Chapter 7
บ่วงพันธกานต์ (1)
"ฟู่..."
เสียงพ่นลมหายใจที่มาจากความโล่งอกหากแต่ทว่ากลับก่อให้เกิดความสับสนอยู่ในที ตะวันวาดยืนนิ่งอยู่หน้าห้องท่ามกลางความมืดสลัวและเงียบสงัด มันเงียบเสียจนได้ยินเสียงใจที่เต้นแรงเพราะความหวาดระแวง เขาหลอกใครต่อใครได้แต่หลอกตัวเองไม่ได้ว่ากำลังคิดคดทรยศครอบครัวด้วยการไม่หักห้ามหัวใจตัว เพียงแค่ก้าวเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าห้องต้องห้าม ทำตามสัญชาตญาณมืดที่ผลักดันร้องสั่ง ผลักบานประตูเข้าไปข้างในเขาก็จะข้ามผ่านเส้นศีลธรรมที่ขวางกั้น กระโจนเข้าไปเล่นกับไฟที่แม้จะรู้ว่าร้อนแต่ก็อยากลอง
'ถ้าใบบัวรู้ว่าคุณแอบซุกเมียน้อย ใบบัวจะหย่ากับคุณโดยไม่ลังเล’
เสียงนั้นก้องอยู่ในหัวชั่ววินาทีที่กำลังแตะลูกบิดประตูแบบผลัก มือแกร่งชะงักนิ่งงันราวชั่งใจคิดถึงความถูกผิดและศีลธรรม เขาพยายามบอกตัวเองว่ายังรักภรรยาและไม่ได้อยากหย่ากับเธอ แม่ของลูกนั้นมีได้เพียงหนึ่งถึงแม้เธอจะดีจะชั่วก็ตาม...แต่...เขาไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันทำไมถึงทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่พยายามร้องบอกหัวใจตัวว่า ในสี่ห้องหัวใจนั้นยังไม่มีใครมาแทรกแซง
ลูกบิดแบบผลักหากไม่ได้ล็อคแค่แตะเบาๆ บานประตูก็แง้มออก ชายหนุ่มลองสัมผัสดูจึงรู้ว่ามันล็อค เขายืนนิ่งลังเลอยู่นานหน้าบานประตูที่ปิดสนิท ในที่สุดความความต้องการของใจก็ชนะอยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง เขาแค่เป็นห่วงขอเข้าไปดูให้รู้ว่าเธอไม่เป็นอะไร แค่ไม่อยากให้ใครมาตายในบ้านเท่านั้น นั่นคือข้ออ้างที่ยกมาเข้าข้างการกระทำของตัว
จู่ๆ เสียงร้องไห้จ้าก็ดังแทรกขัดจังหวะที่กำลังจะเคาะประตู ราวรู้ว่าคุณพ่อของตนกำลังออกนอกลู่นอกทาง ชายหนุ่มข่มใจถอยหลังหันกลับ เพราะเสียงนั้นไม่มีทีท่าว่าจะเงียบลงง่ายๆ เลย
เขาผลุนผลันเข้าไปก็เห็นปานจันทร์ยังคงนอนนิ่ง แม้เสียงร้องหิวนมจะดังปลุกแต่หล่อนก็ยังนอนจมอยู่ในห้วงนิทรา ไม่คิดจะตื่นขึ้นมาตามสัญชาตญาณของคนเป็นแม่ ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่แม่ของลูกอย่างที่ควรจะเป็น
"มาแล้วครับ มาแล้ว"
หน้าที่นี้มันกลายเป็นของเขาไปเสียแล้ว ชายหนุ่มอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมาไว้แนบอกแล้วเดินไปหย่อนกายนั่งลงบนเตียง เสียงร้องเงียบหายเมื่อได้ดูดนมที่มาจากขวดในมือคุณพ่อแทนไออุ่นจากอ้อมอกมารดา ด้วยความไร้เดียงสาเพียงแค่ได้รับไออุ่นที่ตระคองกอดและขับกล่อมด้วยความรักแสนบริสุทธิ์ เพียงไม่นานนักปากที่ดูดจุกนมจนแน่นก็คลายออก ร่างน้อยๆ นอนนิ่งหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดที่ทั้งอบอุ่นปลอดภัย...
