เขาจิบโทนิคเบาๆ สายตาคมสีสนิมเหล็กกล้าทว่านุ่มนวลยามจับจ้องมายังเธอ อันนาเก็บความตื่นเต้นที่กำลังทวีมากขึ้นทุกขณะ เธอไม่รู้ว่าอันอันมีความสัมพันธ์ถึงขนาดไหนกับผู้ชายคนนี้ แต่เธอเคยได้ยินน้องสาวพูดว่า
“มันก็เป็นแค่การเริ่มต้นน่ะอันนา มันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเราคุยกันมากกว่าเพื่อนทั่วไป”
หมายถึงอะไรล่ะเนี่ย...อันนายังสับสน แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการต้องทำตัวเป็นน้องสาว ทำอย่างที่รามบอก เธอกำลังเรียนรู้พฤติกรรมของอันอันจากคำบอกเล่านั้น อย่างน้อยที่สุดรามก็ไม่ได้มีทีท่าเคลือบแคลงสงสัย ทุกอย่างเป็นไปตามแผน เธอต้องทำให้เขาตายใจเสียก่อน จากนั้นจะได้พูดในสิ่งที่อันอันไม่มีวันพูด ทำให้เขาเกลียดน้องสาวของเธอจนไม่อยากพบเจออีก อันนาต้องฝืนดื่มคอคเทลเข้าไปถึงสองแก้ว แต่ละแก้วเป็นสูตรที่รามบอกว่าบาร์เทนเดอร์จัดพิเศษสำหรับลูกค้าประจำ นั่นหมายความว่าอันอันนัดเจอกับเขาที่นี่บ่อยครั้ง หญิงสาวเก็บอาการของตัวเองอย่างมิดชิดแม้รู้สึกมึนงงตอนออกจากผับแห่งนั้น รามจูงมือเธอไปยังลานจอดรถ อันนาสังเกตทุกอย่าง ตั้งแต่การแต่งตัวของราม ชุดลำลองสบายๆ ที่ไม่เน้นยี่ห้อ ออกจะเป็นเสื้อราคาถูกด้วยซ้ำไป
นอกจากนี้เขาใช้รถเก๋งที่ไม่ได้หรูหราอะไร อันอันคิดว่าเธออยู่ในวงสังคมของคนมีเงินและสามารถบอกได้เลยว่ารามไม่ได้มีอะไรเลิศเลอ เขาเป็นนักธุรกิจอย่างนั้นเหรอ...ภาพภายนอกของเขาสำหรับเธอธรรมดามาก หากไม่นับใบหน้าหล่อเหลาเข้าขั้น นัยน์ตาคมเป็นประกายคู่นั้นทำให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะทุกครั้งที่มองมา รอยกดลึกบนสองข้างแก้มเวลาเขายิ้ม
เรือนร่างบึกบึนเกินมาตรฐานชายไทยด้วยซ้ำ หรือนี่คือเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้อันอันชอบเขา แม้แต่เธอก็ยังเกิดอาการประหม่าเวลาอยู่ใกล้ อย่าเชียวนะ อันนาเตือนตัวเองว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไร หญิงสาวคิดเพลินทั้งก็รู้สึกมึนงงจนสะดุดขาตัวเองแต่รามเข้ามาคว้าตัวเธอได้ทันก่อนล้มลงไปนั่งกับพื้น เขาประคองร่างบอบบางไว้ในอ้อมแขนและถามด้วยความเป็นห่วง
“อันอัน...เป็นอะไรหรือเปล่า เดินไหวไหม”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร...เอ้อ...
“ให้ผมขับรถพาคุณไปดีกว่านะ”
©©©©©©©©
บทที่ 2
ที่นั้น...ที่มีความหมาย
“ฉัน...เอ้อ...”
“ผมแค่อยากให้คุณได้เห็นที่หนึ่งที่สวยมากแม้จะเป็นตอนกลางคืน”
และมันคงเป็นสถานที่เงียบสงบมากพอให้เธอได้พูดในสิ่งที่อยากพูดกับเขา โอกาสมีไม่มากไปกว่านี้อีกแล้ว เธอมึนงงแต่พยายามทรงตัวยืนทั้งที่อ้อมแขนของรามยังกระหวัดแน่น
“ได้ค่ะ...ถ้าอย่างนั้นฉันจอดรถไม้ที่นี่ก่อนก็แล้วกัน เราไปไม่นานใช่ไหมคะ”
“ไม่นานครับ...แต่ระยะทางอาจจะไกลจากที่นี่สักหน่อยเพราะอยู่นอกตัวเมือง ผมจะรีบกลับมาส่งคุณ”
หญิงสาวไม่ปฏิเสธ รามประคองเธอไปยังรถของเขา อันนากระดากอายเล็กน้อย นี่ปกติเวลาอันอันดื่มคอคเทลเข้าไปจะเดินเซอย่างเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้
“อันอัน...แก้มคุณแดงแล้วล่ะ”
รามหันมาทางหญิงสาวเมื่อเขาขับรถออกมาจากผับ อันนารีบกลบเกลื่อน
“เหรอคะ...อากาศคงร้อนกระมัง”
“ผมอยากให้คุณดื่มจินโทนิคอีกจัง”
คำพูดและสายตาของเขาทำให้อันนาผะผ่าวบนแก้มมากกว่าเก่า ตอนนี้เธอร้อนข้างใน มันเป็นความร้อนรุ่มจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ แม้ไม่ใช่เหล่าดีกรีร้อนแรงแต่เธอไม่เคยดื่มมากขนาดนี้ ทั้งจินโทนิค ทั้งคอคเทล แต่ถ้าปฏิเสธอาจทำให้แผนล่ม ช่างเถอะ! มาถึงขนาดนี้แล้วเธอจะถอยหลังได้ยังไง
“ทะ...ทำไมล่ะคะราม”
“เวลาคุณดื่มจิน แก้มคุณจะแดง...จนทำให้ผม...เอิ่ม...ขอจับมือคุณตอนขับรถนะครับ”
คำพูดสุภาพและมือหนาข้างหนึ่งที่เลื่อนมาจับมือเรียวบางไว้อย่างอ่อนโยนไม่ได้ทำให้อันนาตกใจ ตรงข้ามไม่รู้ทำไมเธอถึงคิดว่ามันเป็นสัมผัสบางเบาและช่างน่าโหยหา เธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนมากเกินกว่านี้ก็จริง แต่รามกลับทำให้เธอรู้สึกไว้วางใจ และยินยอมจำนนต่อมือหนาแกร่งที่กุมมือเธอไว้ ทำไมเธอต้องหวั่นไหวกับเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ อย่างนี้ ทั้งที่มันไม่ใช่เรื้องเล็กน้อยเลย เธอไม่เคยรู้จักเขานะ แต่...น่าประหลาดล้ำที่เขาทำให้เธอรู้สึกราวกับว่า เขาสามารถไว้วางใจได้
“รามคะ...คุณจะพาอัน...อันอันไปไหนคะ”
เกือบหลุดชื่อตัวเองออกมาดีว่ายั้งไว้ได้ทัน ชายหนุ่มเอียงหน้ามามองหน่อยหนึ่งก่อนจะหันกลับไปยังเส้นทางข้างหน้า อันนาที่ใจไม่ดีตอนแรกเริ่มใจชื้นเมื่อเห็นแสงสว่างสาดส่องทางที่รามเลี้ยวรถเข้าไป มันเป็นเส้นทางเล็ก ๆ ก่อนแสงไฟทำให้เห็นอะไรบางอย่าง สว่างจับตา มันคือทุ่งดอกไม้ กลีบมากมายไหวไปมาใต้แสงไฟ อันนาหายมึนไปชั่วขณะ
“ทุ่งดอกคอสมอส...ถ้ามากลางวันจะเห็นสีสันชัดมาก สวยมากกว่านี้”
รามชะลอความเร็วและจอดรถใต้ดวงไฟส่องสว่าง เขาปล่อยมือเธอและก้าวลงจากรถ อันนารีบเปิดประตูตามลงไปแม้จะยังมึนหัวจนต้องเกาะกระโปรงรถไว้ เบื้องหน้าเป็นภาพทุ่งดอกไม้ซึ่งก็เป็นอย่างที่รามว่า มันยังเห็นสีสันไม่ชัดเจน แต่ที่รู้คือเป็นเนื้อที่กว้างใหญ่สุดลูกตา น่าตื่นเต้น แต่...ภาพกลับเบลอเมื่ออันนาพยายามจ้องมันชัดๆ