เมื่อสำรวจตัวเองเรียบร้อย อย่างน้อยซิปกางเกงไม่แตกแน่ ๆ ก็หายห่วง ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปหาแผ่นดินที่ยืนรออยู่ข้างนอก และพบว่าเขาก็สวมเสื้อค่ายเหมือนกัน อย่างกับชุดคู่รักแหนะ ถึงจะไม่ใช่ก็ขอมโนสักนิดเถอะ นาน ๆ ทีจะมีโมเมนต์เสื้อคู่ เสื้อคู่ที่ใส่เหมือนกันทั้งค่าย
“เสร็จแล้ว” ฉันรีบเดินเข้าไปหาแผ่นดินพร้อมส่งยิ้มกว้างให้เขา จนลืมไปว่าฉันควรจะเก็บอาการบ้าง
แผ่นดินจ้องฉันนานมาก นานจนคิดว่าฉันไม่ได้ใส่เสื้อผิดด้านใช่ไหม พอก้มดูก็ไม่เห็นความปกติอะไรนี่นา แล้วเขามองอะไร
เฮือก!
ฉันสะดุ้งเมื่ออยู่ ๆ แผ่นดินก็ถอดเสื้อคณะออกแล้วเอามาผูกไว้ที่เอวของฉันแทน เหตุการณ์เหมือนตอนซิปแตกไม่มีผิด! แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ซิปแตกนี่…
“อากาศเย็นแล้ว”
“อ่อ อืม…”
“ครั้งหน้าใส่ขายาวนะ”
“...”
“ถ้าไม่มีจะซื้อให้”
ทั้งที่เป็นประโยคเรียบ ๆ แต่ทำไมมันถึงได้ชวนใจเต้นขนาดนี้ล่ะ
ฉันจะทนไม่ไหวเอานะ
“ซื้ออะไร ถ้าเป็นขนมก็ยินดีนะ” ฉันแสร้งยิ้มทำเป็นไม่เข้าใจ ก่อนเฉไฉไปเรื่องอื่น
“หิวแล้วเหรอ”
“แบกชุดสิบกิโลรอพวกผู้ชายตั้งนาน ไม่หิวได้ไง”
“หึ”
“ขำอะไร ก็คนหิวจริง ๆ นี่นา” ฉันมองค้อน ก่อนจะออกเดินนำไปก่อน แต่อยู่ ๆ ก็โดนคว้ากระเป๋าจนเสียหลัก โชคดีที่หน้าไม่ทิ่มพื้น และโชคดีชั้นที่สองเมื่อฉันเซไปซบอกเขาพอดี “โทษที” ทำไมฉันต้องขอโทษด้วยเนี่ย ไม่ใช่คนผิดสักหน่อย ยายดาหลา แกจะยอมเขามากเกินไปไม่ได้นะ
ฉันเงยหน้าจากแผงอกแน่นของเขาช้า ๆ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ซบอก ถึงจะฟินแต่ก็น่าอายเพราะอยู่ในโรงอาหารเนี่ยแหละ ก่อนจะถอยออกอย่างอ้อยอิ่ง ถ้าได้เป็นแฟนกันจะกอดจนรวมร่างเลย ให้ตายสิ
“ขอโทษทำไม ฉันต่างหากที่ผิด”
“เอ่อ…” ฉันยิ้มแห้ง
โดนดุอีกแล้ว นายนี่ชอบดุจัง! แต่ถามว่าชอบไหม ชอบมากค่ะ อยากโดนดุไปจนวันตาย
“ไปกันเถอะ”
“แล้วนายไม่ไปช่วยประชาสัมพันธ์เหรอ”
“ไปมาแล้ว”
“ที่ไหน”
“หน้าม.”
“อ้อ”
ฉันไม่ถามอะไรต่อ ก็ได้แต่เดินตามเขาออกจากโรงอาหารไปแบบเงียบ ๆ
ในตลาดเสียงดังมาก ทั้งเสียงเพลง เสียงตะโกนของแม่ค้าพ่อค้า แม้กระทั่งเสียงคุยของผู้คนรอบข้าง ก็เพราะแข่งกับตะโกนนี่แหละ มันถึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่เสียงท้องร้องของฉันกลับดังยิ่งกว่าใครทั้งหมดอีก
โครกกกกกก!
หวังว่าคนข้าง ๆ จะไม่ได้ยินนะ
ฉันแอบชำเลืองมอง และสายตาที่มองมาของเขาก็ทำให้รู้ว่า เขาได้ยินแน่นอน…
“หิวมากเหรอ”
“ก็ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เที่ยงแล้วอ่ะ”
“อดข้าวทำไม มันไม่ดีต่อร่างกาย”
“เปล่าอดสักหน่อย ไม่มีเวลากินต่างหาก” ฉันค้อนเขาเบา ๆ
“ครั้งหน้าห้ามอดข้าวนะ”
“ทำไมข้อห้ามนายเยอะจัง”
“เพื่อสุขภาพที่ดี”
“จ้าาาาา”
เราสองคนเดินดูร้านขนมไปเรื่อย ๆ อันที่จริงมันก็ดูน่ากินไปหมดจนอยากซื้อไปฝากมิ่งขวัญกับน้องฟ้า สำหรับมิ่งขวัญฉันรู้ว่านางไม่ชอบขนมหวานเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นพวกขนมจีบซาลาเปาก็ดีอยู่ แต่ที่นี่จะมีขายเหรอ…
ฉันพยายามกวาดสายตามองหา ก่อนจะพบว่าร้านซาลาเปาอยู่สุดตรงหัวมุมถนนพอดี
“นี่ ฉันไปซื้อซาลาเปานะ”
“หืม ว่าอะไรนะ”
แผ่นดินมองฉันด้วยสายตาสงสัย สงสัยว่าพูดอะไร เขาไม่ได้ยินเหรอ อ้อ จะไม่ได้ยินก็ไม่แปลกหรอก ในเมื่อพวกเรายืนอยู่หน้าร้านขายลำโพง
ฉันกวักมือให้เขาโน้มตัวลงมา พอดีกับฉันที่เขย่งเท้าขึ้นไปกระซิบ
“ฉัน จะ ไป ซื้อ ซา ลา เปา”
“อ้อ โอเค”
ฉันพยักหน้าให้เขาช้า ๆ และเดินไปที่ร้านขายซาลาเปาทันที
“ซาลาเปานึ่งใหม่ ๆ น่ากิน ๆ จ้า”
ฉันกวาดมองซาลาเปาที่อยู่ในหม้อนึ่ง แถมยังมีติ่มซำอีกด้วย น่ากินทั้งนั้น
“น้องเอาซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็มหกลูก แล้วก็ขนมจีบสามสิบบาทค่ะ”
“กินหมดเหรอ” แผ่นดินก้มมาถามข้างหูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าการตีหน้านิ่งไม่ให้ออกอาการหวีดผู้ชายกลางตลาดนั้นยากกว่า
ฉันสะกดลมหายใจตัวเองให้นิ่งที่สุด และตอบแบบไม่หันไปมองหน้าเขา
“ไม่ได้ซื้อกินเอง ของยายมิ่งน่ะ”
“อ้อ เพื่อนเธอคนนั้น”
“อืม” ฉันพยักหน้า นายต้องจำให้แม่น ๆ ล่ะ เพราะยายนั่นจะเป็นคนรีดไถนายหน้าประตูเงินประตูทอง (เพ้อ)
ฉันจ่ายเงินให้แม่ค้าพร้อมกับรับกล่องซาลาเปาและขนมจีบมาทั้งหมดสองกล่อง ระหว่างเดินดูร้านอื่น ๆ ก็ยื่นกล่องขนมจีบให้แผ่นดิน
“ส่วนอันนี้ให้น้องฟ้า”
“อ้อ ขอบใจนะ”
จีบกันโต้ง ๆ ขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีก ซื่อบื้อไปนะ
“ให้น้องฟ้านะ” ฉันย้ำอีกครั้ง ก็ไม่ได้กลัวเขาจะกินเองหรอก แค่อยากย้ำให้มั่นใจ จริง ๆ คืออยากออกคำสั่งกับเขาบ้าง แต่ไม่กล้าพูดตรง ๆ
“ครับ ๆ จะส่งให้ถึงมือเลยครับ”
“ดีมาก” ฉันยิ้มกว้างด้วยความพอใจ สั่งได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว
“แล้วไม่มีของฉันเหรอ”
จะทวงกันแบบนี้ก็ได้เหรอ =_=
“ล้อเล่นน่ะ”
ฉันถอนหายใจเฮือก โดนเล่นแล้วไหมล่ะยายดาหลา ก็พอรู้ว่าเป็นผู้ชายกวน ๆ แต่ไม่คิดว่าจะกวนเก่งขนาดนี้
แสดงว่าเราเริ่มสนิทกันแล้วใช่ไหม
“ไปหาไรกินกันเถอะ เธอไม่หิวเหรอ”
“หิวสิ แต่โดนกวนซะเกือบหายหิวเลย” ฉันมองค้อน ส่วนเจ้าคนถูกค้อนก็หาได้สนใจ ยักไหล่แบบไม่ทุกข์ไม่ร้อน แถมยังส่งยิ้มกวน ๆ มาให้อีก
“บอกแล้วไงว่า”
“ห้ามอดข้าว! รับทราบแล้วค่า เข้าใจแล้วค่า”
กวนมากวนกลับ ไม่โกง เอาซี้
แต่ผลจากการไปกวนนั้นก็คือ
ป๊อก!
“โอย ดีดหน้าผากฉันทำไมเนี่ย”
“หมั่นไส้คนกวน”
“แต่นายกวนฉันก่อนนะ” ฉันประท้วง รอบนี้ดีดแรงด้วย น้ำตาแทบเล็ด “เจ็บนะ”
“แดงเลย”
“จริง?”
แผ่นดินก้มลงมาลูบหน้าผากฉันเบา ๆ
“จริง” ปากบอกจริง แต่หน้ากวนมาก ควรเชื่อดีไหมเนี่ย
ฉันผลักอกเขาออกเบา ๆ ทั้งค้อนทั้งงอน งอนไปงั้นแหละ สุดท้ายก็ต้องง้อตัวเองอยู่ดี
“ฮ่า ๆ ๆ”
ในขณะที่ฉันกำลังงอน แต่นายกลับหัวเราะเนี่ยนะ! แต่ถึงอย่างนั้น แค่ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ใจฉันก็เหลวเป็นน้ำแล้วอะ ยายคนใจง่ายเอ๊ย
“หิวแล้ว ไปกินขนมจีนกันมั้ย”
ที่ถามนี่ กำลังง้อฉันใช่ไหม ง้อด้วยขนมจีนเนี่ยนะ
โครกกกกกก
เออ! กินก็ได้!
“ฉันไม่กินน้ำยาป่านะ”
“น้ำยากะทิก็มี”
“นายเลี้ยง”
“อือ เลี้ยง”
“โอเค!”
ฉันมันคนใจง่ายจริง ๆ นั่นแหละ