ขอคำปรึกษา

1386 คำ
บทที่ 18 ขอคำปรึกษา “สวัสดีค่ะ บ้านพิทักษ์ทรัพย์ค่ะ.. อยู่ค่ะ จะให้เรียนว่าจากไหนคะ.. คุณนิดน้องสาวคุณแก้วเหรอคะ.. ค่ะ รอสายสักครู่นะคะ” สาวใช้ถือโทรศัพท์บ้านแบบไร้สายไปหาคุณผู้หญิงของบ้าน “คุณผู้หญิงคะ คุณนิดน้องสาวคุณแก้วต้องการคุยสายด้วยค่ะ” “หนูนิดต้องการคุยกับฉันเหรอ” ยุพามองหน้าสามีและลูกชายคนเล็กก่อนจะวางช้อนส้อมแล้วรับโทรศัพท์มากรอกเสียงลงไป “สวัสดีจ้ะหนูนิด.. ไม่รบกวนหรอกจ้ะ คุยได้.. ตอนกลางวันนี้เหรอจ๊ะ.. ได้สิไม่มีปัญหา มาเลยจ้ะ ดีเสียอีกแม่จะได้มีเพื่อนทานข้าวด้วย.. จ้ะหนู เที่ยงนี้เจอกันนะ.. สวัสดีจ้ะ” “หนูนิดโทรมาทำไมครับคุณแม่” ราชถามมารดาเมื่อท่านส่งโทรศัพท์คืนให้สาวใช้เรียบร้อยแล้ว “เธอโทรมานัดพบแม่กลางวันนี้ บอกว่ามีเรื่องจะขอคำปรึกษา” “เรื่องอะไร เธอบอกหรือเปล่า” บันเทิงถามภรรยาแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ “ไม่ได้บอกค่ะ” “ถ้าโทรนัดคุณแม่แบบนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องพี่รามกับหลานหรอกครับ เพราะถ้าเป็นเรื่องอื่นหนูนิดเธอคงไม่มาขอคำปรึกษากับคุณแม่แน่” “หรือว่าเธอจะรู้เรื่องแล้ว” ยุพาหลุดปากพูดออกมา “เรื่องอะไรครับ / เรื่องอะไรหรือคุณ” พ่อกับลูกชายถามออกมาพร้อม ๆ กัน “คุณแม่ครับ อย่าปิดบังพวกเราเลยนะครับ” ราชดักคอ “ก็เมื่อหลายวันก่อนแม่แวะไปเยี่ยมหลานมา เสร็จแล้วก็โทรไปหาพี่ชายของเรา ก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบพี่เขานั่นแหละ แล้วแม่ก็เผลอพูดถึงเรื่องแต่งงานใหม่กับพี่ชายของเราไป...” “แล้วตารามเขาว่าอย่างไรบ้าง” สามีถามภรรยา เขาไม่เห็นด้วยที่ภรรยาไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของลูกชายคนโตนัก แต่ก็รู้ว่าที่เธอทำไปทั้งหมดเพราะความหวังดี จึงไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไร “ลูกบอกว่าจะลองเอาไปคิดดูค่ะคุณ” “แล้วคุยอะไรกันอีกครับคุณแม่” “ก็.. ก็ไม่มีอะไรแล้ว แม่ก็วางหูจากพี่ชายของลูกแค่นั้น” “แน่ใจเหรอครับ” มารดาของเขามีพิรุธ อาจจะเป็นเพราะว่าเคยรับปากเขาไว้แล้ว ท่านจึงแสดงท่าทางกังวลออกมาชัดเจนเมื่อทำผิด “แน่สิจ๊ะ ลูกอย่ามาเค้นแม่แบบนี้สิ” “ถ้าอย่างนั้นคุณแม่ก็เล่ามาให้หมดสิครับ” “หมดแล้ว แม่เล่าไปหมดแล้ว” ยุพาทำเสียงแข็งเพื่อสยบลูกชายซึ่งก็ได้ผล เขาอ่อนลงไปทันที “แสดงว่าพี่รามต้องเผลอเอาเรื่องนี้ไปพูดให้หนูนิดฟังแน่ ๆ บางทีหนูนิดมาวันนี้อาจจะมาถามความจริงกับคุณแม่ก็ได้นะครับ ว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่พี่สาวของเธอเพิ่งจะจากไปไม่นาน” ราชยอมอ่อนให้มารดา แต่ก็ทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยการพูดให้ท่านรู้สึกผิด “ชีวิตของคนเป็นต้องดำเนินต่อไปนะตาราช แม่คิดว่าหนูนิดจะต้องเข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่และย่าจ้ะ” “ถ้าหนูนิดเธอมาพูดเรื่องนี้จริง ๆ แล้วเธอคัดค้านไม่เห็นด้วย คุณก็บอกให้หนูนิดแต่งกับตารามไปเลยสิ” “ฉันมีตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าแล้วคุณก็รู้นี่คะ” “หนูแพรไม่เหมาะสมกับตารามเท่าหนูนิดหรอกคุณยุพา คุณต้องมองให้ทะลุถึงแก่นแท้ อย่ามองแค่ความชอบของตัวเองเป็นใหญ่สิ” บันเทิงพูดกับภรรยาอย่างใจเย็น “เธอก็เป็นน้าแท้ๆ ของหลานเรา ถ้าเรากล่อมให้พวกเขาแต่งงานกันได้ คนที่โชคดีที่สุดก็คือหลานของเรานะ คุณลองคิดดูให้ดีว่าผมพูดถูกไหม” “คุณคิดถึงแต่หลาน แล้วตารามล่ะคะ” ยุพาเห็นต่างกับสามี “แล้วคุณลองคุยกับลูกหรือยังล่ะ ถ้าคุยแล้วเขาไม่เห็นด้วยเราค่อยคิดถึงหนูแพรเป็นอันดับต่อไปไม่ดีกว่าเหรอ” “ผมก็เห็นด้วยกับคุณพ่อนะครับ ถ้าพี่รามไม่แต่งงานกับหนูนิดผมจะแต่งแทนเอง ผู้หญิงอย่างหนูนิดถ้าปล่อยให้หลุดมือไปก็เกย์แล้วครับคุณแม่” “ลูกชอบหนูนิดเหรอ” ยุพาถามลูกชายคนเล็กด้วยท่าทางตกใจ “ชอบมากเลยครับคุณแม่ แต่แค่ชอบนะครับยังไม่ได้รัก” “ไม่ได้รักแล้วจะแต่งทำไม” “ทีพี่รามคุณแม่ยังอยากให้เขาแต่งงานเลยนี่ครับ ผมอยากแต่งบ้างมันผิดตรงไหน คุณแม่บอกเองไม่ใช่เหรอครับ อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง” ยุพาได้แต่เม้มปากด้วยความกลัดกลุ้ม เถียงลูกชายไม่ออกสักคำ เพราะที่เขาพูดมานั้นมันเป็นคำพูดของนางทั้งหมด “เอาไว้แม่คุยกับหนูนิดเที่ยงนี้ก่อนก็แล้วกัน ถ้าเธอคุยเรื่องนี้จริง ๆ แม่จะลองเสนอไปตามนี้ก็แล้วกัน” “ดีครับคุณแม่ เชื่อผมเถอะครับว่าหนูนิดนี่แหละเหมาะสมกับพี่รามที่สุดแล้ว” “คุณทำถูกแล้วนะยุพา คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องเลือกทำในสิ่งที่เหมาะสมแก่ลูกมากที่สุด ไม่ใช่เลือกทำตามใจตัวเอง” “ฉันเข้าใจค่ะ” เธอไม่น่าปากไวพูดกับพินแพรไปเลย ถ้าหนูนิดตอบตกลงขึ้นมาจริง ๆ เธอจะโดนถอนหงอกไหมนะ ห้องทำงานของราม (พี่รามคะ แพรโทรไปจองโต๊ะให้แล้วนะคะ ตอนสิบเอ็ดโมงครึ่งถึงเที่ยง ถ้าไปไม่ทันทางร้านขอยกเลิกนะคะ) “ขอบใจมากจ้ะ” รามกดตัดสัญญาณอินเตอร์คอมแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหามารดา (ว่าไงจ๊ะลูกรัก) “ทำอะไรอยู่ครับคุณแม่” (กำลังให้แจ่มล้างเล็บอยู่จ้ะ ทำไมวันนี้โทรหาแม่แต่วันเลยล่ะลูก ว่างงานเหรอจ๊ะ) “ไม่ว่างหรอกครับ แต่จะโทรมานัดเดตกับคุณแม่มื้อกลางวันนี้ต่างหากล่ะครับ” (จริงเหรอลูก) “จริงสิครับ” (แต่วันนี้แม่มีนัดแล้ว เสียดายจังเลยจ้ะ) “นัดกับใครครับ” (แม่จะบอกลูกดีไหมน้า) “พูดแบบนี้ผมชักสงสัยแล้วสิครับ ใครกันครับที่นัดคุณแม่ตัดหน้าผม” (แม่บอกก็ได้จ้ะ เพราะแม่เชื่อใจลูกชายของแม่) “สัญญาครับว่าจะปิดปากให้สนิท จะไม่บอกคุณพ่อเด็ดขาด” พูดกลั้วหัวเราะอย่างมีความสุขที่ได้หยอกเย้ามารดา (แม่มีนัดกับหนูนิดเขาจ้ะ) “หือ!” คำตอบของมารดาสร้างความประหลาดใจให้เขาไม่น้อยเลยทีเดียว ก่อนที่เขาจะค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา “หนูนิดโทรไปหาคุณแม่เหรอครับ” (จ้ะ เธอโทรมาหาแม่เมื่อเช้านี้ ขอนัดทานข้าวเที่ยงกับแม่) “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรครับ แต่ผมขอจองตัวคุณแม่เป็นพรุ่งนี้แทนนะครับ” (ได้จ้ะลูกรัก เดี๋ยวแม่จะจดเอาไว้เลยว่าพรุ่งนี้มีนัดกับลูกชายสุดที่รัก ไม่รับนัดใครทั้งสิ้นแม้แต่กับคุณพ่อ) “ครับคุณแม่ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ขอให้ทานข้าวมื้อเที่ยงอย่างอร่อยนะครับ” (จ้ะลูก) “พรุ่งนี้ผมโทรหาใหม่นะครับคุณแม่” (จ้ะลูก) รามกดตัดสัญญาณจากมารดาแล้ววางโทรศัพท์ลง ชูสองมือขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ ในที่สุดเธอก็ตกหลุมพรางของเขาแล้ว เขากดเบอร์ภายในที่เครื่องอินเตอร์คอม “แพรเปลี่ยนวันจองเป็นพรุ่งนี้เวลาเดิมนะ วันนี้คุณแม่พี่ท่านไม่ว่าง” (ค่ะพี่ราม) ตัดสัญญาณจากเลขาแล้วเขาก็นั่งทำงานต่อไปเรื่อย ๆ พร้อมกับเรื่องของน้องเมียที่เวียนวนอยู่ในสมอง จนกระทั่งสิบเอ็ดโมงครึ่งจึงลุกออกไปจากห้องทำงาน “พี่จะออกไปข้างนอก อาจจะไม่ได้กลับเข้ามาแล้วนะ” “ค่ะ พี่รามจะไปไหนคะ เผื่อมีลูกค้าถามแพรได้ตอบถูก” “พี่จะไปหาคุณแม่” “ค่ะ” พินแพรก้มหน้าเก็บซ่อนความดีใจ คุณแม่ของเขาอาจจะเรียกเขาไปพบเรื่องที่เคยคุยกับเธอเอาไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม