ตอนที่ 7
ซางเหลี่ยง กรุป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่เฟิงเฮยยังไม่ละความสนใจจากภาพถ่ายสุดเซ็กซี่ของหญิงสาวหน้าตาสะสวย ตากลม ผิวขาวราวกับน้ำนม บนหน้าจอไอแพดขนาดสิบสองจุดเก้านิ้วในมือ ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มอย่างถูกใจตั้งแต่แรกเห็น จนเผลอลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับเมียที่บ้านไปชั่วขณะ
แกรก
บานประตูห้องประชุมถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของลี่จิ่นมือขวาคนสนิท และ ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ดำรงตำแหน่งเลขาคนใหม่
“คุณจัสมินกับผู้จัดการของเธอมาถึงแล้วครับ” ลี่จิ่นกล่าวรายงานหลังจากโค้งศีรษะทำความเคารพผู้เป็นนาย
“ให้รีบเข้ามาเลย” น้ำเสียงตื่นเต้นเอ่ยขึ้นทันควัน ท่าทีของมาเฟียหนุ่มที่คล้ายกับหมาป่าหิวโซครั้นเจออาหารอันโอซะ ทำให้ลี่จิ่นพอจะมองออกว่าผู้เป็นนายกำลังคิดอะไรอยู่
เฟิงเฮยอยู่ในชุดสูทสีดำ หยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง มือหนาจัดระเบียบตัวเองเตรียมพร้อมต้อนรับพรีเซนเตอร์คนใหม่ของบริษัท และ ไม่ลืมที่จะถอดแหวนแต่งงานออกจากจากนิ้วนางข้างซ้าย และ กำไลเหล็กสลักชื่อภรรยาสาวเก็บเข้าใส่กระเป๋ากางเกง
“สวัสดีค่ะคุณเฟิงเฮย” ผู้ชายใจเป็นหญิงเดินเข้ามาในห้องประชุมพร้อมกับนางแบบสาว เอ่ยทักทายประธานหนุ่มพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อย่างมีจริตจะก้าน
“สวัสดีครับ” เฟิงเฮยตอบรับแต่ตามองใบหน้าสวยของนางแบบสาวที่ยืนยิ้มท่าทีเหนียมอายอยู่ข้างกายผู้จัดการของเธออย่างไม่วางตา
“ตัวจริงคุณเฟิงเฮยหล่อมากเลยนะคะเนี่ย”
“ขอบคุณครับ”
“น้องจัสมินค่ะ” ผู้ชายใจเป็นหญิงแนะนำนางแบบสาวให้ประธานหนุ่มรู้จักอย่างเป็นทางการ
“สวัสดีค่ะ”
“ครับ คุณจัสมิน” เฟิงเฮยใช้สายตาโลมเลียมองนางแบบสาวอย่างกะลิ้มกะเหลี่ย ความเจ้าชู้เปล่งประกายออกมาอย่างเปิดเผยทางแววตา และ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนริมฝีปากหยักได้รูป “เชิญนั่งครับ”
“เข้าเรื่องงานเลยแล้วกันนะครับคุณกี้ คุณจัสมิน”
“ค่ะ” จัสมินตอบรับอย่างสุภาพ เป็นฝ่ายละสายตาออกจากเจ้าของใบหน้าหล่อก่อน
ประธานหนุ่มเฟคเพคทุกอย่าง ทั้งรวย ทั้งมีอำนาจมากล้นที่จะเชิดหน้าชูตาทางสังคมให้เธอได้ อีกทั้งหน้าตายังหล่อเหลาและมีเสน่ห์ราวกับสวรรค์สร้าง เป็นที่หมายปองของสาว ๆ หลาย ๆ คน แม้ว่าจะแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ตาม…
#สามสิบนาทีต่อมา
“รายละเอียดงานที่แจ้งไป มีตรงไหนต้องเพิ่มเติมอีกไหมครับ”
“ว่าไงจัสมิน?” กี้โยนคำถามไปที่เด็กของตัวเอง
“ไม่มีแล้วค่ะ รูปแบบงานโอเคมากเลยค่ะ”
“ครับ ถ้างานติดขัดตรงไหนบอกผมโดยตรงได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณค่ะคุณเฟิงเฮย”
จัสมินหันหน้ามองสบตากับผู้จัดการอย่างมีความคิดตรงกันในเรื่องบางอย่าง
“เย็นนี้คุณสองคนว่างไหมครับ ผมอยากทำความรู้จักให้มากขึ้น เลยอยากชวนไปทานมื้อเย็นด้วยกันสักมื้อ”
“ขอโทษด้วยนะคะที่เย็นนี้กี้ไม่ว่างจริง ๆ” กี้พูดจบก็หันไปบอกกับจัสมินพลางส่งซิกอะไรบางอย่าง “จัสมินไปทานข้าวกับคุณเฟิงเฮยนะ”
“ค่ะพี่กี้”
เฟิงเฮยกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ สายตาเจ้าชู้จดจ่ออยู่กับความงามบนใบหน้าหวานของนางแบบสาวอย่างไม่ลดละตั้งแต่เธอก้าวขาสวยเข้ามาในห้องประชุม
“เสือยังไม่สิ้นลายสินะ นายหญิงรู้จบเห่แน่” ลี่จิ่นยืนอยู่ด้านหลังของผู้เป็นนายตรงมุมห้อง พูดเสียงเบาให้ได้ยินเพียงคนเดียวอย่างคาดเดาไม่ผิด เขาทำงานกับมาเฟียหนุ่มมามากกว่ายี่สิบปีทำไมถึงจะไม่รู้จักนิสัยใจคอ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้ทำ ยิ่งยากมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากได้มาครอบครองมากเท่านั้น โดยเฉพาะของอะไรที่สวย ๆ งาม…
“…”
เวลาต่อมา
@คฤหาสน์ ซางเหลี่ยง
Rrrrrrrrrr
สายเรียกเข้าดังขึ้น เรียกความสนใจจากจินหมี่ที่กำลังเข้าครัวทำอาหารเย็นด้วยตัวเอง เนื่องจากตกลงกับสามีว่าจะทำอาหารมื้อเย็นที่โปรดปราน ฉลองวันครบรอบที่ตกลงเป็นแฟนกัน
“ฝากหม้อซุปด้วยค่ะพี่หนูหลี่” จินหมี่ส่งต่อทัพพีให้กับสาวใช้ แล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูบนโต๊ะกลางห้องครัว หน้าจอสี่เหลี่ยมปรากฏรายชื่อของผู้เป็นสามี
“ที่รักครับ” ทันทีที่แนบหน้าจอสี่เหลี่ยมกับใบหูเสียงออดอ้อนของปลายสายก็เอ่ยเรียก
“ทำเสียงอย่างนี้ไปทำอะไรผิดมาอีกล่ะ” จินหมี่กลอกตามองบนเอ่ยอย่างรู้ทัน
“คือว่า…เย็นนี้เฟิงไม่น่าจะกลับไปทานข้าวเย็นกับจินทันแล้วแหละ ลูกค้าทางจีนนัดคุยโปรเจคใหญ่กะทันหัน แล้วก็เลื่อนไม่ได้ด้วย จินจะว่าอะไรไหมถ้า...”
“เลื่อนนัดเราใช่ไหม?”
“…ขอโทษนะจิน” ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับเสียงแผ่ว
“ไม่เป็นไรหรอก เฟิงก็ตั้งใจทำงานล่ะ”
“ครับที่รัก ถึงวันนี้เฟิงจะกลับไปทานข้าวด้วยไม่ได้ แต่เฟิงเตรียมของขวัญวันครบรอบของเราไว้ให้จินแล้วนะ”
“อือ ทำงานเสร็จแล้วก็รีบกลับล่ะ”
“ครับ รักนะครับคนสวย จุบ ๆ”
“…” จินหมี่กดวางสายด้วยใบหน้าหม่นหมอง หัวใจห่อเหี่ยวเสียจนไม่อยากทำอะไร เธอเงยหน้าขึ้นมองอาหารจีนที่เธอและสามีโปรดปรานบนโต๊ะสี่เหลี่ยมที่ทำเสร็จแล้วสี่อย่าง แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหวังและน้อยใจ
วันครบรอบตกลงเป็นแฟนกัน ปีนี้เป็นปีแรกที่เขาผิดนัด
@22:50 น.
จินหมี่อยู่ในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินสีดำตัวโปรด ยืนตรงระเบียงห้องนอนชะเง้อชะแง้มองไปที่ประตูรั้วหน้าบ้านอยู่บ่อยครั้ง รอคอยสามีกลับบ้าน ทว่ากลับไม่มีท่าทีว่ารถของสามีจะขับเข้ามาสักที
“จะห้าทุ่มแล้วยังไม่กลับอีก เฮ้อ~” ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างท้อใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังยืนรออยู่ตรงนั้น
“…” ขณะเดียวกันความเงียบเหงาเริ่มแทรกซึมเข้ามามากขึ้น จนเธออยากร้องไห้อย่างหาสาเหตุที่แท้จริงไม่เจอ
“อย่าร้องนะ เธอไม่ได้ถูกผัวทิ้งซะหน่อยจินหมี่ เขาแค่ไปทำงาน” เมื่อแววตาร้อนผ่าว ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอ เธอจึงต้องหักห้ามความคิดฟุ้งซ่าน ขจัดออกไปให้หมด และ เตือนสติตัวเอง
ระหว่างนั้นรถยนต์สีดำคันหรูก็ขับเคลื่อนเข้ามา เรียกรอยยิ้มเล็ก ๆ ให้แก่จินหมี่อีกครั้ง
….
