เรื่อง อุ้มรักพราวตะวัน
ตอนที่ 5 แม่หมอทัก
ฉันเคยได้ยินคนเขาพูดมา บางคนที่อายุเข้าวัยเบญจเพสจะโชคดีบ้าง บุญหล่นทับบ้าง แต่ทำไมอายุเบญจเพสของฉันมันถึงโคตรจะซวยเลย ถูกแฟนทิ้งไม่พอ เป็นยังโรคประหลาด 1 ใน 10 ล้านอีก แล้วที่หนักสุดสำหรับชีวิตฉันคือเผลอไปมี one night stand กับผู้ชายข้างห้อง ที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะชั่วข้ามคืนกับใคร แต่มันดันมาพลาดเอาตอนนี้ อะไรมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้ไม่รู้ ฉันต้องทำบุญล้างซวยกี่วัดถึงจะดีขึ้น...
“ เออ ค่อยเป็นผู้เป็นคนหน่อย ”
ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปทำงาน ย้งยี่มาหาฉันตั้งแต่ฟ้ายังไม่รุ่งสาง มาอยู่เป็นเพื่อนกลัวฉันเครียด และก็เพื่อมากดดันสภาพสะระร่างของฉันว่าหายจากการเป็นผีตายซากหรือยัง
“ เนื้อในกูมันคนสวยอยู่แล้ว เติมนิดเติมหน่อยมันก็สวย ”
“ อีห่า อย่าให้กูพูด ”
ฉันกับย้งยี่พูดกันใครมาได้ยินก็จะหาว่ารุนแรง แต่เปล่าเลยด้วยความที่สนิทสนมและรู้ใจกันทุกอย่างทำให้เราสองคนสนิทกันมาก มากซะจนแทบจะไม่เหลือความเคารพซึ่งกันและกันแล้ว ฉันกับมันเลิกคบกันไม่ได้ มันรู้เรื่องของฉันมากเกินไป ฉันทิ้งมันไม่ได้เลย…
“ สีหน้ามึงสดใสขึ้นแล้วนะ ”
ความรู้สึกที่อกหักก็ยังมีความเสียใจหลงเหลืออยู่บ้าง แต่มันมีเรื่องที่ให้ฉันคิดมากกว่านั่งร้องไห้น่ะสิ
“ ไปเถอะ ไปเครียดที่ทำงานกันต่อ ”
ฉันกับย้งยี่พากันออกจากห้องแต่ก็มันบังเอิญของบังเอิญอีกแล้วที่เจอผู้ชายข้างห้อง ออกจากห้องมาพอดีเขามองฉันกับย้งยี่ก่อนจะหันมายิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน
“ รู้จักเหรอวะ ”
ย้งยี่มันก็คงอดสงสัยไม่ได้กระซิบถามฉันแต่ฉันส่ายหัวเป็นกิ้งก่าเลย แล้วรีบจับมือย้งยี่ออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ก่อนที่ไอ้ผู้ชายข้างห้องมันจะเผลอพูดอะไรออกมา
“ ผู้ชายคนนั้นเขาก็เหมือนรู้จักมึงเลยว่ะ ”
“ บ้า รู้จักที่ไหนไม่รู้จักเลย ”
“ แต่ท่าทางเขาดูแปลกๆ ” ด้วยประสบการณ์ที่จับผิดกิ๊กผัวบ่อย มีวิชาช่างสังเกตมาก
“ มึงก็คิดมากไปได้ กูเพิ่งมาอยู่จะรู้จักใครได้วะ ”
ฉันก็ตีเนียนให้ได้มากที่สุดเบี่ยงเบนประเด็นที่จะคุยกับมัน ให้มันคิดว่าฉันหน้าตาดีแล้วมีผู้ชายแอบมองก็แค่นั้นเลย
@บริษัทเอฟวีทริป จำกัด
ฉันเป็นสาวออฟฟิศตั้งแต่เรียนจบ เด็กต่างจังหวัดอย่างฉันได้มาทำงานที่บริษัทค่อนข้างจะใหญ่โตขนาดนี้ถือว่าบุญหล่นทับแล้ว บริษัทที่นี่มีทั้งพนักงานดีและชอบนินทา แต่แผนกของฉันได้บอสดีและเพื่อนร่วมงานที่ดี ทำให้ฉันกับย้งยี่ทำงานที่นี่มาหลายปีแล้ว
ฉันทำงานฝ่ายการตลาดมีบ่อยครั้งที่ฉันต้องออกไปพบลูกค้า ออกไปดูงานต่างจังหวัด งานของฉันต้องวิ่งอยู่บ่อยครั้ง ไม่ค่อยได้อยู่ประจำที่บริษัทสักเท่าไหร่ เรื่องงานบอกเลยฉันไม่เครียด แต่เรื่องชีวิตโคตรจะเครียดเลย…
“ ไม่ต้องเสียใจไปนะอีพราวเพื่อนรัก กูจะหาพ่อของลูกให้มึงเอง ”
ฉันนั่งกินกาแฟอยู่ดีๆก็มีคำปลอบประโลมของเพื่อนรักลอยเข้ามา มันกอดคอคุยกับฉันอย่างสนิทมาก
“ กูเลิกคบมึงได้ไหม? ”
“ ไม่ได้ค่ะเพื่อน ถ้ามึงเลิกคบกูไม่มีใครคบมึงแล้วนะ ยังกันอยู่แค่นี้เลิกคบกันไม่ได้ ต้องพากันไปตายเท่านั้น ”
“ เออ กูรักมึงก็ได้ ”
จ๊วมม~~
“ มันต้องอย่างนี้สิเพื่อน เดี๋ยวเพื่อนย้งยี่จะพาไปดูผู้ชายที่บาร์โฮส มึงจะได้เล็งพ่อของลูกไว้ ”
มีเพื่อนดีก็พากันไปในทางที่ดี แต่ละอย่างที่มันจัดสรรให้ฉันดีๆทั้งนั้น ดีจนปลื้มปริ่มจนน้ำตาไหล
“ ดูอะไรอยู่วะ ”
เลิกงานแล้วแต่ย้งยี่มันยังวุ่นวายกับ iPad จนแทบจะไม่ได้คุยกับฉัน
“ กูกำลังหาข้อมูลเด็กบาร์โฮสให้มึงอยู่ กูต้องคัดสรรเลือกที่ดีที่สุดเพื่อให้เพื่อนรักของกู ”
ฉันอยากจะบอกมัน ว่าไม่ต้องรักฉันมากก็ได้
“ นี่ผัวกูบอกจะเหมาเด็กให้มึงเลยนะ ”
นี่พี่ตองผัวรุ่นพี่ของมันก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอ ย้งยี่มันเอาอะไรไปใส่หัวผัว
“ มึงต้องตื่นตัวนะอีพราวกูกับผัวพยายามเพื่อมึงมากเลยนะ ”
“ มึงกับพี่ตองไม่ต้องทำเพื่อกูขนาดนี้ก็ได้ กูเกรงใจ ” เกรงใจจนน้ำตาจะไหลแล้วนะ
“ ไม่ต้องเกรงใจเลยเพื่อน เพื่อเพื่อนจะได้มีผัวและมีลูก เรื่องแค่นี้กูกับผัวสบายมาก ”
“ กูประชด ”
“ อ้าวเหรอวะ ”
//////
เลิกงานทุกเย็นฉันกับย้งยี่จะพากันมาเดินตลาดเพื่อเลือกซื้อหาของกินเป็นประจำ เย็นนี้ก็เช่นกัน เรื่องเครียดก็มี ส่วนเรื่องกินก็อีกเรื่องนึง ก่อนจะมีแรงเครียดกระเพาะของเราต้องมีอาหารตุนอยู่ซะก่อน
ระหว่างที่ฉันกับย้งยี่เดินกินขนมและหิ้วของกินพะรุงพะรังจะกลับกันก็มีเสียงบางอย่างทำให้เราสองคนชะงัก
“ นังหนู เอ็งกำลังมีเคราะห์ ”
ฉันขนลุกทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ ฉันกับย้งยี่มองหน้ากันเลิ่กลั่กไปหมด ฉันหันไปมองตามเสียง
สำนักแม่หมอวจี…
“ ที่แม่หมอพูดเมื่อกี้ ใครจะมีเคราะห์เหรอจ๊ะ ” ย้งยี่เพื่อนฉันปากรวดเร็วมาก
“ เอ็ง นังหนู ”
หมอดูเขาชี้มาที่ฉัน ทำฉันตกใจมาก
“ แม่รู้ แม่เห็นเรื่องของเอ็งทุกอย่าง สัตว์สี่เท้ามันเป็นของเอ็ง ” มาหงมาเห็นอะไร มาทักอะไรฉันแบบนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกนะ
“ อีพราว เข้าไปดูเถอะมึง ”
ย้งยี่จับมือฉันเชิงลากให้เข้าไปในสำนักแม่หมอ แต่ฉันรั้งมือไว้
“ จะเข้าไปทำไม นั่นเป็นวิธีหาเงินของพวกเขานะ ”
“ แต่แม่หมอเขาทักมึงนะ ”
“ กูไม่ไป กูไม่เชื่อหรอก หมอดูคู่กับหมอเดามึงไม่เคยได้ยินเหรอ ”
เรื่องพวกนี้ไม่สามารถหลอกเอาเงินฉันได้หรอก ย้งยี่คะยั้นคะยอฉันแทบเป็นแทบตาย เพื่อให้ฉันเข้าไปฟังในสิ่งที่หมอดูพรรณนาเรื่องโกหกขึ้น แต่ฉันไม่ตกหลุมพรางเขาหรอก…
ค่ำนี้ฉันออกมาหาของกินขณะที่ฉันกำลังเดินกลับไปที่รถจู่ๆก็มีรถพุ่งเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว ที่ฉันไม่สามารถหลบออกได้ แต่แล้ว…
พลั่กกกก~~
ฉันถูกกระแทกจากอะไรบางอย่างจนกระเด็นออกมา เมื่อฉันหันไปมอง
มอออออ~~~
วัวตัวใหญ่มันเข้ามาชนกระแทกฉัน มันจ้องมองหน้าฉันและทำท่าเหมือนจะเข้ามาหาฉันอีก
“ อย่าาาา ”
ตุ๊บบบ~~~
“ โอ๊ยยย อะไรวะเนี่ย ”
นี่ฉันตกเตียงเหรอ แล้ววัวล่ะที่มันกำลังจะวิ่งมาหาฉัน มันหายไปไหนแล้ว ฉันหันไปรอบๆ
“ ฝันเหรอวะเนี่ย ”
ฉันพยุงตัวเองที่เอวคงเป็นเคล็ดขัดยอกขึ้นมานอนบนเตียงแล้วมันก็ทำให้ฉันชะงัก
“ สัตว์สี่เท้า ”
คำที่แม่หมอทักฉัน ความฝันของฉัน มันเกี่ยวพันกันเหรอ มันอะไรกันเนี่ย