจหล่อน เปลี่ยนใจก็บอกล่ะกัน” โก้รู้ว่า พูดไปก็เปลี่ยนใจดวงดาราไม่ได้ “ว่าแต่เรื่องที่จะให้สองแฝดรับงานโฆษณาว่าไง พี่ไม่อยากให้ลิซปิดกั้นโอกาสนะ หน้าตาสองแฝดหล่อมาก งานเพียบแน่นอนพี่รับรอง เอาหัวเป็นประกันเลย จะได้มีเงินเก็บไว้ให้ลูกเรียนหนังสือไง ลำพังทำงานคนเดียวสมัยนี้ไม่พอนะ มีเงินเก็บไว้เยอะๆ อุ่นใจกว่านะลิซ”
โก้พูดถูก ในยุคปัจจุบันค่าใช่จ่ายมีแต่จะสูงขึ้น รายได้หลายครอบครัวไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ต้องกู้หนี้ยืมสิน ดวงดาราแม้ว่าจะไม่มีหนี้สิน อยู่แบบพอเพียง มีเงินใช้จ่ายตามอัตภาพ มีเงินเก็บไว้ส่วนหนึ่งเพื่อการศึกษาของลูกชายทั้งสองคน
รายได้จากการเป็นคนรับใช้ส่วนตัวเมญ่าแม้ว่าจะได้หลักหมื่น แต่ก็ดูเหมือนจะไม่พอ หลายครั้งที่โก้พูดเรื่องนี้ ซึ่งหล่อนเองก็ปฏิเสธเพราะเห็นว่า งานในวงการบันเทิงหนัก ยิ่งเป็นเด็กยิ่งต้องอดทนจนกว่างานจะเสร็จ ทว่าผลตอบแทนก็ทำให้หายเหนื่อย
“งานนึงได้เป็นหมื่นนะลิซ รับงานไม่ต้องเยอะก็ได้ อาทิตย์นึงครั้งนึง สองแฝดจะได้มีเวลาพักผ่อน ทำช่วงเสาร์อาทิตย์ก็ได้จะได้ไม่เสียการเรียน แล้วเอาเงินส่วนนี้เก็บไว้ใช้เวลาฉุกเฉินหรือเก็บไว้ส่งให้ลูกเรียน อย่างน้อยๆ ลิซก็ไม่ต้องกังวลไงว่าจะไม่มีเงินส่งเสียให้ลูกเรียนหนังสือ พี่หวังดีกับลิซนะ โอกาสอยู่แค่เอื้อม อย่าปล่อยมันไป”
โก้รู้จักคนในแวววงบันเทิงเยอะ และหลายงานไม่ว่าจะเป็นโฆษณา ละคร เดินแบบ ถ่ายแบบต่างต้องการเด็กชายหน้าตาดีมาร่วมงาน เขาคิดว่าตนเองหางานให้สองแฝดได้ไม่ยาก จึงอยากให้ดวงดารายินยอมให้ลูกชายฝาแฝดรับงานในวงการบันเทิง
“แล้วแต่พี่โก้เห็นสมควรก็แล้วกันค่ะ แต่พี่โก้อย่าทำฟรีๆ เลยนะคะ หักค่าเปอร์เซ็นต์ก็ได้ค่ะ” ลิซจำนนต่อเหตุผลและการโน้มน้าวของโก้ แต่ก็ยังให้ความเกรงใจเรื่องรายได้ส่วนแบ่ง
“ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับหล่อนหรอกย่ะ ถึงฉันจะหน้าเงินก็เถอะ แค่เห็นหล่อนถูกโขกสับแล้วฉันช่วยอะไรไม่ได้ก็รู้สึกผิดมากแล้ว หรือถ้าหล่อนเกรงใจฉัน หนึ่งมื้อต่อหนึ่งงานโอเคป่ะ”
“โอเคค่ะพี่โก้”
“ตามนี้นะ ฉันจะหางานให้สองแฝด เอาแบบงานแรกเปรี้ยงเลย”
โก้มั่นใจว่าตนเองทำได้ จะให้เสียชื่อนักปั้นมือทองได้อย่างไร งานนี้ไม่เปรี้ยงไม่ใช่โก้ ทั้งคู่ยิ้มให้กันก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงาน
20.05 น.
