บทที่๓
พันโทอัคคีหมุนตัวตั้งใจจะเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วข่มใจข่มตาให้หลับ เพราะพรุ่งนี้เขาต้องเดินทางกลับพร้อมกับเพื่อนทหารไทยที่มาร่วมฝึกซ้อมรบด้วยกัน ชายหนุ่มชะงักเมื่อหันมาปะทะกับร่างสมส่วนของอิสบ่าล่าที่มายืนอยู่ข้างหลัง ใกล้จนเรียกว่าแทบจะสัมผัสส่วนที่ยื่นออกมาล้ำหน้าในตัวเธอ อัคคีถอยหลังไปสองสามก้าวเพื่อตั้งหลักและไม่ให้น่าเกลียดจนเกินไป
อิสบ่าล่ายิ้มเยื้อนเหมือนไม่รู้สึกอันใด ก่อนออกปากถาม “นอนไม่หลับหรือคะ”
“กำลังจะกลับขึ้นไปนอนพอดี คุณล่ะ นอนไม่หลับหรือครับ” อัคคีส่งคำถามเดียวกันกลับไป แม้แน่ใจว่าตอนเขาเดินผ่านห้องริมบันไดจะได้ยินเสียงบางอย่างลอดออกมา ซึ่งเขารู้ดีว่าเสียงนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
อิสบ่าล่าเดินไปที่เก้าอี้สนามใกล้ๆ ซึ่งอัคคีจำต้องเดินตามไป หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งชิดไปด้านหนึ่งจึงมีที่ว่างพอสำหรับให้อัคคีนั่ง แต่เขาเลือกที่จะยืนมากกว่า ไม่อยากใกล้ชิดน้องสาวที่ไม่ใช่น้องสาวธรรมดาของเพื่อนทหารชาวชาร์มานัก
“ฉันกำลังจะเข้านอน พอดีมองลงมาเห็นแขกของเรายืนเหม่อมองทะเล ในฐานะเจ้าของบ้านฉันไม่สบายใจถ้ามีอะไรทำให้แขกของเราดูเหมือนไม่มีความสุขเท่าที่ควร ผู้พันมีเรื่องอะไรไม่สบายใจบอกฉันได้นะคะ ถ้าช่วยได้ฉันยินดี” อิสบ่าล่ายกขาขึ้นไขว่ห้างเหม่อมองออกไปยังความเวิ้งว้างของทะเลสีมืด
ท่านั่งของหล่อนทำให้อัคคีคิดไปถึงชีคคาบิชาเราะห์เจ้านายและเจ้าเหนือหัวของอิสบ่าล่า ช่างไม่แตกต่างกัน และท่านั่งไขว่ห้างแบบนี้นี่เล่าที่ธารีเคยถูกแม่ตีขา
‘นี่ เอาลง เป็นสาวเป็นนางมานั่งยกแข้งยกขาได้ยังไง เอาลงเดี๋ยวนี้นะ แล้วอย่าให้แม่เห็นนั่งแบบนี้อีกนะ ธารี’
‘แม่คะเจ็บนะ ก็ผู้หญิงนะสิคะถึงนั่งแบบนี้ ผู้ชายที่ไหนจะมานั่งไขว่ห้างเล่า ไม่ใช่ท่านชายภูมิในละครเรื่องโปรดของแม่นี่คะ’
‘เอ๊ะ เอาใหญ่แล้ว กล้าเถียงแม่หรือยัยธารี ท่านชายภูมิท่านออกสมาร์ทมาดแมนขนาดนั้น ท่านนั่งไข่วห้างก็งดงามไม่เห็นน่าแปลกตรงไหน แต่เราน่ะ อย่าให้แม่เห็นอีกนะจะหยิกให้เนื้อขาดเชียว ไม่คิดบ้างหรือว่าพวกชอบสอดตาจะมองเข้าไปในกระโปรงนี่ แล้วจะเห็นอะไร’
แต่ยามเผลอตัวหรือไม่มีสายตาจับผิดของแม่ ธารีก็ชอบนั่งไขว่ห้างอยู่เช่นเดิม
“ว่าไงคะ มีอะไรไม่สบายใจให้ฉันช่วยไหม” อิสบ่าล่าถามขึ้นอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรครับ แต่ยังคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวัน สงสารท่านหญิงกำพร้ามารดาที่เป็นคนไทยน่ะครับ หน้าตาน่ารักเอามากๆ แล้วนี่ครอบครัวของพระสนมชาวไทยทราบเรื่อง หรือมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยียนหลานสาวหรือเปล่า หรือว่าห้ามให้ติดต่อญาติสามัญชน” อัคคียังไม่ยอมให้การตายของน้องเลือนหายไปเฉยๆ ยังอยากรู้ต้นสายปลายเหตุของการเสียชีวิตอยู่ดี
อิสบ่าล่าเงยหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอัคคี สันจมูกโด่งตรงของเขาสูงไม่แพ้คนภูมิภาคนี้ ใบหน้าซีกที่เห็นฉาบด้วยแสงจันทร์ซึ่งสะท้อนลงมาบางเบา แรใบหน้าชายหนุ่มเป็นมิติชวนมองยิ่งขึ้น อิสบ่าล่ากล้าตัดสินได้เลยว่าเขารูปงามไม่แพ้ชีคกาเบรียน
“นั่งก่อนสิคะ ถ้าอยากทราบเรื่องนี้คงต้องเล่านาน”
อัคคีไม่รอช้าที่จะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้สนามตัวเดียวกับอิสบ่าล่า แต่เว้นระยะห่างไว้ให้มากที่สุด พร้อมให้ความสนใจกับเรื่องราวที่เธอเล่า โดยเขาไม่รีรอที่จะซักถามในส่วนที่สงสัย สองคนนั่งคุยกันนานพอสมควรกว่าจะแยกย้ายกันไปนอน
ทางกลับห้องนอนของอิสบ่าล่ามิใช่ทางเดียวกันกับอัคคี แสดงว่าเธอไม่ได้นอนในห้องริมบันไดที่เขาเห็นอิสบานพาเธอเข้าไป ห้องที่เมื่อผ่านออกมาในตอนล่วงดึกได้ยินเสียงแห่งความสุข หรือห้องนี้คือห้องของอิสบานผู้เป็นมากกว่าพี่ชายก็เป็นได้