ฉันเดินขึ้นมาบนห้องนอนมองไปรอบๆและฉันก็เดินสำรวจไปรอบๆห้องอย่างจับผิด
“ของใช้พวกนี่ดวงวางไว้บนโต๊ะให้นะคะคุณมิน...?”
“โต๊ะ...?”
ฉันหันไปมองที่โต๊ะตัวที่แม่บ้านบอก ก็เห็นของใช้ของมินตาวางอยู่แค่ไม่กี่ชิ้น
“มีแค่นี้เองหรอ...?”
“คะ..? คุณมินพูดกับดวงหรือเปล่าคะ...?”
“เปล่า...เดี๋ยวเธอเอาของฉันวางไว้ตรงนี้แหละ ฉันจัดการต่อเอง...”
“ได้ค่ะ...”
“เธอออกไปได้แล้ว...ขอบใจมากนะ”
“ค่ะคุณมิน...”
หลังจากที่แม่บ้านเดินออกไปแล้วฉันก็เดินสำรวจไปรอบๆห้องนอนอีกครั้ง มีรูปถ่ายแต่งงานบนหัวเตียงบานใหญ่ แล้วรูปถ่ายใส่กรอบที่ติดข้างฝาผนังอีก 2-3 บาน
“เกร่อชะมัด...เอามาติดโชว์แบบนี้เห็นแล้วนึกว่าพิพิธภัณฑ์...”
ฉันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ 2 บาน เห็นมีแต่เสื้อผ้าของผู้ชายเต็มตู้ไปหมด แต่พอเปิดอีกตู้หนึ่งกลับมีเสื้อผ้าผู้หญิงแค่ไม่กี่ชุดเท่านั้นแถมยังเชยอีกต่างหาก
“สีจืดไปนะ...นี่ซื้อเสื้อผ้ามาตั้งแต่รุ่นป้าหรือเปล่าเนี้ย...”
ฉันหยิบเสื้อผ้าจากในตู้ออกมาดูก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความจืดชืดของชุดที่แขวนอยู่ในตู้จริงๆ ฉันจึงเก็บกลับที่เดิมแล้วปิดตู้เสื้อผ้าหันไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง
“นี่น้ำหอมกลิ่นนี้ยังใช้อยู่อีกหรอ...?”
ฉันหยิบขึ้นมาดูจำได้ว่าฉันส่งมาให้ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนนิ มิน่าละถามว่าจะเอาน้ำหอมไหมถึงได้บอกปฎิเสธว่าไม่เอา เพราะมันยังไม่หมดนี่เอง
“ลิปสติกสีนี้ใช้แล้วดูป่วยจะตาย..”
ฉันเคลียร์ของทุกอย่างบนโต๊ะเครื่องแป้งออกไปจนหมด แล้วเก็บเสื้อผ้าของตัวเองยัดใส่ตู้เสื้อผ้าจนหมดแต่มันไม่พอ
“ตู้มันเล็กไปนะ...ฉันคงต้องลามไปที่ตู้เขาแล้วล่ะ...”
ฉันเอาเสื้อผ้าเขาออกมาวางข้างนอก แล้วเอาเสื้อผ้าตัวเองยัดเข้าไปแทนจนเสร็จเรียบร้อย
“เสร็จสักที...”
หมับ>>>
“อุ๊ย..!”
ฟ๊อดดดด>>>
“นี่คุณ...”
“หอมจัง...”
ฉันตกใจมากที่จู่ๆก็โดนเขากอดจากข้างหลัง
“นี่ทำอะไรอยู่ครับ...?”
“เก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ค่ะ...ปล่อยก่อนค่ะฉันเหงื่อออกเต็มไปหมด...”
“ไม่เอาอะพี่อยากกอดมินนี่หน่า...ให้ดวงมาช่วยเก็บสิ...”
“ไม่เป็นไรค่ะฉันอยากเก็บเองมากกว่า ปล่อยก่อนเถอะค่ะ...”
ฉันพูดจบก็พยายามแกะมือเขาออกแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ แถมยังซุกใบหน้ามาหอมที่แก้มของฉันอยู่แบบนั้นไม่ยอมปล่อย ถ้าฉันขัดขืนมากกว่านี้เขาคงรู้สึกแปลกๆ ฉันจึงต้องยอมให้เขาทำอะไรตามใจชอบไปก่อน
“พี่คิดถึงมินนะ...”
“...”
เขาเริ่มเปลี่ยนจากแค่หอมเป็นซุกไซ้มาที่ต้นคอฉัน แล้วก็ใช้มือลูบไล้ไปตามช่วงเอวของฉัน ถ้าฉันปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปมันต้องไม่ดีแน่
“คุณ...”
ฉันดีดตัวออกจากวงแขนของเขาแล้วหันหน้ามามองเขา
“ฉันเหนื่อยนะคะ...เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยว่ากันนะคะ...?”
ฉันพูดจบก็รีบเดินหนีเขาเข้าไปในห้องน้ำทันที