ตอนที่ 8
หลายวันต่อมา
@ซางเหลี่ยง กรุป
แกรก
มาเฟียหนุ่มที่กำลังเซ็นเอกสารบนโต๊ะทำงาน แต่ประตูกลับถูกผลักเข้ามาอย่างถือวิสาสะ
“หวัดดีครับไอ้เสือ” ลีชังสาวเท้าเดินเข้าห้องทำงานเพื่อนสนิทอย่างไร้มารยาทราวกับเป็นห้องทำงานตัวเอง ในมือถือซองเอกสารสีน้ำตาล เฟิงเฮยปรายตามองแววตารำคาญพลางถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่
“มาถึงที่นี่มึงมีธุระอะไร?”
“ต้องมีธุระด้วยเหรอวะถึงจะมาได้?” ลีชังเลิกคิ้วย้อนถามพลางลากเก้าอี้ตรงข้ามเจ้าของห้องออกเล็กน้อย แล้วทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ยกขาขึ้นไขว่ห้าง ท่าทางสบายอารมณ์
“กวนตีน! ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไป กูมีงานต้องทำอีกมาก”
“หยอกนิดหยอกหน่อยทำเป็นจริงจังไปได้นะมึง”
“มีไรก็รีบพูดมา?” เฟิงเฮยไม่รีรอรีบเข้าประเด็นทันที เพราะมีเอกสารที่ยังไม่ได้เซ็นเป็นจำนวนมาก อีกอย่างเขามีนัด จึงต้องรีบจัดการให้เสร็จก่อนสี่โมงเย็น
“อะ ข้อมูลบริษัทที่ไอ้อี้เฉินเพิ่งลงทุนไปเมื่อวาน” ลีชังเลื่อนซองเอกสารสีน้ำตาลบนโต๊ะไปตรงหน้าเฟิงเฮย
“…” มาเฟียหนุ่มดึงหน้ากลับมาเรียบเฉยพลางหยิบซองเอกสารบนโต๊ะทำงานขึ้นมา แล้วเอ็นหลังพิงกับพนักพิงเก้าอี้ทำงาน ขณะดึงกระดาษเอสี่เต็มไปด้วยตัวอักษรภาษาจีนขึ้นมากรวดตาอ่านอย่างละเอียด ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจกับข้อมูลที่ได้อ่าน
“ขอบใจสำหรับข้อมูลดี ๆ”
“จะจัดการเลยไหม?”
“จัดการแน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ รอธุรกิจมันไปได้ดีกว่านี้อีกหน่อยค่อยลงมือก็ยังไม่สาย” เฟิงเฮยกระตุกยิ้มมุมปากอีกครั้งอย่างเจ้าเล่ห์ ซึ่งลีชังก็พอจะคาดเดาความต้องการของเพื่อนสนิทได้
“แล้วเป็นไงพรีเซนเตอร์คนใหม่?”
“ก็ไม่เป็นไง” เฟิงเฮยเบ้ปากไหวไหล่ตอบอย่างขอไปที่
“ได้แล้ว?”
“ได้กับผีน่ะสิ! แม่ง!เล่นตัวฉิบหาย”
“มึงก็น่าจะชอบหนิ ยิ่งยากยิ่งยากได้ สนุกดีไม่ใช่?”
“…” เฟิงเอยตวัดสายตามองหน้าลีชังอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเบนสายตามองไปทางอื่นพลางดันปลายลิ้นเข้าหากระพุ้งแก้มย้ำ ๆ ราวกับมีอะไรบางอย่างในใจที่พูดให้ใครฟังไม่ได้ แต่ดูเหมือนลีชังจะรู้ทันเฟิงเฮย
“หรือมึงกลัวจินรู้เรื่องเข้า เลยอยากรีบปิดจ๊อบ”
“ปิดจ๊อบเชี้ยไรมึง! กูไม่ใช่ไอ้ตัว!” เฟิงเฮยแหวใส่เพื่อนสนิทเสียงดังกลบเกลื่อนความจริงที่ว่ากลัวเมียจับได้ แต่ประสบการณ์ครั้งก่อน ๆ ทำให้เก็บซ่อนหลักฐานที่จะหมัดตัวได้มิดชิด และ แนบเนียนเสียยิ่งกว่าเดิม เข้าขั้นชำนาญเลยก็ว่าได้
“ฮึ ๆ” ลีชังเค้นเสียงในลำคอหัวเราะเบา ๆ อย่างขำขัน “มองตามึงกูก็รู้แล้วไอ้สัส!”
“มึงไม่ต้องเสือกทำเป็นรู้ดี” เฟิงเฮยหายใจฟึดฟัดอย่างไม่สบอารมณ์
“หึ ระวังตัวเถอะมึง แล้วอย่าลืมล่ะ…สัญญาอะไรกับจินไว้” ลีชังพูดทิ้งท้ายไว้ให้เพื่อนสนิทได้ตึกตรอก แต่ดูเหมือนจะเป็นการเย้ยหยันมากกว่า ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง ล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงสีดำ สาวเท้าเดินไปยังประตูทางออก โดยไร้ซึ่งประโยคเอ่ยลา
“…” เฟิงเฮยถอนหายใจออกมาหนัก ๆ หัวคิ้วชนเข้าหากันแน่นอย่างคิดไม่ตก ใบหน้าหล่อฉายถึงความวิตกกังวลอย่างเปิดเผย
….
ภายในรถสปอร์ตสุดหรูสีดำของยู เปิดเพลงจังหวะสนุกของเกิร์ลกรุปเกาหลีชื่อดัง ซึ่งน้ำหนาวที่นั่งเบาะด้านหลังเป็นฝ่ายขอให้เจ้าของรถเปิด ส่วนเบาะข้างคนขับคือจินหมี่ จุดหมายของทั้งสามคือสถานที่บันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
“เป็นอะไรหรือเปล่าจิน หน้าตาดูเครียด ๆ ?” ยูเหลียวหน้าไปมองจินหมี่แล้วเห็นความผิดปกติบนใบหน้าน่ารักพอดี หลังจากที่เธอยกโทรศัพท์เครื่องหรูออกจากใบหูจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็เฟิงน่ะสิคะตั้งแต่เย็นแล้วยังติดต่อไม่ได้เลย ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”
“…” ยูหงุดหงิดในใจไม่น้อยเมื่อได้ยินชื่อมารหัวใจจากปากรุ่นน้องสาวที่เขายังตัดใจจากเธอไม่ได้ แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแล้วหลายปี
“แล้วลูกน้องคนอื่นล่ะ แกลองโทรถามยัง” น้ำหนาวละสายตาออกจากหน้าจอโทรศัพท์ในมือมองไปที่จินหมี่
“คนอื่นไม่มีใครรู้นอกจากมือขวาเขา ฉันโทรไปแล้วไม่รับสาย ไม่รู้ทำอะไรกันอยู่ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง เฮ้อ~” จินหมี่ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างนึกโกรธ หากสามีเลิกงานแล้ว และต้องไปที่อื่นต่อ เขาจะโทรบอกเธอก่อนทุกครั้ง แต่วันนี้เขากลับเงียบหายไปอย่างผิดปกติ เธอจึงรู้สึกเป็นห่วง
“อย่าคิดมากเลยจิน สามีแกอาจจะติดธุระสำคัญอะไรบางอย่างก็ได้”
“แต่ปกติเขาจะโทรบอกฉัน หรือไม่ก็ฝากลูกน้องมาบอก แต่นี่หายไปทั้งคู่ อีกทั้งลูกน้องคนอื่น ๆ ก็ไม่มีใครรู้”
“ครั้งแรกหรือเปล่าที่ติดต่อไม่ได้?” ยูเป็นฝ่ายเอ่ยถามหลังจากเงียบอยู่นาน เพราะต้องมีสมาธิในการขับรถ
“ค่ะ เฟิงไม่เคยเงียบหายไปแบบนี้” ต่อให้เขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น หรือยุ่งอยู่ก็ตาม และ เธอเชื่อว่าเขาคงไม่ทิ้งโอกาสครั้งสุดท้ายที่เธอมอบให้
“เอาน่าจิน คิดในแง่บวกเข้าไว้ สามีแกโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว ดูแลตัวเองได้ วันนี้ไปเที่ยวก็สนุกให้เต็มที่เถอะ อีกอย่างแกก็ทั้งส่งข้อความ ทั้งบอกคนที่บ้านไว้แล้ว ถ้าสามีแกกลับถึงบ้านก็คงรู้เองแหละ เชื่อฉันสิ”
“…” จินหมี่เข้าใจที่น้ำหนาวพูดทุกอย่าง เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ใบหน้าน่ารักแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางอ่อน ๆ หันมองวิวนอกหน้าต่างรถ ในหัวพาลคิดไม่หยุด กระทั่งถึงสถานบันเทิง
@ผับ P
จินหมี่ก้าวขาลงจากรถสปอร์ตหรู เธอแต่งกายด้วยเสื้อสีฟ้าครามสายเดี่ยว เปิดไหล่ มีแขนเสื้อยาวถึงต้นแขน กระโปรงพลีทสั้นสีดำไม่โป๊มาก ปล่อยผมลอนยาวสีดำแผ่กระจายเต็มแผ่นหลังเนียนอย่างสวยน่ารัก ส่วนน้ำหนาวสวมใส่ชุดเดรสสั้นรัดรูปสายเดี่ยวสีดำสวยเซ็กซี่ และ ยูผู้ชายเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มอยู่ในชุด เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสีดำ เซตผมอย่างดูดี
“ไปกันเถอะ” น้ำหนาวไม่รอช้าควงแขนรุ่นพี่หนุ่ม และ เพื่อนสาวท่าทางกระดี๊กระด๊าพากันเดินเข้าผับ
เสียงเพลงภายในผับดังกระหึ่ม ส่งผลให้หัวใจของใครหลาย ๆ คนเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไปตามจังหวะ
“…” จินหมี่ขมิบตาเข้าหากันบ่อยครั้ง เมื่อสายตาพร่ามัว เพราะแสงไฟหลากสีภายในผับ เธอเดินอยู่ด้านหลังจับมือกับน้ำหนาว เพื่อไม่ให้พลัดหลงกัน เนื่องจากผู้คนมากหน้าหลายตาทั้งชายและหญิงที่กำลังเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเสียงเพลงอย่างมัวมันนั้นมีจำนวนมาก โดยยูเป็นฝ่ายเดินนำทางไปยังโต๊ะที่จองไว้
…
#เวลาต่อมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“จิ๊!” มาเฟียหนุ่มผละจูบออกจากริมฝีปากจิ้มลิ้มเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงก่ำ ส่งเสียงในปากอย่างหงุดหงิด เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ เพราะกำลังบดจูบนัวเนียกับนางแบบสาวอย่างเข้าด้ายเข้าเข็ม ทว่าไม่ทันได้พูดอะไรมากก็ถูกนางแบบสาวคว้าท้ายทอยเข้าไปจูบดูดดื่มอีกครั้ง
แต่เสียงเคาะประตูจากด้านนอกก็ดังขึ้นต่อเนื่องรัว ๆ
จ๊วบ~
“อะไรนักหนาวะ!” มาเฟียหนุ่มผละใบหน้าคมคายออกจากนางแบบสาว แล้วสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก เมื่อถูกรบกวนความสุขที่รอตั้งตารอมานานถึงหนึ่งอาทิตย์
“มินไปเปิดประตูให้นะคะ เผื่อลูกน้องคุณมีเรื่องด่วน
“คุณรออยู่เนี่ยแหละครับ ผมจัดการเอง” เจ้าของใบหน้าหล่อ แววตาดุดันน่าเกรงขาม แต่งตัวสไตล์หนุ่มแบดบอย เสื้อเชิ้ตสีขาวลายเส้นตรงสีดำ ปลดกระดุมออกถึงสามเม็ด เผยให้เห็นกล้ามหน้าอกขาว ๆ แน่น ๆ ท่อนล่างสวมใส่กางเกงสีดำตัวโปรด ผุดตัวลุกขึ้นจากโซฟาตัวยาว สาวเท้าเดินไปเปิดประตูท่าทางเอาเรื่อง
“เคาะหาพระแสงอะไรนักหนาวะ!”
“…” เสียงทรงอำนาจตวาดลั่น ทำเอาชายฉกรรจ์ชุดดำคนดังกล่าวสะดุ้งเฮือก เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว แต่ถึงจะกลัวมากเพียงใด แต่อย่างไรก็ต้องรายงานให้ผู้เป็นนายทราบ
“คะ…คือนาย…หญิงมาเที่ยวกับเพื่อนที่นี่ครับ”
“o” มาเฟียหนุ่มเบิกตากว้าง ใบหน้าซีดเผือดไปทันที เมื่อได้ฟังสิ่งที่ลูกน้องรายการ ส่งผลให้หัวใจแกร่งสั่นไหวอย่างรุนแรงด้วยความประหม่า จนมือไม้สั่นเทาอัตโนมัติ เผลอรอบกลืนน้ำลายลงท้องอึกใหญ่
“จับตาดูเมียกูไว้” เฟิงเฮยตั้งสติได้จึงรีบถ่ายทอดคำสั่งอย่างตะลีตะลาน แล้วกลับเข้าห้องวีไอพีอย่างรวดเร็ว
“…”
---------------------------