แกรก
จินหมี่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่เตียงปรายตามองบานประตูที่ถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของเฟิงเฮยแวบหนึ่ง แล้วกลับไปสนใจแอปพลิเคชันที่เปิดต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย สร้างความหวั่นใจให้แก่เฟิงเฮยไม่น้อย
“กลับมาแล้วครับคนสวย”
“…” ความเงียบและท่ามึนตึงของจินหมี่ ทำเอาเฟิงเฮยยิ่งประหม่าเข้าไปใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังฉีกยิ้มกลบเกลื่อน รีบเดินตรงดิ่งเข้าไปหาเมียรัก
หมับ!
ฟอด~
“คิดถึงจังเลยครับ” มาเฟียหนุ่มสวมกอดคนรักแล้วฝังจมูกโด่งและริมฝีปากบนแก้มนุ่มฟอดใหญ่ แต่คนรักกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เอาแต่สนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมในมือ พลันให้รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าหล่อทันที “โกรธเฟิงอยู่เหรอครับ”
“เปล่า”
“โกรธเฟิงจริง ๆ ด้วย” ปากตอบปฏิเสธแต่ใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูกลับปิดความรู้สึกไม่มิด “เฟิงขอโทษนะจิน อย่าโกรธเฟิงเลยนะ นะครับคนสวย”
เจ้าของใบหน้าหล่อเกยปลายคางบนหัวไหล่เล็กทำสีหน้าอย่างออดอ้อนออเซาะขอให้เมียรักเมตตา ทำเอาคนถูกกระเซ้ากระซี้ใจอ่อนอย่างง่ายดาย ก้อนน้ำแข็งในใจละลายกลายเป็นน้ำทันที
“พอ! ไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้นหรอก แค่ยังรู้สึกนอยด์นิดหน่อย”
“ขอโทษครับ หายโกรธเฟิงนะ”
ฟอด~ฟอด~
เฟิงเฮยหอมแก้มนุ่มทั้งสองข้างฟอดใหญ่อย่างหยอกเย้าเอาใจคนหน้าบึ้ง
“พอแล้ว แก้มซ้ำแล้วเนี่ย!” มือบางผลักใบหน้าหล่อให้ออกห่างจากพวกแก้มใสที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อราวกับลูกตำลึงสุก
“หายโกรธเฟิงยังครับ ถ้ายัง…คืนนี้จัดหนักถึงเช้าแน่”
“อย่า!” จินหมี่โวยวายเสียงดังพลางเอียงใบหน้าไปมา หลบใบหน้าคมคายที่โน้มเข้ามาหวังช่วงชิงเอาลมหายใจ “หะ…หายโกรธแล้วก็ได้!”
“ก็แค่เนี่ย”
“…” จินหมี่แยกเขี้ยวยิงฟันใส่สามีด้วยความหมั่นไส้และเจ็บใจในเวลาเดียวกันที่ไม่สามารถเอาชนะได้
“ของขวัญครบรอบของเราครับ”
จินหมี่เลื่อนสายตาไปมองกล่องไม้สี่เหลี่ยมทรงยาวขนาดไม่ใหญ่มากที่สามียื่นมาตรงหน้าครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือรับ “อะไร?”
“เปิดดูสิ”
จินหมี่ช้อนตาขึ้นสบตากับสามีแวบหนึ่ง แล้วเปิดกล่องไม้สี่เหลี่ยมในมือ “ว้าวว เฟิงไปเอาปิ่นของพี่หญิงในซีรีส์มาได้ยังไงอะ มีอันเดียวในโลกเลยนะนั่น”
“…” น้ำเสียงตื่นเต้นมีความสุขเอ่ยออก เมื่อสิ่งของในกล่องคือปิ่นไม้ธรรมดาขนาดยาว ที่เธอใฝ่ฝันอยากได้ หลังจากดูซีรีส์จีนเรื่องหนึ่งจบ เพราะชื่นชอบดาราสาวในเรื่อง เธอแสดงได้เป็นธรรมชาติและตลกโปกฮามาก
“มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเฟิงที่จะเอามาได้หนิ”
“ขอบคุณนะ” จินหมี่โผล่เข้าสวมกอดสามีด้วยความดีใจสุดขีด จนก้อนเนื้อข้างซ้ายเต้นโครมครามอย่างแรง เฟิงเอยกอดตอบพลางคลี่ยิ้มกว้างมีความสุขตามเมียรักไปด้วย
“…”
---------------------------