บังเอิญเจ็บใจ

1815 คำ
“ทั้งสองคนปะ กลับบ้านกัน เร็ว ๆ” ดาวเมื่อได้โอกาสที่จะหลีกหนี จึงรีบปรี่คล้องแขนเพื่อนสาวทั้งสองคนทันที เมื่อชายตัวใหญ่ที่นั่งตรงข้ามลุกออกไปจากโต๊ะทำงาน   “เดี๋ยว ๆ อะไรกันน้องดาว” น้ำร้องทักเพราะไม่ทันตั้งหลัก   “นั่นสิพี่ดาวอะไรเนี้ยะ” จอยก็เช่นกัน ทั้งสองยังงง ๆ กับการกระทำของดาวที่ไม่มีปี่มีขลุ่ย   “จอยบ่นอยากไปผับใช่ไหม? ไปสิไปวันนี้เลยพี่เลี้ยงเอง เคนะ” ดาวบอกอย่างรน ๆ เพราะกลัวอีกคนที่เดินออกไป จะกลับเข้ามาทันในเวลาที่เธอยังยืนอยู่ เธอจะต้องได้กลับบ้านคู่กับเขาแน่ ๆ และไม่แค่นั้นหากอีกคนเห็นเข้า เขาต้องเสียใจอีกตามเคย   “เดี๋ยวพี่ นี่มันอะไร” จอยยังคงสงสัยไม่เลิก   “ก็ไม่อะไร พรุ่งนี้ก็หยุดแล้ว ไปปาร์ตี้ปลดปล่อยกัน” ดาวยั้งแรงในการดึงแขนสองสาว พร้อมกล่าวบอกด้วยเหตุผลลวง ๆ ที่แอบแฝง “แปลก ๆ” จอยจ้องหน้ามองอย่างจับพิรุธ “มีพิรุธ” น้ำเพื่อนรุ่นพี่ก็เช่นกัน “เปล๊า!!” ดาวตอบปฏิเสธทันควัน ด้วยน้ำเสียงที่สูงลิบลิ่ว “เสียงค่อนข้างสูง พุ่งทะยานหนักมาก” จอยพูดแขวะอย่างจับผิด เมื่อมองยังไงดาวก็ต้องมีอะไรแอบแฝงเป็นแน่ “นั่นสิจอย พี่ว่าต้องมีอะไร” น้ำเสริมทัพ “ไม่มีจริง ๆ ไปดีกว่านะ ปะๆ” และในที่สุดดาวก็ลากสองสาวออกมาจากจุดนั้นได้สมดั่งใจ กว่าที่ไอจะมาเธอกับเพื่อนก็หายหน้าไปจากตรงนั้น และเธอก็ไม่ต้องลำบากใจกับสถานการณ์ที่แสนจะกดดัน หากเพื่อนสนิทที่คบกันมานานต้องมาผิดใจกันเพราะเธอ ...เสียงเพลงที่บรรเลงอย่างครึกครื้นพร้อมแสงสีของไฟ ที่ไม่ค่อยจะสว่างไสวสักเท่าไหร่ สามสาวต่างวัยที่เดินดุ่มเข้ามา ต้องชะงักขาหยุดนิ่งกับสิ่งตรงหน้า เพราะว่าสถานที่แบบนี้พวกเธอไม่เคยมา มีเพียงแค่บ่นว่าอยากมาเท่านั้นเพื่อให้ได้รู้ว่ามันเป็นยังไง “พี่ว่าเราเปลี่ยนไปร้านลาบด้านหน้าแทนดีไหมจอย” น้ำหญิงที่มีวัยวุฒิที่มากสุดเอ่ยขึ้น “นั่นดิจอย เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมวะ พี่ตาลายฉิบหายเลย” ดาวที่เป็นคนเอ่ยปากเสนอชวนเพื่อน กลับเริ่มไม่ค่อยชอบกับสถานที่แบบนี้ เมื่อได้สัมผัสกับมันจริง ๆ “มันน่ามาตรงไหนวะเนี้ยที่แบบนี้ เสียงก็ดัง” “แต่พี่ดาวเป็นคนชวนนะ” จอยย้ำเตือน “มันก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะน่ารำคาญแบบนี้นี่หว่า