Chapter 4 เมียที่ไม่มีตัวตน (1)
เสียงสะอื้นอย่างไร้ซึ่งหนทางหลบหนีดังขึ้น หากแต่ว่าไม่อาจหยุดความต้องการที่ปะทุขึ้นมาของคนบนร่างได้ ข้อมือเล็กถูกกดตรึงเอาไว้หลังจากที่ปลายนิ้วแกร่งเกี่ยวรั้งซับในตัวเล็กออกไปจากเรียวขาขาว ความหวาดกลัวมาเยือนมากขึ้นเมื่อมีบางอย่างดุนดันอยู่ที่กลางกาย ความแกร่งที่เสียดสียั่วเย้าก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ แบบไม่เคยพานพบมันมาก่อน...ความกระสันรัญจวนแทรกซึมเข้ามาก่อกวนใจที่ต่อต้าน หลอกล่อให้ระเริงล่องลอยจนความรู้สึกส่วนลึกสับสนหลงทาง...เขาอาศัยจังหวะนั้นสอดแทรกความแข็งขึงเข้าสู่เส้นทางรักนุ่มหยุ่นอุ่นซ่านคับแน่น ออกแรงขยับรุกล้ำแทรกลึกจนสุดปลายทาง
"อื๊อ...พี่แทน...เจ็บ..."
"ใบบัวจ๋า...อืม..."
ความรู้สึกแรกที่แวบเข้ามาในสติสัมปชัญญะที่ไม่เต็มร้อย ทำไมมันช่างบีบรัดและคับแน่น...หรือเพราะรสสัมผัสแบบนี้เขาห่างหายมานาน...ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่คุ้นในรสสัมผัสสะกิดใจให้หยุดคิด มันมาพร้อมเสียงร้องและผลักไสราวเจ็บปวด หากแต่ว่าทุกอย่างมาไกลเกินจะถอยหลัง ความทะยานอยากตามสัญชาตญาณดิบร้องสั่งให้สะโพกแกร่งออกแรงโยกขยับอย่างบ้าคลั่ง ความสุขล้ำที่คนใต้ร่างมอบให้ทำให้ใจพยายามหลอกตัวเองว่าหล่อนไม่ใช่น้องเมียที่เคยผลักไส...แม้เขาจะคิดว่ามันใช่ก็ตาม
แรงเสียดสีลึกซึ้งผสานแรงโยกขยับหน่วงหนักทำให้วาดจันทร์กัดริมฝีปากจนเจ็บชา หล่อนนอนนิ่งเมื่อหมดแรงหมดหนทางที่จะขัดขืน แวบหนึ่งที่ปรือตามอง เห็นเพียงแต่ร่างกำยำกำลังออกแรงขยับโยกกระแทกกระทั้นอยู่บนร่างเปลือยเปล่าของตนอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงครางกระเส่าดังทุ้มอยู่ในลำคอแกร่งอย่างต่อเนื่อง ผสานเสียงลมหายใจหอบถี่ดังหลอกหลอนอยู่ในสมองที่อื้ออึง
หล่อนไม่อยากให้เสียงร้องจากสัมผัสเสียวกระสันรอดผ่านเรียวปากอิ่ม ใจของหล่อนพยายามต่อต้านและผลักไสว่านี่ไม่ใช่การสมยอม เขาบังคับขืนใจจนต้องตกเป็นของเขาอย่างไม่เต็มใจ...ทว่า...ท่ามกลางการต่อต้านและผลักไส กายของหล่อนกลับทรยศยอมให้เขาล่วงล้ำและตักตวงความสุขอย่างไม่ลืมหูลืมตา...หญิงสาวหลับตานิ่งทบทวนตัวเอง หรือนี่มันคือความรักและความพึงพอใจกายจึงนอนเฉยเลิกต่อต้าน...ความรักที่มีให้เขานั้นคือดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
เสียงครางกระเส่าถี่กระชั้นราวเคี้ยวพริกแสนเผ็ดร้อนเล็ดลอดผ่านริมฝีปากได้รูป มาพร้อมกับจังหวะรักที่หน่วงหนักจนสองมือเล็กต้องผวาเกาะท่อนแขนแข็งแรงของเขาจนแน่น ในช่วงวินาทีที่เขากำลังโจนทะยานขึ้นสู่ฝั่งฝันที่อยู่ไม่ไกล ความอุ่นซ่านที่ฝากฝังไว้ในเส้นทางรักชุ่มฉ่ำคับแน่น คล้ายหูของหล่อนจะได้ยินเสียงพร่ำเพ้อละเมอถึงชื่อตนดังลอยวนอยู่เหนือใบหน้า...มันชัดเจนในการรับรู้ว่าเขาหมายถึงตน หาใช่คนที่ชื่อปานจันทร์...
+++++
วาดจันทร์นอนนิ่งมองเข็มนาฬิกาเดินวนไปเวียนมาตั้งแต่ตีสี่กว่าๆ...เวลายังคงเดินไปข้างหน้าไม่หยุดนิ่ง มันทำหน้าที่ของตนอย่างซื่อสัตย์เสมอ สวนทางกับชีวิตของหล่อนในยามนี้ที่ไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะก้าวเดินไปตามการผ่านผันของวันเวลา
สัมพันธ์รักลึกซึ้งแสนร้อนเร่ายังคงกรุ่นอยู่ในความทรงจำราวเพิ่งผ่านผัน มันทำให้หล่อนข่มตานอนไม่หลับนับตั้งแต่ผลุนผลันหนีเขามาหลังพายุสวาทผ่านพ้น...ไม่สนใจว่าเขาจะนอนตรงไหน ขึ้นห้องได้อย่างไรหรือนอนหลับหรือไม่...แต่...การกระทำที่เหยียบย่ำให้ต้องเจ็บปวดจนน้ำตารินไหลไม่ขาดสาย นั่นคือเขาไม่ตามมาดูดำดูดีกันอีกเลยนับตั้งแต่ปิดประตูขังตัวเองเอาไว้เพียงลำพัง
เสียงร้องด้วยได้เวลาที่สองฝาแฝดชอบตื่นมาร้องโยเยดังแว่วมาจากห้องนั้น ร่างเล็กสะอื้นหนักเมื่อเสียงนั้นราวคมมีดกรีดลงกลางใจจนปวดแปลบ เมื่อทนฟังต่อไปไม่ไหวสองมือจึงดึงรั้งผ่าห่มมาคลุมโปงแล้วอุดหูเอาไว้ไม่ให้ได้ยิน...หากเป็นสถานการณ์ปกติหล่อนคงผลุนผลันแจ้นออกไปดู แต่ในวันนี้หล่อนไม่รู้จะเอาหน้าที่ไหนไปพานพบพ่อเด็กโดยที่ต้องทำเหมือนคนไม่รู้สึกรู้สาอะไร หล่อนทำไม่ได้หากจะต้องทนมองหน้าเขาแล้วทำเหมือนคนไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน
++++++
แสงแดดอุ่นๆ สาดส่องลอดม่านสีขาวสะอาดเข้ามาทักทายร่างที่นอนจมอยู่บนเตียงกว้าง มันแยงตาจนเข้าไปรบกวนถึงห้วงฝันที่กำลังดำดิ่งลึก ในความสะลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งตื่นหูของเขาได้ยินเสียงพูดคุยหยอกล้อดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทที่มึนงง...ชายหนุ่มกระพริบตาถี่ๆ ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะยกขึ้นมาป้องหน้าเอาไว้ เขาต้องเบือนหน้าหนีเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ารอบกายนั้นขาวโพลนจากแสงด้านนอกที่สาดส่องเข้ามา
"คุณพ่อตื่นแล้ว ปล่อยให้หนูร้องอยู่ได้ตั้งนาน งอนแล้วเนอะ"
เสียงพูดคุยกับร่างในอ้อมกอดขณะพาเดินเล่นวนเวียนไปทั่วห้อง...ตะวันวาดสะบัดศีรษะไล่ความมึนงง เขายันกายลุกนั่งแล้วนึกอยู่นานว่าแม่บ้านมาตั้งแต่ตอนไหน...คล้ายอีกฝ่ายรู้ว่านายจะถามอะไรจึงชิงเฉลยออกมา
"ป้าได้ยินเสียงร้องตอนเช้ามืด เห็นนานจนผิดสังเกตก็เลยมาดู เห็นคุณไม่ตื่นก็เลยไม่อยากปลุกค่ะ"
แล้ววาดจันทร์ไปไหน...นั่นคือสิ่งที่คิดในใจแต่ไม่ได้ถามออกมา ความทรงจำที่ลางเรือนกึ่งตื่นกึ่งฝันทำให้เขานั่งนิ่งทบทวนถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
"หนูร้องอยู่ตั้งนาน น้าใบตองก็ไม่มาดูเลย สงสัยจะเบื่อหนูแล้วแน่ๆ"
พิกุลยังคงคุยเล่นหยอกล้อกับหนูน้อยไปตามประสา คุยกับคนน้องสลับคนพี่มาตั้งแต่เช้ามืด จวบจนเวลานี้แกยังไม่ได้งานได้การที่เป็นชิ้นเป็นอัน
"เมื่อคืนคุณดื่มอีกแล้วใช่มั้ยคะ"
คนฟังสะดุ้งเล็กน้อยแววตาหลุกหลิกไม่กล้าสบตาคนพูด ทั้งที่คนถามนั้นไม่ได้คิดอะไร ความทรงจำบางอย่างที่ยังพอนึกได้ ทำให้
เขาถึงกับปัดผ้าห่มออกจากตัวแล้วผลุนผลันลงจากเตียง