Chapter 6 โซ่สวาท (3)
"คุณไปดูลูกเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าจะดูแลเธอเอง"
ตะวันวาดยืนกอดอกพิงหน้าต่างข้างเตียง เฝ้ามองแม่บ้านที่กำลังเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนเป็นลมที่เขาเป็นคนอุ้มขึ้นมาส่งถึงที่นอน มาถึงแล้วไม่รู้จะทำเช่นไรเพราะไม่เคย พิกุลจึงมารับช่วงต่อจากนายของตน ช่วยหายาดมและนั่งพัดวีด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
พิกุลปรายตามองเจ้านายที่ยังไม่ยอมออกไปเสียที หล่อนเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานก็กลับออกมาพร้อมผ้าผืนเล็กแช่น้ำในกะละมัง กดดันเป็นนัยๆ ให้อีกฝ่ายออกไปเพราะหล่อนจะเช็ดตัวให้คนเป็นลม
"ป้าจะเช็ดตัวให้เธอ คุณแทนไปดูลูกเถอะค่ะ"
พิกุลจำได้ว่าบอกเป็นครั้งที่สอง แต่เสียงของหล่อนเหมือนถูกกลืนหายไปในอากาศ เพราะเขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเหมือนไม่ได้ยิน
"พรุ่งนี้ป้าก็บอกเธอละกันว่าไม่ต้องช่วยทำอะไรสักวัน เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไปอีก"
"สงสัยคุณใบตองจะไม่สบาย วันนี้ก็ลางานมาครึ่งวันค่ะ"
"....."
ตะวันวาดนิ่งงัน เขานึกตำหนิปานจันทร์ที่รู้ว่าน้องสาวไม่สบายแต่ก็ยังทิ้งลูกไว้ให้เลี้ยงจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับ แม้จะแคร์เธอมากเพียงใดแต่ความอดทนของคนเรานั้นมีขีดจำกัด เขาไม่รู้เลยว่าฟางเส้นสุดท้ายที่พยายามประคับประคองนั้นจะขาดลงวันใด
เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าปานจันทร์ยังไม่กลับมา เพียงเหลือบดูเวลาแล้วจึงฉุกใจคิดว่าเขาทิ้งลูกไว้ในห้องเพียงลำพัง
"ฝากด้วยนะป้ากุล ผมไปอยู่เป็นเพื่อนลูกก่อน เดี๋ยวงอแงหิวนมอีกล่ะแย่เลย คนปลอบก็เป็นลมไปแล้วเสียด้วยสิ"
'เฮ้อ เขาว่าล่ะนะ มีผัวดีแสนดีแต่ไม่รู้จักพอ สักวันถ้าเขาเบื่อขึ้นมาจะทำยังไง หาเรื่องแท้ๆ คุณใบบัว’
พิกุลมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินผ่านหน้าตนไป เสียงถอดถอนใจดังแผ่วเมื่อคิดไปถึงอนาคตของสองแฝด หล่อนกลัวว่าสักวันมันต้องมาถึง วันที่พ่อและแม่แยกทางกันเมื่อมาถึงทางตัน และต่างฝ่ายต่างหมดรักที่เคยมี…
"แทน...ทำไมคะ..."
ปานจันทร์ชะงักนิ่งงัน ความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าด้วยอะไรสักอย่างจนรู้สึกชาดิก เมื่อในวันนี้สามีตนปฏิเสธที่จะมีสัมพันธ์รักลึกซึ้ง เขาบอกเป็นนัยๆ ด้วยการขยับกายหนี พร้อมแกะมือซุกซนที่รุกรานอยู่ตามแผงอกกว้างให้ออกไปพ้นตัว
"ผมเหนื่อย อยากพักผ่อน"
เขาไม่ใยดีคนที่นั่งงงอยู่กลางเตียง พลิกกายตะแคงหันหลังหนีทำทีว่าหลับ ขัดกับใจที่ฟุ้งซ่านด้วยความคิดสับสนวกวน ระหว่างเป็นห่วงคนที่นอนอยู่ห้องข้างๆ กับหึงหวงภรรยาว่าไปทำอะไรกับใครมานั้น เขากำลังชั่งใจว่าอะไรที่ทำให้ฟุ้งซ่านมากกว่ากัน
"แทนขา...ใบบัวขอโทษที่กลับดึก บอกแล้วไงคะว่าแวะไปหาแม่มา นานๆ เจอกันก็เลยติดลมไปหน่อย ไม่โกรธนะคะ นะๆ"
เจ้าหล่อนออดอ้อนขยับกายเข้าไปใกล้ จงใจแนบชิดบดเบียดอยู่ด้านหลังแล้วสอดแขนไปสวมกอดกายแกร่งเอาไว้เพื่อง้องอน
"แทน...จะไม่พูดด้วยจริงๆ เหรอคะ"
"อย่ากวนได้มั้ยใบบัว ผมจะนอน"
"ไปอ่อนเปลี้ยเพลียแรงมาจากไหนคะ อย่าให้จับได้นะว่าแอบมีเมียน้อย ใบบัวจะเลิกกับคุณให้ดู จะไม่มีการแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น"
หล่อนขู่ฟ่อ คนฟังนึกรำคาญที่ถูกหาเรื่องทั้งที่ตัวเองก็เพิ่งกลับมา
"ผมออกไปทำงานนะใบบัว ไม่ได้นั่งเล่นเฉยๆ คุณก็น่าจะรู้ว่าผมทำงานหนักขึ้นก็เพราะอะไร"
ปานจันทร์นิ่งเงียบกับน้ำเสียงของเขาที่ฟังดูหงุดหงิด รู้แค่ว่า
นอกจากเขาต้องประคับประคองบริษัทไม่ให้ล้ม เขายังกลับไปรับงานวิศวกรที่ต้องใช้ทั้งสมองและเวลาส่วนใหญ่ไปกับโปรเจกต์...ความจริงที่ทำให้หล่อนไม่พอใจตอนนี้คือเขาลดเงินเดือนลงเกือบครึ่งจากที่เคยให้ตนใช้จ่ายสบายมือ เขาไม่พาหล่อนไปเที่ยวนอกบ้านนานมากแล้ว ไม่เคยหาเวลาพาไปสวีทหวานเหมือนเช่นคู่รักทั่วไปที่มักถ่ายรูปมาอวดกัน หล่อนอยากมีโมเม้นท์นั้นแต่เขากลับทำแต่งาน
หญิงสาวถอยห่างมายังพื้นที่ของตนเมื่อเขานิ่งไปไม่ไหวติง คืนนี้สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม ระยะห่างแค่หมอนข้างกั้น แม้ไม่มีหมอนมากั้นกลาง แต่ความรู้สึกแลดูไกลห่างคล้ายมีกำแพงมากั้นใจเขาให้ออกห่างจากตน
เป็นเวลาดึกสงัดที่ตะวันวาดยังไม่ยอมหลับ ชายหนุ่มนอนก่ายหน้าผากสลับกับกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงมานานมากแล้ว เหลือบมองคนข้างกายเห็นหล่อนกำลังดำดิ่งสู่ห้วงฝัน เขาเดาเอาจากลมหายใจที่สม่ำเสมอของเจ้าตัว
'ป้ากุลจะเอาอยู่มั้ยนะ’
ชายหนุ่มพลิกกายนอนตะแคงแล้วโน้มใบหน้าเข้าไปหาภรรยาตน หล่อนยังคงไม่ตื่นจากห้วงฝันเขาจึงยันกายลุกนั่งอย่างระวัง ผ้าห่มผืนหนาถูกปัดออกจากร่างแล้วลุกเดินไปที่ประตู เขาต้องแง้มมันเบาๆ เพราะกลัวคนที่อยู่บนเตียงจะรู้สึกตัว...