ขวัญชนกพยักหน้ารับแล้วพูดโทรศัพท์กับพ่อต่อ ”พ่อค่ะ น้องอาร์ตจำทะเบียนไม่ได้เพราะรถอยู่ไกลมาก”
“เดี๋ยวพ่อจะลองติดต่อกับเจ้าของอู่รถแท็กซี่ก่อน แค่นี้นะลูก” พลโทธิติกดวางสายไปเมื่อเอ่ยบอกเสร็จ
ขวัญชนกวางโทรศัพท์จากพ่อแล้วโทรเข้าเบอร์บ้านของแม่น้องบลู หญิงสาวรอประมาณ 3 นาที ก็ไม่มีใครรับสาย ลองกดโทรไปอีกครั้งก็ไม่มีใครรับสายเหมือนเดิม ครูสาวจึงกดเข้าเบอร์มือถือของข้าวปุ้นน้าสาวของน้องบลู หญิงสาวรอสักครู่ก่อนที่ปลายทางจะรับสาย
“สวัสดีค่ะ คุณข้าวปุ้นใช่มั้ยคะ เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งวางสาย” ขวัญชนกรีบตะโกนห้ามเสียงหลง เมื่ออีกฝ่ายเข้าใจว่าเธอเป็นพนักงานขายบัตรเครดิตแล้วบอกว่าไม่ว่างรับสายให้โทรมาขายบัตรเครดิตวันหลัง
“คุณข้าวปุ้นค่ะ นี่ครูหลินเองนะคะ คือหลินจะบอกว่า น้องอาร์ตเขาเห็นน้องบลูเป็นคนสุดท้าย หลินกำลังพาน้องอาร์ตไปที่บ้านคุณข้าวปุ้นน่ะค่ะ” ขวัญชนกรีบบอกรัวเร็ว
“อ้าว!...คุณข้าวปุ้นไม่ได้อยู่ที่บ้านหรือคะ อ๋อ...ได้ค่ะ เดี๋ยวหลินจะตามไปที่โรงพักเลย หลินรู้จักค่ะ ให้หลินติดต่อขอพบกับ ร.ต.อ.พันธวุธ ใช่มั้ยคะ ได้ค่ะ สวัสดีค่ะ”
ขวัญชนกทวนชื่อนายตำรวจที่ข้าวปุ้นบอกมาก่อนจะกดวางสายไป ขวัญชนกเปลี่ยนเส้นทางจากไปบ้านน้องบลูเปลี่ยนไปโรงพักแทน
น้องอาร์ตได้ยินชื่อของพ่อตัวเองที่ครูหลินเอ่ยพูดมาก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยกำลังจะอ้าปากถามคุณครูคนสวย แต่ครูหลินเอ่ยถามออกมาก่อน
“น้องอาร์ตหิวมั้ยคะ” ขวัญชนกยิ้มหวานเอ่ยถามน้องอาร์ต
“หิวครับ หิวมากด้วย” น้องอาร์ตตอบแบบไม่เกรงใจ
ขวัญชนกยิ้มส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยบอกให้น้องอาร์ตหยิบขนมในรถมากิน
“น้องอาร์ตเห็นกล่องสีเหลืองๆ ตรงเบาะหลังมั้ยคะ ข้างในมีนมกล่อง น้ำผลไม้ ยูโร่คัสตาร์ดเค้กและก็น้ำดื่ม น้องอาร์ตปลดเข็มขัดแล้วไปหยิบมากินนะคะ”
“ครับ ขอบคุณครับ” น้องอาร์ตยกมือไหว้ขอบคุณ ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วเอื้อมมือไปหยิบกล่องสีเหลืองที่ครูหลินบอก เด็กน้อยหยิบคัสตาร์ดเค้กมาซองหนึ่งแล้วแกะกินด้วยความหิว
ขวัญชนกมองยิ้มๆ เธอมักจะมีพวกขนมขบเคี้ยว น้ำดื่ม นมกล่องติดรถไว้เสมอ เพราะบางทีกลับบ้านดึกๆ เจอรถติดนานๆ ถ้าหิวมากๆ เธอก็หยิบพวกขนมเหล่านี้มากินแก้หิว
“น้องอาร์ตปวดตามากมั้ยคะ” ขวัญชนกเอ่ยถามเมื่อสังเกตเห็นว่าดวงตาของน้องอาร์ตเริ่มมีรอยเขียวช้ำขึ้นมา
“เจ็บนิดหน่อยครับ” น้องอาร์ตยกมือแตะที่ขอบตาเบาๆ
“น้องบลูก็โดนพี่ต้นต่อยเหมือนกันนะครับ ตาน้องบลูเขียวเหมือนน้องอาร์ตเลย พี่ต้นเกเรชอบแกล้งคนอื่น”
น้องอาร์ตรีบฟ้องครูสาว
“เอาไว้ครูหลินจะพาไปหาหมอนะคะ” ขวัญชนกยิ้มเจื่อนๆ ให้ลูกศิษย์ตัวน้อย
“ครูหลินจะไปหาคุณตำรวจหรือครับ” น้องอาร์ตเอ่ยถาม มือเล็กๆ หยิบคัสตาร์ดเค้กมาแกะกินอีกซอง ตามด้วยนมกล่องอีกกล่องใหญ่
“ค่ะ ครูหลินจะไปหาคุณตำรวจที่ชื่อ พันธวุธ ครูหลินไม่รู้จักเลย ไม่รู้จะหาเจอหรือเปล่า น้าข้าวปุ้นเขาไม่ได้บอกนามสกุลด้วยสิ” ขวัญชนกบ่นในตอนท้าย เธอเองก็สะเพร่า...ไม่ยอมถามนามสกุลของนายตำรวจที่ข้าวปุ้นบอก
“น้องอาร์ตรู้จักครับ” น้องอาร์ตเงยหน้าจากกองขนมยิ้มแป้นบอกครูสาว
“จ้ะ เก่งจังเลย” ขวัญชนกนึกว่าน้องอาร์ตพูดเล่น จึงเอ่ยชมเหมือนชมเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียน
“น้องอาร์ตรู้จักจริงๆ นะครับ” น้องอาร์ตทำสีหน้าจริงจัง
“ค่ะ ครูหลินเชื่อค่ะ แป๊บหนึ่งนะคะ ครูหลินขอจอดรถก่อน เดี๋ยวเราเข้าไปถามหาคุณตำรวจที่ชื่อพันธวุธพร้อมกันเลย” ขวัญชนกเอ่ยบอกยิ้มๆ เธอขับรถมาถึงโรงพักที่ข้าวปุ้นบอกแล้ว หญิงสาวจอดรถไว้ใกล้กับรถตำรวจ2-3 คันที่จอดเรียงกันอยู่
“น้องอาร์ตลงมาลูก เดี๋ยวเราขึ้นไปบนโรงพัก”
ขวัญชนกลงมาจากรถส่งมือให้น้องอาร์ตจับ หญิงสาวกุมมือเด็กน้อยไว้แล้วพาขึ้นไปบน สน. เธอเดินเข้าไปหาร้อยเวรหนุ่มพลางยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตรและถามหา ร.ต.อ.พันธวุธ ตามที่ข้าวปุ้นบอกไว้
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่า ร.ต.อ.พันธวุธ อยู่หรือเปล่าคะ ดิฉันมาขอพบท่านด้วยค่ะ”
ผู้กองหนุ่มกำลังสั่งงานร้อยเวรอยู่ พอได้ยินเสียงหวานๆ ที่ถามหาตัวเองก็หันไปมองเจ้าของเสียงและถึงกับยืนนิ่งจังงังเหมือนถูกหมัดฮุกเข้าที่ปลายคางเมื่อได้เห็นใบหน้างามรูปไข่ สวยคมเข้ม จมูกโด่งได้รูปรับกับริมฝีปากบางเฉียบ ดวงตากลมโตภายใต้ขนตายาวงามงอน ผมดำขลับยาวเงางาม
ร.ต.อ.พันธวุธยืดตัวขึ้นเต็มความสูง 180ซ.ม.ที่สูงเกินมาตรฐานชายไทยทั่วๆ ไปและยิ้มให้สาวสวยข้างหน้า แต่ยังไม่ยอมแสดงตัวว่าตัวเองคือคนที่เธอกำลังตามหาอยู่
“สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยเหลือหรือเปล่าครับ”
“คุณพ่อ...”
น้องอาร์ตซึ่งยืนหันรีหันขวางอยู่ข้างหลังคุณครูสาว พอได้ยินเสียงคุณพ่อก็ตะโกนเรียกเสียงดังและวิ่งเข้ามากอดขาพ่อไว้ น้องอาร์ตรู้ว่าโรงพักที่คุณครูพามานั้นเป็นสถานที่ทำงานของคุณพ่อเพราะเคยมาหลายครั้งแล้วเพียงแต่เมื่อสักครู่ตอนที่ขึ้นมาบนโรงพักเด็กน้อยพยายามมองหาพ่อแต่ก็หาไม่เจอ
“อ้าว! น้องอาร์ตมาได้ไงลูก หนูมากับใครครับ” ผู้กองพันจับตัวลูกชายไว้เห็นหน้าลูกไม่ชัดนักเพราะน้องอาร์ตกอดขาและซบหน้ากับต้นขาพ่ออยู่
“น้องอาร์ตมากับคุณครูหลินครับ” เด็กน้อยหันไปมองครูสาว
‘อ๋อ...สงสัยถูกตำรวจจับ...เลยไปรับลูกไม่ทัน’ ขวัญชนกแอบค่อนขอดอยู่ในใจ หมั่นไส้พ่อน้องอาร์ต หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้อย่างเสียไม่ได้ อย่างน้อยอีตาคนนี้ก็เป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเธอ
“สวัสดีค่ะ ดิฉันขวัญชนก ธิติการณ์กุล เป็นเจ้าของโรงเรียนอนุบาลที่น้องอาร์ตเรียนอยู่ค่ะ”
ผู้กองหนุ่มพยักหน้ารับไหว้เพราะคำนวนตามอายุแล้ว เขาน่าจะอายุมากกว่าหญิงสาวหลายปี
“ไม่ทราบว่า ร.ต.อ.พันธวุธอยู่หรือเปล่าคะ คือ...ดิฉันมีเรื่องจะปรึกษากับท่านเรื่องที่เด็กนักเรียนในโรงเรียนหายไป”
“คุณพ่อครับ” น้องอาร์ตเขย่ามือพ่อและเงยหน้าขึ้นมอง พอผู้กองหนุ่มได้เห็นหน้าลูกชายเท่านั้นแหละ สงครามย่อยๆ ระหว่างผู้กองหนุ่มกับครูสาวก็เกิดขึ้นทันที
“น้องอาร์ต! ตาไปโดนอะไรมาครับ เขียวช้ำรอบดวงตาเลย”
“น้องอาร์ตโดนเพื่อนต่อยมาครับคุณพ่อ” น้องอาร์ตสารภาพเสียงอ๋อย
ผู้กองหนุ่มแตะเบาๆ รอบดวงตาที่มีรอยช้ำเป็นสีเขียวๆ นายตำรวจหนุ่มเงยหน้าขึ้น ทำหน้าถมึงทึงจ้องมองหน้าครูสาว
“นี่คุณ...เป็นครูประสาอะไรถึงปล่อยให้ลูกผมถูกต่อยจนตาเขียวเป็นหมีแพนด้าแบบนี้”
“เออ...คือ...” ขวัญชนกกำลังจะอ้าปากชี้แจงเหตุผลแต่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมาก็โดนอีกฝ่ายสวนออกมาเป็นชุดจนครูสาวตั้งหลักแทบไม่ทัน