คนก็เยอะ” ดาวบอกในสิ่งที่ตนคิด และสถานที่คนแน่นพลุกพล่านแบบนี้เธอก็ไม่ค่อยชอบเพราะดูวุ่นวาย “ไม่เอามาแล้วต้องเข้า จะได้ไม่เสียเที่ยว” จอยพยายามลากแขนเพื่อนรุ่นพี่ทั้งสองอย่างบังคับ เพราะสถานที่แปลกใหม่วัยรุ่นที่ไหนก็อยากเข้าไปลองไปดูให้รู้ แต่คนที่รักสงบแบบดาวไม่เคยชอบสักนิด และที่พูดบอกไปเมื่อเย็นก็เพราะนึกอะไรไม่ออกในการหลอกล่อเพื่อนเท่านั้น   “จอย ไม่อาว กูไม่ไป พี่น้ำ ๆ ....เอ้า! จอยพี่น้ำวิ่งไปโน่นแล้ว” ไม่รู้ว่าอีกคนเดินหนีตอนไหน จนเมื่อดาวร้องออกไปอย่างต้องการความช่วยเหลือจึงได้รับรู้ ว่าอีกคนนั้นไม่อยู่เสียแล้ว   “โอ๊ย คนแก่สองคนอะไรวะเนี้ย” จอยสบถคำพูดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะวิ่งออกไปตามเพื่อนอีกคนโดยไม่ได้สนใจดาวสักนิด   “อ้าว แล้วกูล่ะ ทิ้งกูไม่ได้นะ รอด้วย!” ดาวรีบวิ่งตามหลังไป แต่ไอ้รองเท้าส้นสูงเจ้าปัญหาก็ทำให้การวิ่งสับขานั้นยากลำบากเหลือแสน “โอ๊ย รองเท้าบ้า จะทิ้งกูก็ซื้อแพง เสียดายวุ้ย” ดาวที่ยังคงวุ่นกับรองเท้าจนไม่ได้มองว่าเพื่อนสาวทั้งสองไปทางไหน “หายไปไหนแล้วล่ะ...โอ๊ยชีวิตอิดาว” ความกังวลใจและกลัวเริ่มกอบกินเมื่อการมาสถานที่แบบนี้ครั้งแรก แถมยังไม่ได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งกลับต้องมาตกตะลึงกังวลเพราะโดนทิ้งขว้าง เครื่องมือสื่อสารที่ติดตัวนี่แหละคือสิ่งที่จะช่วยเรียกเพื่อนกับมารับ “รับสายสิวะ” เมื่อโทรอยู่นานการไร้การตอบรับสาย ดาวก็เริ่มกังวลใจเมื่อสถานที่อโคจรแบบนี้เริ่มดูน่ากลัวในสายตาเธอเข้าทุกที “โอ๊ะ!! อะไรอีกวะเนี้ย” ด้วยความร้อนรนใจในการติดต่อหาเพื่อนจนไม่ทันระวัง ขาจึงสะดุดกับของแข็งบางอย่างจนล้มพับก้นกระแทกกับพื้น   ((คุณครับ เป็นอะไรหรือเปล่า))   เสียงหนึ่งเอ่ยถามดังขึ้นดาวที่นั่งก้มหน้า ขาพับกับพื้นต้องเงยหน้ามอง และก็ต้องตกใจเบิกตาโตเมื่อคนตรงหน้านั้นคือคนที่แสนจะคุ้นเคย   ((“พี่นาย! / ดาว”))   “งื้อพี่นาย ช่วยดาวด้วย” เมื่อเห็นคนที่คุ้นเคย  หญิงสาวจึงโผเข้ากอดคนตรงหน้าอย่างลืมตัว เพราะความกลัวที่มีตอนนี้มันทำให้ลืมคิดไป “ดาวถูกทิ้ง”   “ดาวมาทำอะไรที่นี่” นายเอ่ยถามขึ้นอย่างฉงนใจ สงสัยในการมาสถานที่อโคจรของดาว มือหนาก็ลูบปลอบเบา ๆ ให้คลายความกลัว   “ดาวพาจอยกับพี่น้ำมา แต่ว่าพลัดหลงกัน” ดาวละออกจากอ้อมอกนั้นและเอ่ยบอก “ดาวกลัวแทบแย่ พี่นายดาวอยากกลับบ้านอ่ะ”   “ไหน ๆ ก็มาแล้วเข้าไปดูไหม” นายเอ่ยชวน   “..................” ดาวเงียบและกำลังครุ่นคิดว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี   “ปะ ลุกก่อน” นายพยุงดาวให้ลุกยืน “แล้วแต่งตัวบ้าอะไรเนี้ย” เมื่อได้เห็นเต็มสองตากับการใส่เสื้อผ้าที่แปลกไปในอีกมุมที่เขาไม่เคยจะได้เห็น ความไม่ค่อยพอใจจึงได้เอ่ยออกไปแบบนั้น   “สวยใช่ไหมล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” เสื้อสายเดี่ยวกับกางเกงขาสั้นที่แสนจะขัดตาคนมอง แต่อีกคนที่ใส่กลับชอบใจเพราะนานทีจะได้มีโอกาสใส่มัน   “สวยบ้าสวยบอ สั้นก็สั้น ไม่มียังอยากจะโชว์”  นายจับมือเล็กเดินนำเข้าด้านใน พร้อมปากพร่อย ๆ ที่สบถออกไป   “นั่นปากเหรอพี่นาย” คนที่เดินตามหลังก็ทำหน้างอ เมื่อไม่ได้รับคำชมจากปากชายตัวโต   "ก็ปากสิ...ทำไมอยากลองจูบหรือไง?" นายหยุดเดินแล้วหันหน้ามาพูดกับดาว ที่ทำเอาชะงักขาหยุดแทบไม่ทันเกือบชนเข้ากับอกแกร่งนั้น   "บ้าเหรอ!" และอดไม่ได้ที่จะฟาดฝ่ามือเล็กลงแขนแกร่ง ไม่ใช่ว่าโกรธแต่เธอกำลังเขินข้างใน แค่ไม่แสดงความอายออกมาทางสีหน้าเท่านั้น   “ฮ่าฮ่า ทำหน้าตลกเชียว ไป ๆ รีบเดิน"   "เชอะ! ไม่ต้องจับมือก็ได้มั้ง"   “เดี๋ยวหลง” เหตุผลของคนตัวโตเอ่ยบอก และตีมึนเดินนำหน้าต่อไปจนถึงที่หมาย   "นั่งรอก่อน เดี๋ยวสักพักไอ้ไอก็มา” เมื่อถึงโต๊ะที่ทำการจับจองไว้ นายจึงบอกถึงบุคคลที่สาม   "พี่ไอ ?" ดาวเอ่ยอย่างเป็นคำถาม   "อืม เห็นบอกว่าจะมากับเพื่อนอีกคน" นายบอกกล่าวให้สาวเจ้ารับรู้   "ดาวกลับได้ไหมอะ" เมื่อราตรีนี้ไม่ได้มีแค่คนสนิท ความเคอะเขินจึงทำให้ดาวนั้นเริ่มประหม่าและไม่กล้าจะอยู่ต่อ   "จะกลับยังไงถูกเพื่อนทิ้งไม่ใช่เหรอ?" นายย้ำเตือนจนทำเอาคนฟังนั้นแทบสะเทือนใจ   "โหปาก มันแค่หลงค่ะ เดี๋ยวดาวนั่งแท็กซี่กลับ"   "ไม่ได้! เป็นห่วง” (แค่ห่วงห่าง ๆ ในฐานะอะไรก็ยอม=พูดได้เพียงในใจเท่านั้น) เสียงหนักสั่งห้ามพร้อมคำท้ายที่บอกห่วงใย จนทำให้ดาวนั้นต้องมองหน้า และสายตาสองคู่ก็สบจ้องมองกัน อีกคนจ้องอย่างเป็นคำถาม แต่อีกคนตรงข้ามจ้องมองอย่างสื่อความหมายเป็นนัย ๆ   “................” คำพูดทิ้งท้ายที่ทำเอาดาวถึงกับเงียบกับประโยคหลังที่นายเอ่ย   “มันอันตราย” นายรีบขยายความให้ชัดเจนถึงแม้จะไม่ชัดแจ้งแก่ใจก็ตาม   “ก็ได้” ดาวรีบตอบรับเมื่ออ่อนไหวต่อสายตาที่มองมา สายตาที่อ่อนโยนและแสดงถึงความห่วงใย   “นั่นไง ไอ้ไอมาพอดี” นายที่สายตามองเห็นเพื่อนสนิทที่เดินมา พร้อมกับอีกคนที่เคียงข้าง เงาเลือนลางที่ไม่ชัดเจนด้วยความสว่างของดวงไฟที่ไม่เพียงพอ   “มานานแล้วเหรอวะ” ไอถามทันทีแม้จะยังไม่ได้หย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้   “สักพักแล้วล่ะ” นายตอบกลับ   “นี่พราว” ไอแนะนำคนที่ควงมา แต่กลับไม่ได้สนใจเลยว่ามีใครนั่งข้างนาย หรือว่าจำไม่ได้เพราะความมืดสลัวในสถานที่แห่งนี้มันกลบสายตา   “สวัสดีครับ” เป็นนายที่เอ่ยทักทายก่อน   “ค่ะ” พราวที่นั่งเคียงข้างไอตอบรับด้วยรอยยิ้ม   “พราวดื่มอะไรดี” ไอเอ่ยถาม   “เหมือนเดิมนะ” พราวตอบกลับอย่างคนคุ้นเคย พร้อมกับซบหัวลงอิงกับไหล่หนาของไอและเขาก็ไม่ได้ผลักไสออกแต่อย่างใด ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของอีกคนอย่างชัดเจน   “มีเด็กมาด้วยเหรอมึง ร้ายว่ะ” ไอแซวเมื่อมองเห็นคนที่นั่งข้าง   “ไอ้ไอ” นายเอ่ยเรียก พร้อมส่งสัญญาณทางสายตาให้รับรู้ถึงคนที่นั่งข้าง ๆ แต่ไอกลับเดาทางของเพื่อนไม่ออก   “พี่นายดาวไปห้องน้ำแป๊บนะ” ดาวบอกให้รับรู้กับการที่จะออกไปจากตรงนี้เพราะการที่อยู่แบบนี้เหมือนไร้ตัวตน (“ทำไมต้องสนใจด้วยล่ะดาว”) จนต้องย้ำเตือนตัวเองในใจและขอตัวหลีกห่างออกมาด้วยการบอกว่าไปเข้าห้องน้ำ   “พี่ไปเป็นเพื่อนไหม” นายเอ่ยถาม ส่วนเพื่อนที่นั่งตรงข้ามนั้นได้แต่นิ่งงันตะลึงตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่นั่งข้างกับนายจะคือหญิงที่ตัวเองมีใจ ใครจะคิดว่าใช่เธอ เพราะเธอไม่เคยมาในสถานที่แบบนี้เท่าไหร่   “ไม่เป็นไรค่ะ แค่บอกทางก็พอเดี๋ยวดาวไปเอง” ดาวส่งยิ้มอ่อนเพื่อไม่ให้คนที่เสนอตัวไปเป็นเพื่อนนั้นห่วง ไม่อยากจะเป็นภาระให้ใคร   “ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายห้องน้ำอยู่ทางขวามือ”   “ค่ะ” ดาวส่งยิ้มให้นายก่อนจะเดินมุ่งตรงไปทางห้องน้ำ ตามที่นายบอกกล่าว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม