อิสบานพาอัคคีกลับมาบ้านหลังใหญ่ของเขาในเวลาเย็น แต่เริ่มผิดสังเกตที่เพื่อนนายทหารจากเมืองไทยเงียบขรึมลง ตลอดทางกลับอัคคีพูดจาแทบนับคำได้ ปกติเขาเป็นคนพูดคุยสนุกสนานและชอบซักถามเมื่อผ่านสถานที่ต่างๆ อิสบานคิดว่าตอนเขาขับรถไปบนถนนอีกเส้นเพื่อชื่นชมความงามของตัวเมือง อัคคีน่าจะถามอะไรบ้าง แต่เพื่อนชาวไทยกลับไม่ถามอะไรเลย ไม่สนใจสงสัยวิถีชีวิตผสมผสานกันแบบใหม่และเก่า ที่มีคนใช้อูฐเป็นพาหนะเช่นเดียวกับใช้รถยนต์คันหรู แต่เมืองทั้งเมืองกลับดูสะอาดไม่มีมูลอูฐเลอะเทอะ รถราที่วิ่งก็ไม่มีควันจากท่อไอเสียมาเป็นมลพิษ
อิสบ่าล่ากลับเข้าบ้านมาหลังจากอิสบานพาอัคคีกลับมาไม่นาน หญิงสาวมองเพื่อนของพี่ชายด้วยความแปลกใจที่ดูใบหน้าของเขาขรึมลง จนต้องหันไปส่งสายตาถามพี่ชาย นายพันหนุ่มชาวชาร์มายักไหล่แบมือแล้วเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน
อัคคีเงยหน้าขึ้นมองเมื่อแก้วชาเนื้อมุกถูกยื่นมาตรงหน้า ควันลอยพวยพุ่งขึ้นจากปากแก้วแสดงถึงอุณหภูมิที่ร้อนจัด อิสบ่าล่าคนถือแก้วกำลังส่งยิ้มให้เขา
“ชาเฮ จิบสักนิดผู้พันอาจรู้สึกดีขึ้น” อิสบ่าล่าวางแก้วลง ชาเฮคือชาผสมน้ำตาลรสหวานที่นิยมดื่มเพื่อดับกระหายของชาวทะเลทราย ซึ่งจัดเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมไม่แพ้ กาแฟกลิ่นหอมกรุ่น และน้ำผลไม้รสหวานฉ่ำเลยทีเดียว
“ขอบคุณครับ ทำไมคุณถึงคิดว่าเมื่อผมได้ดื่มชานี้แล้วจะรู้สึกดีขึ้น ใบหน้าผมตอนนี้มันทำให้คุณรู้สึกไม่ดีหรือ” อัคคีถามเมื่อ
อิสบ่าล่านั่งลงตรงข้าม ท่าทีเอียงศีรษะน่ารักของเธอทำให้เขานึกถึงน้องสาว อิสบ่าล่าน่าจะมีอายุใกล้เคียงกับธารี ยิ่งเธอสวมใส่เสื้อผ้าเช่นสาวออฟฟิศทั่วไป อัคคียิ่งคิดถึงธารี วันที่ธารีกระโดดโลดเต้นบอกว่าได้งานทำแล้วนั้น โลกทั้งใบเหมือนจะยิ้มไปกับเธอ ภาพถ่ายที่ธารีส่งมาให้เขาดู มีภาพในชุดสาวออฟฟิศดูเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่น้องน้อยขี้อ้อนเหมือนตอนอยู่ที่บ้าน
“ชาผสมน้ำตาลใครดื่มก็รู้สึกดีขึ้นทั้งนั้น มันชุ่มคอดีออก นี่ถ้าเป็นสมัยโบราณหรือพวกชนเผ่า เขาจะใช้ถ้วยตะไลแล้วจะรินเพิ่มให้เรื่อยเมื่อชาหมดถ้วย ถ้าไม่รู้วิธีปฏิเสธ รับรองพุงกาง” หล่อนหยุดยิ้ม “ผู้พันคะ มีอะไรหรือเปล่า วันนี้ได้ข่าวว่าไปเข้าเฝ้ามาไม่ใช่หรือ ทำไมถึงสีหน้าไม่สู้ดีเลย” เสียงถามเรียกสายตาและความสนใจอัคคีกลับมามองคนพูดแทนที่จะลอยหายไปกับความทรงจำเก่าก่อน
“อ้อ เปล่าครับ คุณอิสบ่าล่าถามแบบนี้ เหมือนผมเข้าไปในวังแล้วกลับมานั่งอิจฉาความโอ่อ่าร่ำรวยของชีคท่านหรือครับ” เขาแกล้งเบือนความสนใจ
