เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากอันเดรียกลับมาถึงบ้านเขาก็ถูกรวบตัวไปที่สถานีตำรวจท่ามกลางความตกใจของยายชมพู หญิงชราวัยแปดสิบหกปีที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลานชายสุดที่รักของตัวเอง จนนางเป็นลมถูกหามส่งโรงพยาบาลไปอีกคน
และไม่นานข่าวของอันเดรียก็แพร่ไปทั่วคณะแพทย์จนเขาถูกตัดชื่อออกจากการเป็นนักศึกษาแพทย์ ทั้งที่เหลือเวลาอีกเดือนเดียวก็จะจบแล้ว
ท่ามกลางความตกใจของทุกคนนั้นนารินกลับมองข่าวในจอโทรศัพท์ด้วยความสะใจแม้ว่าวันนี้เธอจะต้องไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจที่โรงพักก็ตามที
“ผมบอกแล้วไง ว่าผมไม่ได้ข่มขืนเธอ”
อันเดรียตะคอกใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความโมโหสุดขีดที่ถูกใส่ความจากคนที่เขาเห็นเธอเป็นแค่เพื่อนมาโดยตลอด
“คุณจะปฏิเสธยังไง ในเมื่อเราตรวจพบหลักฐานน้ำอสุจิของคุณในตัวเธอ”
“เหลวไหลที่สุด!”
อันเดรียสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อได้ฟังสิ่งที่เจ้าหน้าที่บอก
เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผลเทียบดีเอ็นเอถึงออกมารวดเร็วไม่ถึงวันทั้งที่เขาไม่เคยส่งตรวจผลเลือดมาก่อน เพราะคงไม่ใช่เรื่องยากหากเจ้าหน้าที่จะไปขอมาจากห้องแลปคณะแพทย์ที่เขาเคยส่งทดสอบตอนเรียนมหาวิทยาลัย และแน่นอนว่าในแลปมีน้ำอสุจิของนักศึกษาชายหลายคนที่ต้องการบริจาคเพื่อทำการทดลอง
เรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดก็คือนารินเพื่อนที่เคยทำแลปคู่ด้วยกัน แต่ชายหนุ่มไม่คิดว่าเธอจะเล่นสกปรกใส่ร้ายเขาแบบนี้
คดีความไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา เพราะพี่ชายมาเฟียทั้งสองที่อยู่อิตาลีไม่ปล่อยให้น้องคนสุดท้องอย่างเข้าต้องไปนอนในคุกแน่ แต่สิ่งที่เขากังวลที่สุดตอนนี้คือคนรักสาว เพราะหากเธอรู้เรื่องนี้และไม่เข้าใจต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน
“ทางที่ดีผมแนะนำให้คุณรับสารภาพออกมาจะดีกว่า หลักฐานแน่นขนาดนี้คุณดิ้นไม่หลุดหรอกครับ”
เจ้าหน้าที่บอกด้วยความหวังดี แต่ชายหนุ่มกลับทุบลงบนโต๊ะเสียงดังปัง! ตามแรงอารมณ์โมโห
“ถ้าเป็นคุณจะรับสารภาพในสิ่งที่ไม่ได้ทำไหมคุณ…ตำรวจ”
อันเดรียเค้นเสียงถามลอดไรฟัน พร้อมส่งแววตาวาวโรจให้เจ้าหน้าที่สืบสวนจนอีกฝ่ายต้องส่ายหัวกับความดื้อดึงของชายหนุ่ม
‘อย่าให้เจอนะนางตัวดี จะเอาคืนให้สาสมเลย’ อันเดรียคิดอย่างเคียดแค้น
และไม่นานอันเดรียก็ได้รับการประกันตัวจากเพื่อนร่วมคณะที่เขาไม่เคยรู้และสงสัยมาก่อนเลยว่า เพื่อนต่างชาติทั้งสองคนที่ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ แท้จริงแล้วเป็นลูกน้องของฟรานเซสพี่ชายคนโตที่ส่งให้แฝงตัวเรียนร่วมชั้นเดียวกับเขา เพื่อตามประกบดูแลและคอยช่วยเหลือเขาอยู่ห่างๆมาโดยตลอด
เมื่อได้ออกจากโรงพักแล้ว อันเดรียก็รีบตรงไปที่โรงพยาบาลทันที หลังจากได้รับข่าวว่ายายชมพูเป็นลมหมดสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
“หมอต้องแสดงความเสียใจด้วยนะครับที่ไม่สามารถยื้อชีวิตยายของคุณเอาไว้ได้ เพราะท่านชรามากบวกกับหัวใจวายเฉียบพลันและมาถึงโรงพยาบาลช้าเกินไป”
นั่นเป็นคำพูดของนายแพทย์หนุ่มที่มาแจ้งกับเขาทันทีที่ถึงโรงพยาบาล ทำเอาหัวใจของอันเดรียแตกสะลายไม่เหลือชิ้นดี ร่างสูงทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง ก้มหน้าร้องให้ออกมาอย่างไม่อายสายตาใครที่ผ่านไปผ่านมา
“พี่อัน!”
วันใหม่วิ่งมาหาคนรักหนุ่มพร้อมโผล่เข้ากอดด้วยความรู้สึกเสียใจไม่แพ้กัน เมื่อทราบข่าวของชายหนุ่ม ทั้งข่าวคดีข่มขืนเพื่อนสาวร่วมชั้น ทั้งโดนปลดออกจากรายชื่อการเป็นนักศึกษาแพทย์ และไหนจะเรื่องของยายชมพูที่เสียชีวิตกะทันหันอีก เข้มแข็งแค่ไหนก็คงไม่มีใครต้านรับมันไหวแน่
อันเดรียกระชับอ้อมกอดคนรักสาวไว้แน่นพร้อมกับปล่อยโฮออกมากับไหล่มนอย่างสุดจะกลั้น อย่างน้อยในวันที่เลวร้ายที่สุดก็ยังมีเธอที่เคียงข้างและไม่ทิ้งไปไหน
“หนูเชื่อข่าว หรือเชื่อใจพี่ตอบหน่อยได้ไหม”
เมื่อเสียงสะอื้นสงบลงชายหนุ่มก็ผละออกจากร่างบางเพื่อเผชิญหน้าถาม เพราะนอกจากยายแล้วก็มีเพียงเธอที่เขารักและแคร์ความรู้สึกมากที่สุด
“หนูเชื่อพี่อัน…พี่อันไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นแน่ ที่พี่นารินให้ข่าวว่าถูกข่มขืนเมื่อคืนก็ไม่ใช่ความจริง เพราะเมื่อคืนพี่อยู่ที่บ้านของหนู เรื่องนี้พี่ไม่ต้องห่วงนะคะเราจะไปเป็นพยานในชั้นศาลให้พี่เอง”
น้ำเสียงและแววตาเชื่อมั่นของคนรักสาว ทำให้น้ำตาลูกผู้ชายที่เหือดแห้งไปเมื่อกี้ร่วงหล่นลงมาอีกครั้งด้วยความตื้นตันใจ
“ขอบคุณ ขอบคุณที่เชื่อใจพี่”
ในความโชคร้ายเขาก็ยังมีความโชคดีที่คนรักสาวเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มดึงร่างบางมาสวมกอดไว้แน่นด้วยความขอบคุณและรักใคร่สุดหัวใจ
ในระหว่างที่อันเดรียต้องเคลียร์เรื่องตัวเองกับทางคดีความและมหาวิทยาลัยรวมทั้งงานศพของยายไปพร้อมๆกัน แต่ใครจะไปรู้ว่าท่ามกลางความโศกเศร้านั้นพ่อของวันใหม่มองเห็นโอกาสที่เขาจะดึงลูกสาวออกมาจากผู้ชายจนๆซึ่งตอนนี้ไม่เหลืออะไรแม้แต่อนาคต
“จากนี้ต่อไปอย่าไปเจอ หรือติดต่อนายอันเดรียเป็นอันขาด!”
คำสั่งเฉียบขาดของบิดาพร้อมกับยึดโทรศัพท์มือถือของลูกสาวทำให้หัวใจของสาวน้อยแหลกสะลายไม่มีชิ้นดี
“ทำไมคะ หนูไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อพูด”
“เลิกกับไอ้หมอนั่นซะ!”
“ไม่ค่ะ หนูไม่เลิก พี่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมหนูต้องเลิกด้วยละคะ”
“การไปข่มขืนผู้หญิงจนถูกปลดออกจากรายชื่อนักศึกษาแพทย์ ยังไม่เรียกว่าทำผิดหรือไงวันใหม่!”
“แต่พ่อก็รู้ว่าพี่อันถูกใส่ร้าย พี่อันไม่มีวันทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นแน่ๆ”
“ถ้าตำรวจไม่มีหลักฐานเขาจะส่งฟ้องศาลได้ยังไงพ่อขอถามหน่อย”
“แต่พ่อก็รู้ว่าคืนนั้นพี่เขาอยู่บ้านเราไม่มีทางออกไปทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นแน่ หนูจะไปเป็นพยานให้พี่เขาเอง พร้อมเอากล้องวงจรปิดหน้าบ้านเราไปให้ศาลดูด้วย”
“พอได้แล้ว! พ่อจะไม่ทนเห็นลูกสาวตัวเองต้องไปเกี่ยวของกับเรื่องสกปรกพวกนี้อีก กลับขึ้นไปนอนซะถ้ากล้าขัดคำสั่งพ่อจะให้ลาออกจากมหาวิทยาลัย”
“พ่อไม่มีเหตุผล หนูเกลียดพ่อ!”
วันใหม่ตะคอกใส่หน้าบิดาก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดตรงไปนอนร้องให้ในห้องนอนทันที
ตลอดการโต้เถียงระหว่างสองพ่อลูกอยู่ในสายตาของผู้เป็นแม่และเมียตลอด เรื่องนี้แม้แรมเดือนจะไม่เห็นด้วยกับสามีแต่ก็ไม่รู้จะหาทางช่วยลูกสาวยังไงดี เพราะอำนาจเงินของคู่กรณีอันเดรียนั้นไม่ใช่เล่นๆ ซึ่งทุกคนในแวดวงไอโซต่างรู้ดีว่าตระกูลนี้เส้นใหญ่แค่ไหน
แม้ครอบครัวเธอจะร่ำรวยจากธุรกิจโรงแรมแต่ตอนนี้ผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจของประเทศก็ส่งผลให้ธุรกิจฝืดเคืองอยู่ไม่น้อย ซึ่งเรื่องนี้วันใหม่ก็ยังไม่ทราบเรื่องว่าครอบครัวของเธอกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย