7
“สวัสดีครับคุณเอเดน ไม่นึกว่าจะได้เจอคุณเอเดนที่นี่”
คำทักทายที่แฟรงค์กับเอกอนันต์ได้ยิน บอกให้รู้ว่า นิพนธ์รู้จักชายแปลกหน้าคนนี้
“ผมพักที่นี่ครับ” เอเดนทักกลับ สีหน้าสงสัยเพราะนึกไม่ออกว่าเคยเจอคนทักตอนไหน เมื่อไหร่ “คุณคือ...”
“ผมนิพนธ์ไงครับ ผมกับคุณเคยคุยกันผ่านการประชุมทางไลน์เมื่อเดือนก่อน โปรเจคโรงแรมริเวอร์สกายในจังหวัดภูเก็ตไงครับ บริษัทของคุณให้บริษัทของผมออกแบบภายในให้ วันนี้ผมเอางานมาเสนอให้คุณโอลิเวอร์ครับ” นิพนธ์ทวนความทรงจำให้เอเดน
“อ๋อครับ จำได้แล้วครับ ขอโทษด้วยที่จำคุณไม่ได้” เอเดนกล่าวคำขอโทษพรอ้มรอยยิ้มบาง
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจครับ” นิพนธ์ตอบกลับ “แล้วไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นครับ”
“ไม่มีอะไรครับ ผมเดินไม่ระวังเองเลยชนไทเกอร์ครับ” เอเดนเอ่ยยอมรับผิด เขาไม่โทษเด็ก เพราะเด็กก็คือเด็ก เขาเป็นผู้ใหญ่ต้องมีความระวังมากกว่า
“ผมจะแนะนำให้คุณเอเดนรู้จักกับแฟรงค์ ผู้ช่วยผมเองครับ แฟรงค์เป็นคนออกแบบโปรเจคนี้ครับแล้วก็เป็นพ่อของเด็กสองแฝดครับ แฟรงค์ คุณเอเดน เจ้าของหุ้นส่วนใหญ่โรงแรมรีเวอร์สกาย”
นิพนธ์แนะนำตัวแฟรงค์กับเอเดนรู้จักกัน ทั้งสองจับมือกันตามธรรมเนียมฝรั่ง
เอเดนกำลังเปรียบเทียบหน้าตาของแฟรงค์กับสองแฝดที่ไม่มีส่วนไหนคล้ายกันเลย อาจจะคล้ายตรงที่แฟรงค์เป็นคนต่างชาติเช่นเขา หรือว่าสองแฝดจะหน้าตาเหมือนแม่ มันก็อาจเป็นไปได้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเอเดน”
“เช่นกับครับคุณแฟรงค์” เอเดนทักทายกลับ “ผมขอตัวก่อนนะครับ โอกาสหน้าเจอกันนะครับ”
เอเดนยิ้มบางให้ผู้ใหญ่ทั้งสาม ก่อนก้มหน้ายิ้มกว้างให้เด็กชายฝาแฝดที่พนมมือไหว้แล้วยิ้มกว้างส่งกลับให้ เอเดนนึกเอ็นดูเด็กชายสองฝาแฝดสองคนนี้มาก มากจนอยากจะเอากลับไปเลี้ยงดูที่อิตาลีด้วย แต่ก็คิดว่าคงทำไม่ได้ดังใจคิด เขาใช้มือขยี้หัวเด็กทั้งสองคนก่อนเดินไปยังลิฟต์โดยสารของโรงแรม
“โลกกลมแฮะ กลายเป็นว่า พี่แมนรู้จักคุณเอเดน” เอกอนันต์พูดขึ้นหลังจากเอเดนเดินห่างออกไป “จริงๆ แล้วเสือชนคุณเอเดนนะ แต่เขาก็แมนดี รับผิดแทน”
“สุภาพบุรุษก็อย่างนี้แหละ” นิพนธ์พูด “ปกติแล้วไม่เคยเห็นคุณเอเดนยิ้มกว้างแบบนี้นะ เท่าที่รู้มา เขาไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ สงสัยจะชอบไอ้สองแสบเลยยิ้มซะเห็นฟันเลย”
“แต่ดูท่าทางเขาเอ็นดูสองแฝดนะพี่แมน ตะกี้ตอนที่สิงห์วิ่งชนคุณเอเดน นึกว่าเขาจะเตะใส่ซะแล้ว มองสิงห์นิ่งเลย” เอกอนันต์ว่า
“ก็น่าจะใช่ จากสายตาที่มองน่าจะเป็นอย่างนั้น” ประโยคนี้เป็นของแฟรงค์ “พี่ว่าเราพาสองแสบไปกินเคเอฟซีดีกว่านะ คงหิวแล้ว ผมลานะพี่แมน พรุ่งนี้เจอกันครับ”
แฟรงค์ยกมือไหว้นิพนธ์ เอกอนันต์ เตชินท์และเตมีย์ทำตาม ก่อนที่ทั้งสี่จะเดินออกจากโรงแรมเพื่อไปห้างสรรพสินค้า พาเด็กแฝดไปทำตามโปรแกรมที่ตั้งใจไว้
วันนี้เมญ่ามีถ่ายละครช่วงเย็น สถานที่ถ่ายทำคือคอนโดหรูใจกลางกรุง แน่นอนว่าการมาถ่ายละครของหล่อนแต่ละครั้งจะต้องมีดวงดารามาเป็นคนคอยรับใช้ส่วนตัว โดยมีพี่โก้มาดูแลบ้างเป็นบางครั้ง และวันนี้เขาก็มาในฐานะผู้จัดการส่วนตัว มาบอกเรื่องคิวงานและงานใหม่ที่เพิ่งรับมา
“โห...ไปถ่ายทำไกลขนาดนั้นเลยหรือพี่ ทำไมไม่บอกก่อนจะได้ไม่รับงาน”
เมญ่าโวยโก้เมื่อรู้ว่าต้องเดินทางไปถ่ายทำโฆษณาที่จังหวัดหนองคาย
“เงินมันดี ได้สามล้านเชียวนะ ไปถ่ายแค่วันสองวันเอง อีกอย่างมันก็ไม่ได้ลำบากอะไร นั่งเครื่องไปแล้วไปต่อรถตู้ที่เขามารับที่สนามบิน ไปถึงก็ไปพักที่โรงแรมก่อนไม่ได้ถ่ายเลยซะที่ไหน ถ่ายทำวันรุ่งขึ้น จากที่ดูคงถ่ายไม่กี่ชั่วโมง ตอนเย็นก็บินกลับกรุงเทพฯ แค่นี้ก็ได้เงินตั้งสามล้านแล้ว หล่อนจะบ่นทำไม” พี่โก้สาธยายงาน ก่อนโวยกลับด้วยความหมั่นไส้ “อย่าเรื่องมาก ทำตัวให้เป็นดาราที่น่ารักหน่อย คนจะได้รัก จะได้มีงานเยอะ”
“พี่โก้ก็จะได้มีเงินด้วยใช่ไหมล่ะ กินส่วนแบ่งเมญ่าไปตั้งสามสิบเปอร์เซ็นต์ เสือนอนกินชัดๆ” เมญ่าค่อนขอดใส่ โก้หน้าตึงแต่ก็ยอมรับว่า ตัวเองก็ต้องพึ่งพาเด็กในสังกัด ที่จะว่าไปก็เหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า “แต่ก็เอาเถอะ มันเป็นข้อตกลงระหว่างเราตั้งแต่ต้น อีกอย่างพี่เองก็ไม่เคยเอาเปรียบเมญ่า แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะ”
“ไปวันศุกร์หน้า”
“ไปศุกร์หน้าเหรอ ทำไมเร็วจังล่ะพี่” เมญ่าถามกลับ สีหน้าตกใจ
“คิวหล่อนว่างวันนั้นพอดี อย่าบ่นไปเลยน่า งานนี้มีแต่คนอยากได้นะ ขนาดดาราที่ดังกว่าหล่อนยังไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นอย่าเรื่องมาก” พี่โก้เองบางครั้งก็หน่ายนิสัยเมญ่า ไม่อยากสนใจหรือเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ ทว่าส่วนแบ่งสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ได้รับมันหอมหวาน มากพอที่ทำให้เขาท่องคำว่าอดทน และอดทน ก่อนจะหยิบเอกสารสัญญามาออกมาจากกระเป๋า เพื่อให้เมญ่าเซ็นกำกับ “เซ็นซะ”
เมญ่าถอนหายใจ ก้มมองดูสัญญากรอกสายตาอ่านคร่าวๆ ก่อนเซ็นชื่อลงไปในช่องว่างที่บริษัทจัดจ้างกำหนดไว้
“พรุ่งนี้เมญ่ามีงานที่ไหนบ้าง”
“มีถ่ายแบบที่สตูดิโอโมเดลช่วงเก้าโมงเช้า มีงานอีเว้นท์เปิดตัวน้ำหอมที่สยามพารากอนตอนบ่ายโมง” โก้ตอบ
“แค่นี้”
“อืมแค่นี้”
“ช่วงเย็นก็ว่างน่ะสิ” เมญ่าคล้ายพูดกับตัวเอง
“ทำไม หล่อนจะไปไหน”
“มีนัดสำคัญกับแขกของคุณพ่อ” เมญ่าตอบ จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่กองถ่ายมาเรียกเมญ่าไปเข้าฉาก หล่อนลุกเดินไปแต่โดยดีด้วยรอยยิ้ม โก้จึงไม่ทันได้พูดอะไรและคร้านจะเอ่ย เขาลุกขึ้นเดินไปหาดวงดาราที่กำลังเก็บอุปกรณ์แต่งหน้าส่วนตัวของเมญ่าใส่ในกระเป๋าใส่เครื่องสำอาง
“ลิซ ฉันซื้อขนมฝากเธอกับสองแฝด” โก้ชี้ไปทางถุงขนมจากร้านดังที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ขอบคุณค่ะพี่โก้” ดวงดาราพนมมือไหว้
“สองแฝดเป็นไง พี่ไม่ได้เจอตั้งหลายวันแล้ว”
“สบายดีค่ะ ซนตามประสาเด็กค่ะ”
“พี่ว่าเสือกับสิงห์หน้าตาน่ารักนะ เป็นลูกครึ่งด้วย ถ่ายโฆษณาได้สบาย เอาไหมพี่หางานให้ จะได้มีรายได้ไง” โก้หวังดีกับดวงดาราจากใจ “พี่ไม่หักค่าเปอร์เซ็นต์ พี่อยากให้ลิซหลุดจากนางแม่มด ไม่อยากให้ลิซถูกกดขี่แบบนี้”