เรื่อง อุ้มรักพราวตะวัน
ตอนที่ 4 โรคประหลาด
ความรักที่ไม่สมหวังทำพิษให้ฉันแทบไม่เป็นผู้เป็นคน กว่าจะผ่านเวลาช่วงนั้นมาได้ เล่นออกร่างกายจะแทบพัง โดยเฉพาะไตที่ทำงานหนักกว่าอวัยวะอื่น ก็ต้องเล่นกลั่นกรองสารพิษจากแอลกอฮอล์ให้ฉันนะสิ…
กว่าฉันจะมายืนตรงนี้ได้ต้องใช้ความรู้สึกไม่ใช่น้อย แต่ก็ต้องขอบคุณเขาที่สอนให้ฉันรู้จักความรักที่แท้จริง ว่ามันไม่มีอะไรแน่นอนเลย ทำให้ฉันกลับมารักตัวเองมากขึ้น จากที่รักแค่เขาจนลืมรักตัวเองไป ตอนนี้ฉันกลับมาโสดในรอบ 5 ปีอีกครั้ง ฉันจะโอบรักตัวเองให้มาก
“ ยิ้มมมมมม ”
ยิ้มแฉ่งในกระจกให้กำลังใจตัวเอง ฟ้าหลังฝนมันต้องสดใสอยู่แล้ว ฉันจะเป็นพราวตะวันคนใหม่ คนที่สวยเสร็จเด็ดสะระตีให้ได้
“ ไง ”
ฉันก้าวเท้าไหนออกจากห้องเนี่ยถึงได้ซวยแบบนี้ ถึงเปิดประตูออกมาก็เจอหน้าผู้ชายข้างห้อง ที่ออกจากห้องมาพอดีเหมือนกัน เขายักคิ้วหลิวตาทักฉัน
“ หูหนวกรึไง ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องทัก ไม่ต้องทัก ”
ฉันอยากจะด่าเขาให้เสียงดังลั่น ฉันบอกชัดเจนปากแทบจะถึงรูหูว่าไม่ต้องมาทักฉัน ไม่ใช่ให้เขามาทำเจ้าเล่ห์ใส่ฉันแบบนี้
“ กลัวใครรู้เหรอ ว่าเราเป็นอะไรกัน ”
“ อีตาบ้า อย่ามาพูดแบบนี้นะ ” ฉันอยากจะฟาดปากเขาซะจริงๆ
“ ทำไมล่ะ กลัวคนอื่นรู้หรือว่ากลัวผม ”ผู้
ชายคนนี้เจ้าเล่ห์เพทุบายมาก ท่าทางที่เขาแสดงออกกับฉัน มันคือท่าทางของผู้ชายเจ้าชู้ชัดเจนเลย
“ ตอบดิ พราวตะวัน ”
“ อย่ามายุ่งกับฉัน ”
ฉันผลักแผงอกเขาเบาๆ เมื่อเขาเอ่ยแล้วเข้ามาประชิดตัวฉัน ฉันแสดงออกหน้าดำหน้าแดงให้เขารู้ว่าฉันไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เขากลับยิ้มมุมปาก ซึ่งมันเจ้าเล่ห์มาก ไหนจะท่าลูบคางของเขาอีก เขาเดินมาใกล้ๆตัวฉัน ก้มลงมาใกล้ๆหูของฉัน
“ ตัวโคตรหอมเลย ”
ฉันอยากจะกรี๊ดให้เสียงดังลั่น เขาพูดจบแล้วเดินออกไปด้วยท่าทางโบกมือให้ฉัน ที่มันดูเหมือนชัยชนะของผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า
ฉันอยากจะบ้าตาย โลกมันเหวี่ยงให้ฉันมาอยู่ข้างห้องอีกตานี่ได้ยังไง ฟ้าหลังฝนของฉันที่กำลังสดใส มันจะมืดมนไปซะก่อนไหมเนี่ย…
เวลาวันหยุดอีก 2 วันของฉัน ฉันต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด โดยฉันจะใช้กับการกินและนอนเท่านั้น
ร้านอาหารใต้คอนโดมิเนียม เป็นที่ฝากท้องของฉัน บอกเลยว่าฉันแทบไม่อยากกลับห้อง กลัวไปเจอหน้าไอ้ผู้ชายข้างห้อง
ขณะที่ฉันกำลังกินอาหารให้กับพวกของฉันอยู่ ฉันก็รู้สึกอวดมวนท้องขึ้นมา ความปวดค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จากเบาๆสู้เลเวลความปวดหนัก จนฉันต้องรีบพาตัวเองมายังห้องพัก
ความปวดนี้มันอยู่กับฉัน 2 วันเต็มๆ ยาในตู้ที่ฉันมี ฉันกินมันแทบทุกอย่าง แต่มันกลับไม่มีความทุเลาลงได้เลย
“ มึงงงง ”
( อีพราว ทำเสียงมึงเป็นอย่างนั้น )
แล้วย้งยี่ที่โทรมาตามให้ฉันไปทำงานก็เป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้ให้รอดตายคาห้อง
“ นี่ถ้ากูไม่โทร มึงก็คงอยากนอนตายเป็นผีเฝ้าห้องไปแล้วใช่ไหม ”
นี่คือคำด่าที่แฝงความห่วงใยของเพื่อนสนิท ย้งยี่กระซิบพร่ำด่าฉัน ขณะที่นั่งรอรับยา
“ กูไม่รู้ว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ”
“ คราวหลังให้ตายก่อนนะ แล้วให้วิญญาณส่งซิกไปของกู กูจะได้จัดหาศาลาให้ ”
อยากจะตบปากมันจริงๆ แต่มันทำไม่ไหว ปวดท้องจนไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว
แต่เมื่อถึงคิวชื่อฉัน ฉันกลับไม่ได้ยา แต่…
“ คุณพราวตะวัน คุณหมอขอเชิญในห้องค่ะ ”
ฉันแอบตกใจที่ทำไมไม่จ่ายยาเหมือนคนอื่น แต่กลับเรียกเข้าไปพบในห้อง มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน?
“ มีอะไรรึเปล่าคะหมอ ฉันเป็นอะไรรึเปล่า ”
บอกเลยตอนนี้ความคิดในหัวมันเตลิดตบตีกันมั่วไปหมด กลัวจนคิดฟุ้งซ่านไปแล้ว
“ หมออยากจะแจ้งให้ทราบ ถึงอาการปวดท้องของคุณครับ ”
หมอก็บรรยายภาษาอังกฤษอะไรของเขาก็ไม่รู้บอกเลยฉันฟังไม่รู้เรื่องหรอก แต่สิ่งที่ฉันฟังรู้เรื่องคือหมอบอกว่าฉันป่วยโรคหายากที่พบ 1 ใน 10 ล้านคน
“ หมอวินิจฉัยผิดแล้วรึเปล่าคะ ” โทษหมออีก
“ ตอนแรกหมอก็ไม่แน่ใจจึงตรวจเช็คหลายต่อหลายครั้ง คุณเป็นโรค TOR ครับ ”
ดิฉันเป็นโรคที่ใกล้เคียงกับสีทาบ้าน TOA อย่างนั้นเหรอ มันก็คงเป็นโรคธรรมดา รักษาได้สบายอยู่แล้ว
“ แล้วไอ้โรค TOR ที่หมอว่า ต้องรักษายังไงคะ ”
“ คุณต้องมีลูกครับ ”
“ มีลูก!!! ”
ฉันกับย้งยี่อุทานออกมาพร้อมกัน โรคบ้าอะไรเนี่ยถึงมีลูกถึงจะหาย
“ ร่างกายของคุณเข้าสู่ระยะที่ 3 แล้ว ที่ร่างกายจะปรับตัวเข้าสู่ระยะที่ 4 ที่หมายถึง คุณจะค่อยๆมีหน้าตาและผิวพรรณแก่ก่อนวัยอันควรถึง 30 ปี ”
“ 30!!! ”
คราวนี้เป็นฉันคนเดียวที่อุทานออกมาเสียงดัง ฉันเพิ่ง 25 นะ อายุที่กำลังดี ความสวยกำลังเปล่งปลั่ง ฉันจะมาแก่ก่อนวัยอันควรได้ยังไง ฉันคือสาวสวยสองพันปีนะ
“ มันมีวิธีรักษาทางอื่นไหมคะหมอ? ”
วิวัฒนาการสมัยนี้ไปไกลแล้ว หมอสมัยนี้เก่ง หมอมีทางออกให้ฉันอยู่แล้ว
“ ไม่มีครับ คุณต้องมีลูกเท่านั้น ”
แล้วฉันจะไปมีลูกจากไหน มีกับใคร ฉันเพิ่งอกหักมาเองนะ
“ คุณต้องมีลูกให้ได้ภายใน 3 ปี ”
“ แล้วถ้าฉันมีลูกใน 3 ปีไม่ได้ ฉันต้องแก่กว่าคนปกติ 30 ปีอย่างนั้นเหรอคะ ”
“ ใช่ครับ ”
หมอใจร้าย หมอไม่มีทางเลือกให้ฉันเลย ฉันเพิ่งอกหักมานะหมอ ทำไมถึงทำร้ายจิตใจฉันได้ขณะนี้ ต้องเป็นเพราะฉันก้าวขาผิดข้างและไปเจอไอ้ผู้ชายตัวซวยข้างห้องแน่ๆ ฉันถึงซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้
อีพราวอยากจะร้องไห้…
“ ไม่เป็นไรนะมึง เดี๋ยวกูจะรีบควานหาผัวให้มึงเอง มึงต้องมีลูกได้แน่ๆ กูจะไม่ยอมให้มึงกลายเป็นผียายวรนาถไปหรอกนะ ” อีย้งยี่มึงจะจะปลอบหรือซ้ำเติมฉันกันแน่
“ เราจะต้องไปเที่ยวผับ เพื่อที่เราจะได้เจอผู้ชายมากหน้าหลายตาขึ้น เราจะได้มีตัวเลือกพ่อพันธุ์ ”
“ มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ ”
“ one night stand น้ำแตกแล้วแยกย้าย มึงเคยได้ยินไหม ”
ฉันมีสะดุ้ง กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ คำว่า one night stand มันลอยเข้ามาในหัว ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นมันอยู่ในหัวฉัน สะบัดเท่าไหร่ก็สะบัดไม่ออก พูดถึงเรื่องนี้ทีไร ฉันแทบจะแทรกแผ่นดินหนีทุกที
“ บ้า ใครมันจะไปทำอย่างนั้นได้วะ ”
“ แล้วมึงจะเขินทำไม มึงไม่ได้ใสๆแล้วค่ะอีด*ก มีเขินทำเป็นเวอร์จิ้น สตอเบอแหลมากค่า ”
มันยังไม่รู้มันยังด่าเหน็บฉันเก่งขนาดนี้ รับรองถ้ามันรู้ว่าฉันเมาจนไปมี one night stand กับผู้ชายข้างห้อง อีย้งยี่มันต้องแซวฉันจนไม่มีที่อยู่บนแผ่นดินไทยนี้แน่ๆ