ตอนที่ 1.
ณ คฤหาสน์ ตระกูลเบอร์นี่
ในช่วงเช้าตรู่เป็นเวลาที่แม่บ้านและคนรับใช้ภายในคฤหาสน์ ต่างวิ่งวุ่นทำความสะอาดและจัดเตรียมอาหารเช้าให้เสร็จก่อนเจ้าของคฤหาสน์จะตื่นขึ้นมา นางแอนนาหัวหน้าแม่บ้านลงมาควบคุมการทำงานของคนใต้บังคับบัญชาด้วยตัวเองอย่างเข้มงวด ด้วยวันนี้เฟอร์นันโด เบอร์นี่ สั่งให้มีการจัดงานเลี้ยงขึ้นในช่วงเย็น แต่การเตรียมงานก็ต้องจัดเตรียมตั้งแต่เช้าเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์ ไร้ข้อบกพร่อง ซึ่งเอลินอร์ เบอร์นี่ มารดาของเฟอร์นันโดเกลียดนักกับความผิดพลาด ถึงกับไล่คนรับใช้ออกยกชุดเมื่อสามเดือนที่แล้วหลังจากพบว่า สาวใช้กลุ่มนั้นไม่ตั้งใจทำงานเพราะมัวแต่จับกลุ่มนินทาแขกที่มาร่วมงานเลี้ยง บางคนเล่นหูเล่นตากับลูกชายของนาง เดือดร้อนหัวหน้าแม่บ้านอย่างแอนนาที่โดนเรียกไปอบรมชุดใหญ่ในฐานที่ไม่ดูแลคนใต้บังคับบัญชาให้อยู่ในระเบียบ กว่าจะหาสาวใช้ได้ครบก็ใช้เวลาร่วมอาทิตย์ คนที่ยังทำงานอยู่ต้องเหนื่อยเพราะไม่มีคนช่วยงานเพียงพอ
“แบ่งคนครึ่งหนึ่งทำความสะอาดคฤหาสน์ชั้นล่าง อีกครึ่งให้ลงไปช่วยจัดเตรียมงานเลี้ยงที่สนาม ส่วนเธอปัทมาไปช่วยมารีทำความสะอาดชั้นบนนะ”
แอนนาแบ่งงานให้ลูกน้องทำ แล้วสั่งงานปัทมาสาวใช้คนใหม่ชาวเอเชียซึ่งเป็นเด็กสาวอายุเพียงสิบเจ็ดปี ปัทมาได้รับการฝากฝังมาจากนางอลิสญาติห่างของแอนนาให้มาทำงานที่คฤหาสน์นี้ โดยขอทำงานรับเงินเดือนเพียงครึ่งเดียวแลกกับค่ากินและที่พัก และแบ่งเวลาไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยอาทิตย์ละสี่วันหลังจากทำงานในหน้าที่เสร็จ หากเป็นที่อื่นคงไม่มีใครรับเด็กสาวมาทำงาน แต่แอนนาเห็นแก่ญาติและกำลังขาดคนจึงยอมรับปัทมามาทำงานด้วย เด็กสาวทำงานขยันขันแข็งว่านอนสอนง่าย ใช้ให้ทำอะไรก็ทำตามโดยไม่ปริปากบ่น อีกทั้งยังมีน้ำใจคอยดูแลเธอในตอนที่ไม่สบาย ทำให้แอนนารู้สึกเอ็นดูปัทมา จึงมักมอบหมายงานที่ไม่ต้องเหนื่อยมากให้ทำ เมื่อเสร็จจากงานก็ปล่อยให้ไปเรียนหนังสือตามข้อตกลง เด็กสาวเรียนเสร็จก็รีบกลับมาทำงานต่อไม่โอ้เอ้เถลไถลเที่ยวเตร่ ยิ่งทำให้หัวหน้าแม่บ้านรู้สึกเอ็นดูมากขึ้น
“ป้าแอนนาคะ วันนี้ปัทมีเรียนช่วงบ่ายโมงถึงบ่ายสามค่ะ จะช่วยงานครึ่งวันเช้าได้เต็มที่ค่ะ” ปัทมาบอกแอนนา
“ดีเหมือนกัน วันนี้ป้าต้องคอยดูแลเรื่องจัดงานเลี้ยง ถ้าอย่างนั้นเธอทำความสะอาดห้องชั้นบนให้เรียบร้อยก่อนนะ ค่อยมาทำความสะอาดห้องทำงานคุณเฟอร์นันโด อย่าทำเสียงดังล่ะ ห้องมันติดห้องนอนของท่าน” แอนนากำชับก่อนจะปล่อยให้ปัทมาพร้อมสาวใช้อีกคนไปทำงานในหน้าที่
ปัทมากับมารีช่วยกันทำความสะอาดห้องต่างๆ จนสะอาด เหลือเพียงห้องนอนของนางเอลินอร์ และห้องของเฟอร์นันโดเจ้าของคฤหาสน์เท่านั้น เพราะทั้งสองยังไม่ตื่น การทำความสะอาดจะทำได้หลังจากเจ้าของห้องออกมาแล้วเท่านั้น ทั้งคู่จึงไปทำความสะอาดที่ห้องทำงานของเฟอร์นันโดแทน
“ปัทมาเธอทำไปก่อนนะ ฉันปวดท้องสงสัยจะท้องเสีย ขอไปเข้าห้องน้ำกับหายากินก่อนนะ เดี๋ยวจะกลับมาช่วย”
จู่ๆ มารีก็เกิดปวดท้องขึ้นมา จึงปล่อยให้เพื่อนทำความสะอาดเพียงคนเดียว ตัวเองขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนที่จะปล่อยของเสียออกมา
“ไปเถอะ แล้วเอาน้ำยาเช็ดกระจกมาให้ด้วยนะ ขวดนี้ใกล้หมดแล้ว” ปัทมาพยักหน้ารับโบกมือให้เพื่อนรีบไป
“โอเค เดี๋ยวฉันเอามาให้ ไปก่อนนะ”
ปัทมาปล่อยให้เพื่อนไปทำธุระส่วนตัว แล้วยกอุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าไปในห้อง ปิดประตูก่อนจะมองดูรอบๆ ห้องที่เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาทำความสะอาดครั้งแรก ปกติหน้าที่ทำความชั้นบนจะเป็นของมารีกับสาวใช้อีกคนซึ่งเป็นคนงานเก่า แต่วันนี้คู่หูของมารีไม่อยู่เพราะได้ขอลากลับบ้านเมื่อวันก่อน แอนนาจึงใช้ปัทมาทำความสะอาดแทน
“ห้องไม่ค่อกว้างเท่าไหร่ แต่มีตู้หนังสือเยอะจัง”
ปัทมาถือโอกาสเดินสำรวจไปรอบๆ ห้อง ระหว่างรอมารีกลับมา ในมือถือไม้ขนไก่ปัดฝุ่นตามชั้นไปด้วยไม่ให้เสียเวลา เด็กสาวมองหนังสือมากมายในตู้โชว์ด้วยความสนใจ เธอย้ายตามมารดาซึ่งแต่งงานใหม่กับพ่อม่ายชาวอังกฤษมาอยู่ต่างแดนตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ ได้เรียนหนังสือต่อที่นี่จนสามารถพูดและอ่านเขียนคล่อง พ่อเลี้ยงเป็นเจ้าของร้านขนมปังทุกเช้าเธอกับมารดาต้องตื่นมาช่วยเขาอบขนมปังและจัดร้านรอรับลูกค้า นายเอริคเป็นคนชอบอ่านหนังสือจึงมักสอนให้ลูกเลี้ยงอ่านหนังสือด้วย จนปัทมาชื่นชอบการอ่านไปโดยปริยาย ชีวิตใหม่ของเธอกับแม่อยู่อย่างมีความสุขจนกระทั่งแม่กับพ่อเลี้ยงประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน บ้านที่อยู่อาศัยถูกยึดเพราะนายเอริคกู้เงินมาลงทุนทำร้านขนมปัง ทรัพย์สินที่มีติดตัวก็คือเงินฝากเพียงไม่กี่ปอนด์ ปัทมาต้องดิ้นรนต่อสู้เพียงลำพังโดยรับจ้างทำงานเล็กๆ น้อย ตามแต่จะหาได้เป็นรายชั่วโมง ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ละเลยการเรียนพยายามหาเงินส่งตัวเองเรียน จนจบชั้นไฮสคูล และมาสมัครเรียนมหาวิทยาลัยโดยขอร้องให้นางอลิสเพื่อนของบิดาเลี้ยงช่วยฝากงานให้ที่คฤหาสน์เบอร์นี่เมื่อสามเดือนก่อน
“หนังสือเยอะจัง มีแต่เรื่องน่าอ่าน”