“ว้าย! ทำไมมากล่าวหากันแบบนี้ ฉันไม่คิดว่าผู้พันมานั่งหน้าง้ำเพราะความอิจฉานี่คะ” อิสบ่าล่าหยุด เอียงคอมองด้วยท่วงท่าน่ารักอีกครั้ง “หรือว่าจะจริงคะ” เจ้าหล่อนหัวเราะเบาๆ พร้อมคำถามสุดท้าย
อัคคีหัวเราะตาม บรรยากาศในห้องเริ่มดีขึ้น มีเสียงหัวเราะเข้ามาแทนที่ความเงียบเมื่อครู่ และพร้อมเสียงพูดคุยเป็นกันเองของทั้งสอง จนอิสบานที่เดินกลับลงมาชะงักฝีเท้า กับเสียงหัวเราะสดใสของอิสบ่าล่าผสานเสียงหัวเราะของอัคคี เพื่อนทหารหนุ่มที่ทำหน้าขรึมมาตั้งแต่ออกมาจากพระราชวังหลวงแห่งชาร์มาแล้ว
อิสบ่าล่าทำยังไง เหยี่ยวเวหาที่ทำหน้าเป็นเหยี่ยวปีกหักและยังท้องเสียถึงยิ้มออกได้ วูบหนึ่งในความคิดคือความหึงหวง อัคคีนั้นหล่อเหลางามสง่าสมเป็นชายชาติทหาร ส่วนน้องสาวเขาก็หน้าตาดีและเหนือสิ่งอื่นใด เร่าร้อนยั่วยวน
“มีอะไรสนุกๆ หรือ หัวเราะร่วนเชียว” อิสบานส่งเสียงมาก่อนตัว
อัคคีและอิสบ่าล่าหันไปมอง เห็นชายหนุ่มอยู่ในชุดลำลองสบายๆ แสดงว่าที่หายไปนั้น ไปอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวมา อัคคีขยับลุกขึ้นบ้างเพราะเขาน่าจะได้ปลดอาภรณ์สุภาพเต็มยศ ที่พาให้อับร้อนนี่ออกเสียที
“ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เห็นคุณใส่ชุดสบายแล้วอิจฉา ผมไม่ค่อยใส่สูทพวกนี้สักเท่าไหร่ ป่านนี้ผื่นคงขึ้นเต็มหลังแล้ว” อัคคีพูดไปยิ้มไป
อิสบ่าล่าลุกตามทันที “ฉันก็จะไปอาบน้ำเหมือนกัน เดี๋ยวจะได้ลงมาทานอาหาร อ้อ วันนี้ฉันสั่งอาหารไทยมาจากโรงแรมในเมืองหวังว่าคงถูกปากผู้พัน”
อิสบานเริ่มหน้าตึง ท่าทีของน้องสาวที่อาทรเพื่อนทหารของเขานั้นทำให้เกิดอาการหึงหวง มือใหญ่หยาบคว้าข้อมือไว้เมื่อเธอเดินผ่านคิดจะตามอัคคีขึ้นไปติดๆ
“แล้วอาหารที่สั่งมาหรือยังน้อง ไม่ไปดูก่อนหรือ เดี๋ยวเด็กมันทำไม่ถูกนะ จะต้องอุ่นอะไรบ้างหรือจัดยังไง น้องไปดูเองดีกว่า” อิสบานแกล้งพูดดังเพื่อจะให้อัคคีได้ยินด้วยและจะได้ไม่สงสัยเมื่ออิสบ่าล่าไม่ได้เดินตามขึ้นไปติดๆ เช่นที่บอกไว้
อิสบานลากอิสบ่าล่าเข้าไปในห้องนั่งเล่นอีกห้องพร้อมปิดประตูล็อคแน่นหนา ก่อนจะส่งคำถามคาใจ
“พูดอะไรกันทำไมต้องหัวเราะหัวใคร่แบบนั้น พี่หึงนะ”
“เพิ่งทราบว่า ห้ามน้องหัวเราะหรือพูดคุยกับผู้ชายอื่น ทีหลังปิดป้ายไว้สิ” อิสบ่าล่าลอยหน้าพูด
อิสบานไม่ชอบกิริยาและแววตาท้าทายแบบนี้ ดึงร่างสมส่วนของน้องสาวเข้าชิดตัว กอดไว้ทั้งสองมือ“อย่าท้า พี่ทำจริงๆ พี่รักน้องขนาดไหนน้องน่าจะรู้ดี พรุ่งนี้เราไปยื่นจดทะเบียนกันเลยดีกว่า คนจะได้รู้เสียที”
“ไม่นะ ถ้าพี่บอกใครเรื่องของเรา น้องจะไม่รักพี่ น้องจะฆ่าตัวตาย เข้าใจไหม” สายตาสีเข้มของเธอที่มองพี่ชายนั้นแน่วแน่ มุ่งมั่นเกินจะเป็นการข่มขู่หรือล้อกันเล่น
อิสบานถอนหายใจยืดยาวซบหน้านิ่งตรงซอกคอหอมกรุ่นของอิสล่าบ่า พร้อมเอ่ยคำพ้อเบาๆ “โธ่! ทูนหัว ทำไมเล่า พี่ไม่ดีพอไม่คู่ควรที่เธอจะรับเป็นสามีอย่างเปิดเผยหรือ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือเลวร้ายที่เราจะรักและแต่งงานกัน หรือเธอไม่อยากเป็นเมียเอกของพี่ อิสบ่าล่า”
อิสบ่าล่าลอบยิ้ม มือเล็กกอดกระชับร่างพี่ชายตอบ พร้อมไล้ไปตามชายโครง สัมผัสแบบนี้นี่เล่าที่ทำเอาพี่ชายอดใจไม่ไหวจนต้องมีอะไรเกินเลยกับเธอในครั้งแรก และครั้งต่อๆมา แต่เป็นแบบหลบซ่อน เพราะอิสบ่าล่าหวังสูงเกินกว่าจะเป็นเมียแต่งของนายทหารอย่างอิสบาน และผิดหลักศาสนาที่ห้ามหญิงชายมีอะไรกันถ้าไม่ใช่สามีภรรยาหรือคู่สมรส
อารมณ์อิสบานเริ่มพลุ่งพล่านเมื่อได้การกระตุ้นจากอิสบ่าล่า น้องสาวที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพียง ลูกบุญธรรมของพ่อและแม่ ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ จากซบหน้านิ่งที่ซอกคอหอมกรุ่น จมูกเขาเลื่อนไปซุกไซ้หลังใบหูและขบติ่งหูที่มีต่างหูเพชรติดอยู่ มือหยาบใหญ่เริ่มทำหน้าที่ลูบไล้ซอกซอนเข้าไปในผ้า อิสบ่าล่ายิ้มเยื้อนยามปลุกอารมณ์ให้พี่ชายคล้อยตามเพราะไม่อยากฟังคำเซ้าซี้ แต่หญิงสาวบ่ายหน้าหนีเมื่ออิสบานจะจูบปิดปากเธอ
“เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” เธอผลักเขาออกห่าง
อิสบานทำหน้าเสียดายแต่จำยอม และยิ้มกว้างเมื่ออิสบาล่าใช้ปลายจมูกมาชนปลายจมูกเขา และกระซิบเบาๆ
“คืนนี้น้องจะทำให้พี่รู้ ว่าน้องรักพี่ขนาดไหน”
การพูดคุยในโต๊ะอาหารทำให้อัคคีสนใจอิสบ่าล่ามากขึ้น เมื่อรับรู้ว่าเธอเป็นถึงเลขานุการส่วนพระองค์ของชีคคาบิชาเราะห์ อัลชาร์มา อัลโซกียาห์ เจ้าหญิงพระคู่หมั้นที่ทำให้สวรรค์ของธารีกลายกลับเป็นนรก เมื่ออิสบ่าล่าเป็นเลขาส่วนพระองค์คงเข้าออกวังหลวงได้อย่างสบาย และยิ่งไปกว่านั้นเขาอยากรู้ความเป็นอยู่ในฮาเร็มของน้องสาว
“วันนี้ชีคบอกว่าเคยมีสนมเป็นสาวไทย คุณอิสบ่าล่าเคยพบไหมครับ” อัคคีเริ่มส่งคำถามแบบลองเชิง แต่ไม่ส่งสายตาไปจับจ้องเพราะกลัวอิสบ่าล่าจับได้ว่าเขาจงใจถาม ไม่ใช่การพูดคุยเพื่อความอยากรู้อยากเห็นทั่วไป
“ถ้าคุณหมายถึงพระสนมธารี เคยสิคะ ฉันเข้าออกฮาเร็มจนชิน มีอะไรหรือคะ”
อัคคีแทบอยากส่งคำถามอยากรู้และคาใจสวนขึ้นในทันที ว่าน้องสาวเขาเป็นอะไรตาย แต่ต้องเก็บงำไว้ ในเมื่อไม่มีใครทราบว่าเขาและธารีเกี่ยวข้องเป็นพี่น้องกัน
“รู้สึกชีคจะเอ่ยชื่อนี้แหละ ผมแค่แปลกใจแทบจะหาคนไทยที่มาทำงานที่นี่ได้น้อยมาก แต่กลับมีสนมเป็นสาวไทยถึงขั้นมีธิดา บอกตามตรงแอบอิจฉาเธอนะครับถ้ายังมีชีวิตอยู่คงจะสุขสบาย ชีคออกร่ำรวย”
“ตายไปนะดีแล้ว”
หางคิ้วอัคคีกระตุกกับคำของอิสบ่าล่า และมองสบตาเธอตรงๆ จนหญิงสาวต้องรีบอธิบาย
“หมายถึงช่วงหลังดูพระสนมไม่ค่อยมีความสุขนัก เอ่อ พูดไปก็เหมือนนินทาเจ้านาย อย่างที่ทราบกันชีคคาพระคู่หมั้นเอาแต่พระทัย คิดดูนะคะคนเอาแต่ใจมีอำนาจมากมายอยู่ในมือ คนรอบข้างก็ย่อมวางตัวลำบากเป็นธรรมดา”
อัคคีเข้าใจในข้อนี่ชัดแจ้งจากอีเมลที่ธารีเคยส่งมาหาเขา แต่อยากรู้ให้ลึกกว่านั้นถึงสาเหตุการเสียชีวิต
“แล้วเธอเป็นอะไรถึงเสียชีวิต น่าสงสารพระธิดานะครับ ผมเจอมาแล้ววันนี้กำลังน่ารักเลย”
“พระสนม..”
“อิสบ่าล่า พี่ว่าน้องอย่าพูดมากเลยดีกว่า” อิสบานส่งภาษาชาร์มเร็วปรื๋อห้ามน้องสาว ก่อนหันไปพูดภาษาอังกฤษกับอัคคี “ข่าวลือในวังมีทุกชนชาติ ข่าวไหนจริงข่าวไหนเท็จไม่รู้แจ้ง อย่าฟังอิสบ่าล่าเล่าเรื่องโกหกเลย”
“แน้ มาว่าน้องเล่าเรื่องโกหก งั้นไม่พูดแล้ว ผู้พันลองนี่สิคะ รสชาติพอใช้ได้ไหม จานนี้ฉันขอให้แม่ครัวในวังทำให้ กับของโรงแรมจานไหนอร่อยกว่า” อิสบ่าล่าไม่พูดเรื่องพระสนม แต่ก็ยังไม่หยุดพูดเรื่องในวัง
“แม่ครัวในวัง? วังชาร์มีเชฟอาหารไทย” อัคคีถามอย่างแปลกใจเมื่อมองต้มข่าไก่น้ำข้นคลั่กที่อิสบ่าล่าตักใส่ช้อนให้เขา
“จ้างมาเพื่อพระสนมชาวไทยโดยเฉพาะ ตอนนี้เธอไม่อยู่แม่ครัวเลยว่างงาน ไม่รู้จะปรุงอาหารถวายใคร ฉันเลยไหว้วานให้แกทำให้ ถูกปากไหมคะ”
จ้างแม่ครัวไทย เพื่อสนมชาวไทย แน่ชัดทรงรักธารีเหมือนที่เจ้าตัวเคยส่งเมลไปบอก แล้วทำไมน้องเขาถึงตาย ทำไมช่วงหลังธารีถึงบอกว่าฮาเร็มเหมือนนรก ชีคคาบิชาเราะห์น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง?
ดึกมากแล้วอัคคีไม่อาจข่มตาหลับ เขาลุกจากเตียงนอนเปิดประตูออกมานอกห้องแล้วเดินลงมาชั้นล่างของบ้าน ทิศตะวันออกของบ้านที่ติดทะเลหาดทรายขาวสะท้อนแสงในตอนกลางวันนั้น บัดนี้มืดดำเสมือนใครทำน้ำหมึกหกราดรด แม้จะมีไฟดวงเล็กไว้เพื่อส่องทาง มองลึกลงไปในทะเลยอดคลื่นที่โล้เอนเป็นเงาสีจางไหวๆ แล้วเคลื่อนเข้ามาใกล้ฝั่งลูกแล้วลูกเล่า เสียงซ่าของคลื่นซัดกระทบฝั่ง เสียงหวิวหวิวของมวลน้ำที่เคลื่อนตัวไม่หยุดหย่อน เสียงสะท้อนจากห้วงมหาสมุทรไม่ดังเท่าเสียงสะท้อนจากหัวใจ เขาจะกลับไปบอกพ่อกับแม่ได้อย่างไรว่าไม่พบธารี ไม่พบน้องสาวที่น่ารัก ไม่พบร่าง ไม่พบแม้แต่วิญญาณ