เอเดนนั่งแกว่งแก้วบรั่นดีในมือ สายตาเขามองไปยังเครื่องดื่มที่อยู่ในแก้ว ทว่าสมองกลับคิดถึงดวงดารา สาวใช้ส่วนตัวของเมญ่า เขาพยายามปัดความคิดถึงนั้นทิ้งไป แต่ก็ทำยาก ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มของดวงดาราที่พอนึกถึงทีไร เอเดนก็จะยิ้มตามไปด้วย ดวงหน้าหวานแม้ว่าความสวยจะไม่ทิ่มตาทิ่มใจตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างน่าประหลาด นึกถึงความคล่องแคล่วในการทำอาหาร รสชาติความอร่อยยังติดอยู่ในปาก เขาก็นึกอยากกินอาหารฝีมือหล่อนขึ้นมา เขาไม่เคยคิดถึงผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน ดวงดาราเป็นคนแรกที่ทำให้ต่อความคิดถึงเขาทำงานหนักมาก
ในความคิดถึงก็มีความสงสารเข้ามาแทรก เขายังจำสีหน้าของดวงดาราตอนพูดคุยกับเมญ่าได้ดี แม้ว่าฟังภาษาไทยไม่ออก จากสีหน้าของผู้พูดแสดงให้เห็นถึงความเย้ยหยัน ส่วนคนถูกสั่งก็หน้าเศร้า จนเขาอยากเข้าไปกอดปลอบ
“เป็นอะไรวะทำไมต้องคิดถึงลิซด้วย” เอเดนพูดกับตัวเอง เอนหลังพิงโซฟา ตามองเพดานห้อง
“คุณเอเดนเป็นอะไรครับ เห็นจ้องแต่แก้วบรั่นดี รสชาติไม่ถูกปากหรือครับ”
โคลล์ลูกน้องคนสนิทของเอเดนเอ่ยถามเจ้านาย เมื่อสังเกตเห็นเอเดนเอาแต่นั่งมองแก้วเหล้า ไม่จิบดื่มอย่างที่ควรจะเป็น
“ถูกปากสิ ถูกใจด้วย เอ๊ย! ไม่ใช่ ฉันแค่คิดอะไรเพลินๆ” สองประโยคแรก เอเดนพูดไม่รู้ตัว ดีที่ได้สติทัน เขาวางแก้วบรั่นดีลงบนโต๊ะ ก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ฉันจะออกไปข้างนอก ให้โรงแรมเรียกแท็กซี่ให้ด้วย”
“คุณเอเดนจะไปไหนครับ ให้ผมกับคริสเตียนไปด้วยไหมครับ”
“ไม่ล่ะ ฉันจะไปหาเมญ่า”
โคลล์มองหน้าเจ้านาย แต่ก็ไม่พูดหรือถามอะไร เดินไปโทรศัพท์บอกทางโรงแรมให้จัดการเรื่องเจ้านายต้องการ
ส่วนคนสั่งก็หยิบมือถือขึ้นมา กดหมายเลขมือถือของเมญ่าที่หล่อนจัดแจงบันทึกไว้ให้ สนทนาไม่ถึงนาที การพูดคุยก็จบลง ไม่นานนักเสียงข้อความในมือถือเอเดนดังขึ้น เขากดดูข้อความที่ส่งมา มันคือที่อยู่ที่เมญ่ากำลังถ่ายทำละคร เมญ่าส่งข้อความมาเป็นภาษาไทย เพื่อให้เขาให้ที่อยู่กับคนขับแท็กซี่ จะได้มาถูกโดยไม่ต้องถามทาง เอเดนยิ้มก่อนลุกขึ้นยืน เดินออกไปจากห้อง การไปหาเมญ่าครั้งนี้ จุดมุ่งหมายของเขาคือ ไปหาสตรีที่ตนคิดถึง ซึ่งหญิงสาวคนนั้นไม่ใช่เมญ่า ดารานางแบบชื่อดัง