ทางค่ายจิตอาสาได้นัดนักศึกษาที่ว่างจากการทำงานในวันพุธมาทำกิจกรรมรับบริจาคหนังสือและเงินทุนที่ตลาดนัดหอพักนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เรียกสั้น ๆ ก็หอในนั่นแหละ โดยที่นี่จะมีตลาดนัดทุกวันพุธที่ลานจอดรถใกล้ ๆ กับโรงอาหารกลาง ตลาดนัดที่ถูกทำให้เหมือนถนนคนเดิน เต็มไปด้วยร้านอาหารและสินค้าจุกจิกหลากหลายชนิด นอกจากนั้นก็จะมีพวกนักศึกษามาประชาสัมพันธ์โครงการอยู่บ่อย ๆ
วันนี้ก็เป็นคิวของค่ายจิตอาสาที่ฉันลงสมัคร เป็นค่ายที่ค่อนข้างจะแหวกแนวในการประชาสัมพันธ์มาก เรียกได้ว่าลงทุนถึงขั้นตัดชุดมาสคอตกันเลยทีเดียว จะเล่นใหญ่เกินไปแล้ว
ส่วนคนที่อยู่ในชุดมาสคอตหนักสิบกิโลจะใคร ก็ฉันเองไงล่ะ ดาหลาเองค่า!!!
และสาเหตุฉันที่ต้องใส่ชุดมาสคอต ก็เพราะความใจดีเกินไปของตัวเองยังไงล่ะ
ที่จริงแล้วฉันถูกจัดให้อยู่ในส่วนประชาสัมพันธ์โครงการคอยแจกใบปลิว ใช้หน้าสวย ๆ ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ แต่ว่าน้องที่ต้องใส่ชุดมาสคอตดันป่วยกะทันหัน กว่าพวกผู้ชายจะมาเปลี่ยนกะก็ตอนเย็นโน่น ฉันเลยอาสารับหน้าที่นี้แทน แม้ว่าน้องฟ้าจะทักท้วงเพราะความเป็นห่วงก็ตาม
ด้วยความที่อากาศข้างนอกมันเย็นมากอยู่แล้ว ฉันเลยคิดว่าใส่ชุดนี้ไปคงไม่ร้อนเท่าไหร่ แต่ฉันคิดผิด! ไม่ร้อนอะไรล่ะ เหงื่อออกยิ่งกว่าเข้าตู้อบไอน้ำซะอีก และด้วยความที่ทุกคนเปิดเพลงได้สนุกเกินไป ทำให้ฉันเผลอตัวเต้นออกลีลาประดุจน้องกล้วยกรุงศรีจนคนให้ความสนใจ เข้ามาบริจาคเงินกันเพียบ
แค่เห็นคนสนใจบริจาคเงินก็เกือบจะหายเหนื่อยแล้ว แต่ติดที่ว่าฉันมันขี้โรคมาตั้งแต่เกิด พอร่างกายร้อนมาก ๆ ก็เริ่มเสียการทรงตัว
ตุ้บ!
ฉันเดินเซถอยหลังเพราะเริ่มรู้สึกว่าชุดมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบจะล้ม แต่โชคดีที่มีใครบางคนดันหลังฉันเอาไว้ก่อน
“เป็นอะไรไหม ดาหลา”
เสียงนุ่ม ๆ แบบนี้!
แผ่นดิน!
เขามาแล้วเหรอ!
ฉันหันหัวตุ๊กตาเพื่อมองใบหน้าของเขาผ่านรูเล็ก ๆ
แต่ตอบไปเขาก็คงไม่ได้ยิน ฉันเลยส่ายหัวช้า ๆ ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง เพราะงานนี้ฉันก็อาสาเป็นเอง
อยู่ ๆ หัวตุ๊กตาก็ถูกยกขึ้นโดยไม่ได้เตรียมตัว ทุกอย่างดูช้าและอ้อยอิ่งเหมือนกำลังอยู่ในเอ็มวีเพลงรัก พร้อม ๆ กับใบหน้าของแผ่นดินที่ชัดขึ้นทีละนิด ส่วนฉันที่รู้สึกว่าเหงื่อท่วมหัวก็ยกมือปิดหน้าด้วยความอาย
“เหงื่อท่วมเลย”
เสียงของเขาที่ว่าอ่อนโยนแล้ว คำพูดและสายตาของเขากลับอ่อนโยนยิ่งกว่า และตอนนี้ทุกอย่างของเขาก็ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากชุดมาสคอตเลย น่าอายชะมัด
“ไม่เป็นไรหรอก” ฉันยิ้มแห้ง
เขาไม่ตอบอะไร ส่วนฉันก็ได้แต่มองเขาผ่านช่องว่างของนิ้วหนา ๆ ของตัวเอง ก่อนที่โลกจะหยุดหมุนเมื่ออยู่ ๆ เขาก็ซับเหงื่อบนใบหน้าให้ฉันด้วยกระดาษทิชชู่เบามือ มันทำให้ฉันเกือบจะลืมหายใจ…
“ครั้งหน้าห้ามทำอะไรเกินตัวอีกนะ”
“อืม”
นายกำลังเป็นห่วงฉันใช่ไหม
อยากถามออกไปแบบนี้จัง แต่ก็กลัวคำตอบของเขา ก็เลยต้องเก็บคำถามนั้นเอาไว้ในใจ
“เปลี่ยนชุดเถอะ ถ้าร่างกายร้อนมากเกินไป จะไม่ดีเอา”
“แต่ฉันใส่ชุดวอร์มมานะ” ฉันดึงคอเสื้อให้เขาดู เสื้อยืดสีขาวตัวบาง ๆ ที่เคยใส่ไปเมื่อวันอาทิตย์นั่นแหละ ปานนี้คงชุ่มเหงื่อไปหมดแล้ว ถ้าถอดชุดมาสคอตตอนนี้ เสื้อชั้นในสีแดงตัวโปรดของฉันต้องออกมาทักทายชาวโลกแน่ ๆ
แผ่นดินถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำเอาฉันหน้าเจื่อนไปนิด ก็ไม่คิดว่ามันจะร้อนจนเหงื่อชุ่มขนาดนี้นี่นา
“เดี๋ยวไปเอาเสื้อชมรมมาให้”
“ฉันจะรบกวนนายได้ยังไง”
“ถ้าเธอเป็นลมตอนนี้จะลำบากกว่าเดิมอีก”
“ฉันไม่ได้จะเป็นลมสักหน่อย”
“อย่าดื้อสิ” แผ่นดินดีดหน้าผากฉันเบา ๆ “ไปถอดชุดในห้องน้ำก่อน เดี๋ยวจะเอาเสื้อไปให้”
“อืม”
ฉันคลำหน้าผากตัวเองเบา ๆ ตามองตามแผ่นหลังกว้างของเขาที่ไกลออกไป
ดีดหน้าผากมันไม่เจ็บเลยสักนิด รู้สึกชอบด้วยซ้ำที่โดนเขาดุ แต่เขาทำแบบนี้กับฉันคนเดียวใช่ไหม ฉันไม่อยากคิดไปเองเลยอะ TT
เมื่อพวกผู้ชายมารับหน้าที่แทนแล้ว ฉันก็ได้เป็นอิสระสักที ก็เลยเดินหิ้วกระเป๋าไปถอดชุดมาสคอตที่ห้องน้ำของโรงอาหาร ตามคำสั่งของแผ่นดินแต่โดยดี ตอนใส่ก็ใส่ง่ายอยู่หรอก แต่ตอนถอดทำไมมันยากจังวะ! ต้องขอบคุณตัวเองที่เกิดมาแขนขายาวสินะ แม้ว่าซิปจะอยู่ข้างหลังก็ยังยื่นไปดึงได้เนี่ย
กว่าจะถอดเสร็จก็นานอยู่โข พอดีกับเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้น
[ฉันอยู่หน้าห้องน้ำ]
“โอเค ๆ” ฉันกดวางสายและเดินไปที่ประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่ พอค่อย ๆ แง้มประตูออก ก็เจอกับเสื้อที่ถูกยื่นมาให้ทันที
ฉันหยิบเสื้อจากมือเขา ก่อนจะสังเกตเห็นว่ามือของเขาแดงมาก
“ขอบใจนะ”
“อืม”
ฉันยื่นชุดมาสคอตคืนให้เขา
“รอฉันแป๊บนึงนะ”
“อืม” ฉันตอบ พร้อมรีบปิดประตูและวิ่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ
เสื้อของค่ายจิตอาสาเป็นเสื้อแจกฟรีหนึ่งตัวสำหรับผู้ร่วมกิจกรรม อยากได้เพิ่มก็ต้องซื้อ ฉันก็เพิ่งรับไปเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่ได้ซักเลย แต่ว่าถ้าเขาเอามาให้ฉันแบบนี้ก็แสดงว่าต้องซื้อเพิ่มน่ะสิ อีกอย่างนี่เป็นเสื้อไซส์ผู้ชายตัวใหญ่มาก คงไม่ใช่เสื้อของเขาใช่ไหม
ฉันรีบเปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงยีนขาสั้น เอาเสื้อค่ายยัดเข้าในกางเกง และเก็บกางเกงวอร์มกับเสื้อยืดเปื้อนเหงื่อเข้ากระเป๋าสะพายหลัง คือสาบานได้ว่าไม่ได้ตั้งใจมาเดินตลาดเลยสักนิด