6

1526 คำ
“พี่พริก... อื้อ” เธอครางเสียงสะท้านเมื่อเขาสอดกายเข้ามาในเรือนร่าง นิตยาจิกมือกับไหล่กว้าง ไม่กล้าเงยหน้าสบตา แต่รับรู้ถึงการกระทำทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น มืออีกข้างที่ค้ำอยู่กับผนังห้องน้ำ เลื่อนมาจับที่คางเรียวสวย เขาบดจูบริมฝีปากเต็มอิ่มที่จูบตอบเขาอย่างเงอะงะ ท่าทีไร้เดียงสาทำเขาครางสะท้าน ร่างสูงแนบชิดเข้าหา แทบกลืนกินเธอลงท้อง ร่างกายส่วนล่างที่กระแทกเข้ามาหาเธอ ทำนิตยาครางไม่เป็นส่ำ      สมองของเธอพร่าเลือนรับรู้แค่เรือนกายสูงเพรียวแข็งแรงที่ขยับจังหวะล้ำลึก แล้วกระชากเธอไปสู่ความสุข เธอซบอกเขาด้วยความรู้สึกซาบซ่านเมื่อถึงจุดสุดยอดอย่างรุนแรง พฤทธิ์มาขอผู้เป็นย่าให้นิตยาไปทำงานที่ไร่ของเขาจริง ๆ โดยอ้างว่าต่อไปแต่งงานกันจะได้ช่วยกันทำงาน คุณรุ้งลดาเอ่ยอนุญาตเพราะกำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่นิตยาพยายามหลบเลี่ยงพฤทธิ์ อ้างสารพัดเพราะไม่กล้าสู้หน้าเขา หลังจากวันที่เสียตัวให้เขาก็รู้สึกอับอาย หวาดกลัว เขาคงหาว่าเธอใจง่าย “พี่พริก!” นิตยาอุทานเสียงหลงเมื่อโดนสวมกอดจากทางเบื้องหลัง     อ้อมแขนแข็งแกร่งนั้นเธอรู้ว่าเป็นใคร เพราะกลิ่นกายที่คุ้นเคยของเขา เธอจำมันได้ติดจมูก “ไม่เห็นหน้าก็จำได้เหรอ” เขาหมุนร่างอรชรมาหา นิตยาก้มงุด เธอขัดเขินเกินกว่าจะสู้หน้าเขา “เอ่อ...” นิตยากัดปากตัวเอง จะบอกเขาได้อย่างไรว่าเธอจำกลิ่นกายของเขาได้ พฤทธิ์เชยคางสวยให้แหงนขึ้น ไม่ทันให้เธอตั้งตัวเขาก็บดจูบลงมาอย่างดูดดื่ม เธอกำจิกคอเสื้อของเขาเอาไว้ จูบตอบเขาไปแบบไร้เดียงสา เขาถอนปากออกห่าง ไล้ปากอิ่มสวยไปมา ทำท่าจะกดจูบลงไปใหม่   แต่หญิงสาวหลบทัน เลยพลาดไปจูบแก้มแทน “พี่พริกอย่าทำแบบนี้นะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” ในไร่ของบิดามีคนพลุกพล่าน เธอมายืนรับลมเพราะต้องใช้ความคิดเรื่องไปทำงานที่ไร่ของพฤทธิ์ ตรงนี้แม้จะเงียบ แต่ก็สุ่มเสี่ยงที่จะมีคนมาเห็น “หลบหน้าพี่ทำไม” “นิตเปล่านะคะ” เธอโกหกคำโต แต่คนไม่ถนัดเรื่องโกหกหลบหน้าไม่กล้าสบตาด้วยอย่างมีพิรุธ “ไม่ไปทำงานกับพี่ นัดใครเอาไว้หรือเปล่า” เขาถามอย่างระแวง เธอรีบเงยขึ้นส่ายหน้าไปมา จะบอกไปได้อย่างไรว่าเธอไม่กล้าสู้หน้าเขาเพราะอายเรื่องวันนั้น “ไม่ใช่นะคะ” “ถ้าไม่ใช่ก็ต้องพิสูจน์” “พิสูจน์ยังไงคะ” นิตยาเอ่ยถามพาซื่อ เขาไล้แก้มสาวไปมาก่อนจะดึงเธอไปนั่งบนตัก หลังจากตัวเองทิ้งตัวนั่งลงบนม้าหินอ่อนใต้ต้นมะม่วงใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มเงาเรียบร้อยแล้ว “อุ๊ย! อื้อ...” เธอทุบอกเขาระรัว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจิกคอเสื้อของเขาแทน เมื่อริมฝีปากหนาทาบทับลงมาขม้ำจูบจนเธอสะท้าน แทบหายใจไม่ทัน “พี่พริก พอแล้วค่ะ” คนประท้วงหน้าแดง ก้มงุดหลบ ไม่ให้เขาจูบได้อีก เขาเชยคางสาวให้แหงนขึ้น มองด้วยสายตาวาบหวาม นิตยาตัวสั่นระริก เธอสะเทิ้นอาย แก้มนวลยิ่งแดงปลั่งกว่าผลตำลึงสุก “คิดถึงพี่ไหม” เขาไล้สะโพกผายของเธอไปมา น้ำเสียงสั่นพร่า ก่อนที่มือจะลูบขึ้นมาโอบเอาไว้ที่เอวคอด “เอ่อ... คือว่านิต” จะตอบเขาไปได้อย่างไรกันว่าคิดถึงเขาทุกลมหายใจเข้าออก ยิ่งเขาไล้สีข้างไปมา เธอยิ่งตัวสั่นสะท้าน รับรู้ได้ถึงบางส่วนแข็งขืนที่ดุนดันอยู่ตรงสะโพก แค่นี้ก็ทำเธอพูดแทบลิ้นพันกัน พฤทธิ์ก้มมองคนขี้อายในอ้อมแขน เขาอยากจับเธอกลืนกินเสียเดี๋ยวนี้ แต่เพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ใบหน้าคมเข้มก้มลงไปเพื่อจะดูดดุนริมฝีปากหวานละมุน แต่เสียงอุทานที่ดังขึ้น ทำเขาต้องชะงัก “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” สาวใช้ยกมือขึ้นทาบอก ในขณะที่นิตยาตะเกียกตะกายลงจากตักของพฤทธิ์ด้วยใบหน้าแดงก่ำ “มีอะไรจ๊ะ” “คือคุณภานุมาขอพบคุณนิตน่ะค่ะ” สาวใช้รีบรายงานก่อนจะเลี่ยงออกมา ใบหน้าคมเข้มที่อ่อนแสงลงในคราแรก แปรเปลี่ยนเป็นดุดันในทันที “อ๋อ... ที่ไม่ยอมไปทำงานด้วยกัน เพราะนัดผู้ชายเอาไว้นี่เอง” “ว้าย! พี่พริก นิตเจ็บนะคะ” เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขากระชากเข้าไปหา สีหน้าอ่อนโยนของเขาในคราแรก แปรเปลี่ยนไปจนน่าใจหาย “เจ็บสิดี จะได้สำนึกว่ามีผัวแล้ว” “พี่พริก!” เธออุทานอย่างตกใจ หน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย “ทำไม พูดความจริงรับไม่ได้รึไง หรือต้องรำลึกหน่อยว่าเมื่อวันก่อน     เราเอากันเมามันแค่ไหน” เผียะ! เธอตบเขาเพราะน้อยใจที่เขาพูดจาดูถูก ตบเขาไปแล้วก็ตกใจ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาเจ็บ นิตยาถอยหนีร่างสูงที่ก้าวเข้าหา ดวงตาของเขาลุกวาบเหมือนเปลวไฟ “สงสัยเราคงต้องรำลึกความหลังกันเสียหน่อย” เขากระชากร่างน้อยเข้าไปหา นิตยากรีดร้องก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงอู้อี้ในลำคอ เมื่อเขาบดจูบเข้าหาอย่างดุดันป่าเถื่อน เธอทุบอกกว้างระรัว ดิ้นรนแต่ไม่หลุดจากอ้อมแขนแกร่ง ปากน้อยชอกช้ำบวมเจ่อ เธอหอบหายใจหนักหน่วง กลัวเขาจนตัวสั่น “พี่พริกป่าเถื่อน” เธอต่อว่าเขาเสียงสะท้าน ริมฝีปากสั่นระริกจนต้องเม้มเข้าหากัน “พี่ขอคุณย่าเอาไว้แล้ว ว่าจะพาเธอไปที่ไร่” เขาบอกอย่างเผด็จการ “แต่พี่นุ...” “ก็ให้คนไปบอกไอ้ภานุสิว่าเธอต้องไปทำงานที่ไร่กับผัว ไม่มีเวลาต้อนรับผู้ชายคนอื่น” “พี่พริก!” เธออุทานมองค้อนคนปากร้าย “ทำไม อยากไปหาไอ้ภานุมันมากเหรอไง” เขาพานจะหาเรื่อง              ก่อนกระชากเธอไปที่รถ ระหว่างทางก็บอกคนงานให้ไปบอกภานุว่านิตยาไม่ว่าง ต้องออกไปข้างนอก นิตยานั่งเบียดไปกับประตูรถ คนป่าเถื่อนจับเธอขึ้นรถ ล็อกประตูแน่นหนาก่อนจะกระชากรถออกจากไร่ของบิดา เขาพาเธอมาที่ไร่ ในขณะที่เธอได้แต่ปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอะไร “เธอควรอยู่ใกล้ ๆ พี่ จะได้ไม่ไปยั่วหรืออ่อยผู้ชายคนอื่น ให้เขามีเรื่องกันอีก” พฤทธิ์ดึงเธอเข้าไปในไร่ ก่อนจะสั่งงานลูกน้อง น้ำเสียงของพฤทธิ์ดุดันขึ้นเมื่อเห็นสายตาของคนงาน “ใครมองผู้หญิงคนนี้ แม้แต่หางตา กูจะควักตาออกมาให้หมด” ทุกคนหลบวูบไม่มีใครกล้ามองนิตยาอีก สายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมในความสวยหวานน่ารักของนิตยา และสายตาบางคนที่มองมาอย่างหื่นกระหายทำพฤทธิ์โมโห “มานี่เลย” เขาสั่งงานลูกน้องเสร็จก็กระชากเธอไปยังบ้านพักกลางไร่ “พี่พริก นิตเจ็บนะคะ” หลังจากปิดประตูบ้าน เขากอดรัดเธอมาจากทางด้านหลัง แล้วบดจูบจนแก้มสาวแทบช้ำ พฤทธิ์รัดแน่นจนกระดูกเธอแทบแหลก “เมื่อกี้ไปยิ้มให้คนงานพวกนั้นทำไม พี่ไม่ชอบรู้ไหม” เขากระซิบเสียงดุดัน ก่อนจะกดปากและจมูกกับแก้มสาวซ้ำ ๆ จนเธอต้องเบี่ยงหลบ “นิตยิ้มให้พวกเขาตามมารยาท พวกเขาเป็นคนงานของพี่พริกนี่คะ” “พี่ไม่ชอบ ต่อแต่นี้ไปถ้าพี่เห็นว่าเธอยิ้มให้ใคร พี่จะควักลูกตาไอ้ผู้ชายที่เธอยิ้มให้ทุกคนออกมาให้หมามันกิน” “พี่พริก!” เธออุทาน ก่อนจะรีบพยักหน้ารับรู้ กลัวเขาโมโหเอาอีก “พี่หิว ยังไม่ได้กินอะไรเลย” พอเธอรับปากเขาก็อารมณ์ดีขึ้น ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้เธอเผลอหลุดอุทาน “คะ?” “หิวข้าว ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ทำงานตั้งแต่เช้า” เขาลูบท้องไปมาท่าทีออดอ้อนระคนน่าสงสาร “พี่พริกอยากกินอะไรคะ” เธอเอ่ยถามยิ้มละไมให้เขา “อะไรก็ได้ พี่กินได้หมด” เมื่อสิ้นประโยคของเขา เธอจึงรีบเข้าไปรื้อวัตถุดิบในตู้เย็นมาปรุงอาหารให้ เมื่อก่อนเธอเคยมาเที่ยวที่ไร่ของพฤทธิ์ เคยลงมือทำกับข้าวให้เขากินมาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร กับสิ่งที่ตัวเองชอบทำ พฤทธิ์พิงสะโพกมองร่างน้อยที่สาละวนกับการทำอาหารแล้วเผยยิ้มโดยไม่รู้ตัว พอเธอหันมาเขาก็แกล้งทำหน้าขรึม “นิตจะทำอาหารง่าย ๆ นะคะ เพราะพี่หิว มีต้มยำ ไข่เจียวแล้วก็ผัดผักรวม นิตจำได้ว่าพี่ชอบทานต้มยำไก่”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม