“นิตรู้ค่ะว่าถ้าพี่อิฐกับแพรวแต่งงานกันเมื่อไหร่ เราต้องถอนหมั้นกัน พี่พริกไม่ต้องย้ำหรอกค่ะ” เธอเบือนหน้าหนี มองไปนอกรถด้วยสายตาเศร้าหมอง หัวใจเจ็บแปลบ กลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่อยากให้เขาได้เห็นความอ่อนแอของเธอ ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน ถึงยอมทำทุกอย่างให้เขาสบายใจ ยอมให้เขาด่าว่า ยอมเขาทุกอย่าง
“คงอยากถอนหมั้นจนตัวสั่นละสิ” เขากระชากเสียงถาม ขับรถเร็วขึ้นกว่าเดิม
“พี่พริกคะ นิตกลัว” เธอหวาดกลัวกับการขับรถของเขาเหลือเกิน จนต้องหลับตาแน่น จิกมือเข้าหากัน
เขาเบรกรถกะทันหัน เธอหัวทิ่มไปด้านหน้า ดีที่ใช้มือดันเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงบาดเจ็บ
“ลงมาได้แล้ว มาดูกันว่าลีลาฉันกับไอ้ผู้ชายพวกนั้น ใครจะเด็ดกว่ากัน”
“พี่พริก ปล่อยนิตนะคะ พี่จะทำอะไร” เธอดึงมือหนี เขาอุ้มร่างน้อยขึ้นพาดบ่า นิตยาดิ้นรนทุบตีแผ่นหลังแกร่งของเขา มึนศีรษะเพราะถูกจับพาดบ่าห้อยหัวโตงเตง
“โอ๊ย!” นิตยาร้องเสียงหลงเมื่อโดนจับโยนโครมลงบนเตียงนอนกว้าง
ไร่รักษ์เป็นไร่ของพฤทธิ์ เธอเคยมาที่นี่เพราะแพรวพรรณชวนมาติวหนังสือ
“พี่พริก อย่าทำอะไรนิตเลยนะคะ” เธอกรีดร้องเมื่อเขาทาบทับลงมาทั้งตัว ดวงตาของเขาวาวโรจน์ด้วยอารมณ์โมโห
“อยากดูว่าลีลาฉันกับผู้ชายคนอื่น ใครจะเด็ดกว่ากัน” เขาซุกไซ้ซอกคอขาวผ่อง เธอเบี่ยงหลบแต่ไม่พ้น มือหนาบีบปลายคางสวยเอาไว้ ก่อนจะบดจูบหนักหน่วง สอดลิ้นเข้าไปพัวพันในโพรงปากแสนหวาน
“พี่พริก อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ”
“ก็อย่าดิ้นสิ” เขากดมือเธอไปกับพื้นเตียง
“ยังไงนิตก็สู้แรงพี่ไม่ได้ ถ้าพี่จะทำอะไรนิตจริง ๆ นิตคงหนีไม่พ้น แต่อีกไม่นานเราจะถอนหมั้นกันแล้ว พี่พริกอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ” เธอร้องไห้เบา ๆ เขาชะงักก่อนที่ใบหน้าจะกระด้างมากกว่าเดิม
“อุตส่าห์หมั้นกันแล้ว ฉันก็ขอเชยชมหน่อยแล้วกันว่าลีลาจะเด็ดขนาดไหน ผู้ชายเลยรุมตอมกันหึ่งแบบนี้” นิตยาดิ้นจนเหนื่อย เธอสู้แรงเขาไม่ไหว เลยหยุดดิ้น เขาซุกไซ้ไปทั่ว หัวใจดวงน้อยปวดแปลบเหมือนโดนมีดกรีด คนที่รักดูถูกเหยียดหยามกันขนาดนี้ ถึงอธิบายให้ตาย เขาก็คงไม่เชื่อ เพราะเขาเชื่อในสิ่งที่เขาเลือกที่จะเชื่อ
“ทำเป็นดีดดิ้นที่แท้ก็...” เขาชะงัก มองคนที่นอนนิ่งอยู่ใต้ร่าง นิตยามองเขาอย่างรวดร้าว พฤทธิ์เบือนหน้าหนี ก่อนจะก้มลงไปใหม่ เขากระชากเสื้อผ้าของเธอออกจากกาย
เธอยกมือขึ้นปิดป้อง ใบหน้าร้อนเห่อ แดงก่ำด้วยความอับอาย เสียงหอบหายใจรุนแรงของเขาดังอยู่ริมหู เขาขบเม้ม เคล้นคลึงไปทั่วเรือนร่าง เนื้อกายหอมหวานเต็มตึงทำพฤทธิ์หน้ามืด
“พี่พริก นิตเจ็บ อย่าทำนิตเลยนะคะ” เธอถอยสะโพกหนี ดันหน้าท้องของเขาเอาไว้ สะอื้นเบา ๆ ด้วยความเจ็บ คนหน้ามืดในคราแรกเริ่มได้สติ
พฤทธิ์มองคนที่สะท้านตัวสั่นอยู่ใต้ร่าง หัวใจของเขาเต้นถี่ระรัว คาดไม่ถึงกับสิ่งที่ได้รับรู้
“ไม่ร้องนะ พี่จะทำเบา ๆ” เขาจูบซับน้ำตา ค่อย ๆ ขยับสะโพกเชื่องช้าขึ้น เธอสะอื้นเบา ๆ ปากคอสั่น
เขาบดจูบปากน้อยแสนหวาน ค่อย ๆ เคลื่อนกายคืบคลานเข้าไปในซอกกายสาว เธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บแต่ไม่ดิ้นหนี จนมันหลอมรวมเป็นหนึ่ง
“หนูนิต เธอเป็นของพี่คนเดียวรู้ไหม ห้ามให้ใครทับรอยเด็ดขาด พี่หวง...” เขาไล้แก้มสาว ประโยคของเขาทำหัวใจสาวเต้นแรงถี่รัว ก่อนจะเจ็บแปลบเมื่อรับรู้ว่าเขาคงพูดไปเพราะอยากให้เธอยอม แต่เธอก็หน้าโง่ยอมเขาเอง เหมือนผู้หญิงใจง่าย
ริมฝีปากหนาก้มลงขบเม้มยอดอกแสนสวย เขาเริ่มขยับเป็นจังหวะจะโคน นิตยานิ่วหน้าครางเบา ๆ ความเจ็บตึงปวดแปลบมาพร้อมกับความเสียวซ่าน
เรือนกายแข็งแกร่งโยกคลอนกดเธอจนแทบจมเตียง นิตยาหัวหมุน หัวใจเต้นถี่ จิกมือกับผ้าปูเตียงแน่น เธอครวญครางเสียวซ่านไปตามลำนำรักที่เขาก่อขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะแตกพร่าสุขสม
ร่างน้อยค่อย ๆ พลิกกายนอนตะแคงดึงผ้าห่มมาคลุมจนถึงอกอิ่ม หลังจากเขาพลิกกายลงไปจากร่างแล้ว
นิตยาจิกมือกับผ้าห่มผืนสวย ใบหน้าแดงก่ำร้อนผ่าว เธออับอายเกินกว่าจะสู้หน้าเขา
“จำได้ไหมพี่บอกว่ายังไง หนูนิตเป็นของพี่ ห้ามยิ้มให้ผู้ชายคนอื่น ห้ามคุย ห้ามมองหน้า” เขาขยับเข้ามาแนบชิดทางด้านหลัง กุมไหล่เปลือยเปล่าเอาไว้ กระซิบเสียงดุ ๆ ที่ริมหู
นิตยาอยากจะถามว่า เธอทำตัวเป็นใบ้ไปเลยดีไหม ไม่ต้องพูดต้องคุยกับใคร แต่ได้แค่คิด ไม่กล้าพูดออกไป
“นิตรู้แล้วค่ะ รอให้พี่อิฐกับแพรวแต่งงานกัน นิตจะถอนหมั้นให้พี่เอง ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ”
“คงอยากถอนหมั้นใจจะขาดละสิ อย่าหวังเลย” พฤทธิ์กระชากไหล่บอบบางเข้าหา ก่อนจะกดคู่หมั้นสาวเอาไว้ใต้ร่าง สีหน้าโกรธเกรี้ยวของเขา ทำเธอตัวสั่น ไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดหูเขาไป
“พี่พริกพานิตไปส่งบ้านเถอะค่ะ ป่านนี้ที่บ้านคงตกใจที่นิตหายมานานแล้ว”
“อยากกลับไปหาไอ้วิวัฒน์หรือไอ้อิฐ หรือนัดผู้ชายคนไหนเอาไว้ล่ะ”
“นิตเปล่านะคะ”
“พี่ไม่เชื่อ”
“นิตต้องทำยังไงคะ พี่พริกถึงจะเชื่อนิต”
“ต้องมาทำงานกับพี่ที่ไร่ เธอต้องอยู่ในสายตาของพี่ตลอดเวลา”
“แต่คุณย่า”
“พี่จะขอคุณย่าให้เอง” นิตยาปิดปากเงียบ รุ้งลดาไม่ใคร่จะให้เธอไปทำงานที่ไหน พฤทธิ์ก็รู้ข้อนี้ดี เธอต้องอยู่ในสายตาของท่านตลอด ท่านกลัวเธอจะไปทำอะไรเสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล
“นิตต้องเป็นคู่หมั้นของพี่พริก จนกว่าพี่อิฐกับแพรวจะแต่งงานกันใช่ไหมคะ” เธอถามอย่างเจ็บปวด เพราะสำนึกว่าเธอเป็นได้แค่นี้จริง ๆ สำหรับเขา
“ใช่ แล้วเธอก็ต้องรักฉันมาก ๆ ด้วย คนอื่นจะได้ไม่สงสัย”
“ค่ะ” ไม่ต้องแกล้งรักเขาเธอก็รักเขา มันไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่เขาขอเลย
“ไปอาบน้ำกันเถอะ”
“คะ?” นิตยามองเขาเหมือนไม่เข้าใจเมื่อเขาเอ่ยชวน
“เหนียวตัว อยากหาคนถูหลังให้ด้วย ไปอาบน้ำกัน” เขาพูดเหมือนไม่คิดอะไร แต่เธออายและขัดเขินเป็นที่สุด
“อุ๊ย! พี่พริก ปล่อยค่ะ” คนบอกให้ปล่อยรีบกอดคอหนาเอาไว้แน่น เมื่อเขาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้ม
เธอซุกหน้ากับอกกว้างเพราะอาย ร่างเปลือยของเธอปรากฏแก่สายตาของเขาทุกอณูเนื้อ อยากจะหายตัวได้ เพราะไม่อยากอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เลยสักนิด
พฤทธิ์วางร่างน้อยลงบนพื้นห้องน้ำ เธอกอดตัวเองเอาไว้ เหนียมอายไม่กล้าสู้หน้าเขา
“กับพี่ไม่ต้องอายหรอก เราเป็นคู่หมั้นกัน กับผู้ชายคนอื่นสมควรต้องอาย” เขาเดินมากอดซ้อนทางด้านหลัง แผ่นอกแกร่งของเขา และร่างกายอุ่นวาบทำเธอตัวสั่น
“หนูนิตกลัวพี่เหรอครับ” เขากระซิบถาม มองคนที่เอาแต่ก้มหน้างุด ใช้มือปิดป้องเรือนกายเอาไว้
เธอพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะเลื่อนมือไปวางทาบบนหลังมือของเธอเพื่อประสานเข้าหากันแล้วดึงมือน้อยออกจากการปิดป้องความเป็นสาว เธออับอายไม่กล้ามองกระจกเงาตรงหน้า
“พี่พริก อื้อ... อย่าค่ะ” เธอคราง หลับตาพริ้ม กัดปากตัวเองเบา ๆ เมื่อเขาปล่อยมือของเธอ ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปสะกิดติ่งสวาทกลางกาย มันฉ่ำเยิ้ม น้ำหวานไหลซึมออกจากกายสาวต้อนรับการทักทายของนิ้วแกร่ง
นิตยาเผลอซี้ดปากก่อนจะเม้มปากเข้าหากันแน่น เธอส่ายหน้าไปมาด้วยความทรมาน อับอายที่เปล่งเสียงแบบนั้นออกไป
เขาพาเธอไปใต้ฝักบัว ก่อนจะเปิดน้ำรดทั้งตัวเธอและตัวเขา ร่างน้อยสะท้าน เขาก้มลงดูดรวบยอดถันเบา ๆ สัมผัสนั้นทำให้ยอดอกแข็งเป็นไต
อยากผลักไสแต่มือกลับสอดเข้าไปในกลุ่มผมดกหนา กดให้แนบชิด เขาดันเธอไปชิดกับผนังห้องน้ำ ก่อนจะยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้น