"เอาแอปเปิ้ลใส่กล่องไปทานนะคะ เดี๋ยวป้าหั่นให้"
"ไม่ทันแล้วค่ะป้ากุล เลยเวลาแล้ว"
"ทันค่ะ ป้ารีบอยู่เนี่ย"
วาดจันทร์หยิบกล่องข้าวใส่กระเป๋าหิ้วอย่างเร่งรีบ หล่อนมองดูนาฬิกาสลับกับจัดเตรียมมื้อกลางวันไปพร้อมกัน นึกโทษตัวเองที่วันนี้ตื่นช้าไปนิดทำให้ต้องลุกลี้ลุกลนออกจากบ้านชนิดเตรียมอะไรแทบไม่ทัน
พิกุลจัดการหยิบแอปเปิ้ลที่ล้างน้ำเกลือแล้วใส่กล่องอย่างลวกๆ ปิดฝาแล้วยัดมาใส่กระเป๋าของวาดจันทร์แบบที่ทันเวลาพอดิบพอดี หล่อนเห็นฝ่ายนั้นเร่งรีบผลุนผลัน อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้อยากให้หยุดงานต่ออีกวัน
"แน่ใจนะคะว่าไปไหว ไม่ใช่ไปเป็นลมที่ทำงานนะคะคุณใบตอง"
"ไหวค่ะ ใบตองไม่อยากขาดงานบ่อยเดี๋ยวประวัติไม่ดี ไปก่อนนะคะป้าเดี๋ยวไม่ทัน"
"โทรบอกวินให้มารอหรือยังคะ"
"โทรแล้วค่ะ"
วาดจันทร์หอบหิ้วสัมภาระผลุนผลันออกจากครัว ชั่ววินาทีนั้นจึงหันหลังกลับไปชนกับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังอย่างไม่ทันระวังตัว
"พี่แทน..."
"อ้าว คุณแทน วันนี้จะไปแต่เช้าเหรอคะ ทุกทีคุณยังไม่ลงมา"
ที่พิกุลถามเพราะเห็นเจ้านายแต่งตัวพร้อมออกไปทำงาน ปกติเขาจะออกจากบ้านทีหลังวาดจันทร์ วันนี้มาแปลกที่ตื่นมาเวลาเดียวกัน
เขาไม่สนใจคำถามของแม่บ้านเลยสักนิด ทำทีเป็นดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ "จะไปแล้วเหรอ"
"ค่ะ"
"ไปกับฉันไหม"
เขาเอ่ยชวนเสียดื้อๆ ไม่วายปรายตามองไปทางพิกุลที่ทำแววตาสนใจใคร่รู้ เขาคิดเอาเองว่าแค่การชวนน้องเมียนั่งรถไปทำงานด้วยกัน คงไม่ทำให้พิกุลคิดไปไกลว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล
"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ ใบตองเกรงใจ"
การที่หล่อนปฏิเสธ เขาจึงหาเรื่องไล่มองตั้งแต่บนลงล่างแล้วทำหน้าคล้ายไม่ชอบใจเรื่องกระโปรงเจ้าปัญหา...ดูเหมือนว่าหล่อนจะไม่ฟังที่เขาเคยเตือนเลยสักนิดเดียว
“เธอนุ่งสั้นนั่งวินไปหน้าปากซอยแบบนี้ทุกวันๆ ไม่กลัวใครมันจะมองบ้างหรือไง ไปกับฉันแหละดีแล้ว อย่างน้อยก็ทุ่นค่าวินไปหนึ่งวัน"
"ทำไมวันนี้พี่แทนไปเร็วจังคะ"
"เร็วเหรอ ก็...ปกตินะ เธอสายเองหรือเปล่าใบตอง"
เขาแสร้งตีมึน ความจริงแล้วมันก็เร็วกว่าทุกวันเหมือนที่ทุกคนบอก...แต่เปล่า เขาไม่ได้จะแวะไปไหนหรือมีวาระพิเศษอะไร แค่จู่ๆ ก็นึกอยากไปทำงานให้เช้ากว่าเดิมอีกนิดนึงแค่นั้นเอง
"ไม่ทานข้าวก่อนเหรอคะคุณแทน"
พิกุลร้องเรียกเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินตามน้องเมียออกไปโดยยังไม่ได้ทานอะไรลงท้อง ผิดจากทุกวันที่หล่อนต้องเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนเขาออกไปทำงาน
"เดี๋ยวผมไปหาทานเอาข้างหน้า บอกใบบัวด้วยนะว่าผมไปทำงานเร็วหน่อย"
เขาชินเสียแล้วที่ออกจากบ้านโดยที่ภรรยายังคงนอนหลับสบายอยู่บนเตียง การที่หล่อนไม่รู้ว่าเขาออกไปตอนไหน วันๆ ไปทำอะไรที่ไหนอย่างไรจึงไม่ใช่เรื่องแปลก และในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน การที่เขาออกจากบ้านไปพร้อมๆ กับวาดจันทร์ หากแม่บ้านไม่เอาไปพูดปานจันทร์ก็จะไม่มีวันรู้และระแคะระคายถึงบางอย่างที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป