ตอนที่ : 2 เหตุของเรื่อง 2

1220 คำ
หลังจากคนของเสี่ยอาร์ทมารับเจสซี่ไปแล้ว มาดามไลลาก็นั่งคิดหนักกับเรื่องนี้ สักพักใหญ่ ๆ ก็เห็นคนเจ็บถูกเจ้าหน้าที่เข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน “เชิญญาติคนไข้ทางนี้ค่ะ เราต้องพาคนไข้ขึ้นไปพักฟื้นหลังเย็บแผลที่ศีรษะ พอดีว่าตอนนี้มีว่างแค่ห้องพิเศษค่ะญาติสะดวกไหมคะ” “ค่ะสะดวกค่ะ” “ไม่มีกระดูกส่วนไหนหัก มีแค่แผลแตกที่ศีรษะที่ต้องเย็บ กับแผลฟกช้ำภายนอกทั่วไปเล็กน้อยค่ะ ส่วนภายในตอนนี้ก็ยังไม่มีส่วนไหนได้รับอันตรายร้ายแรง พักฟื้นรอดูอาการไปก่อนนะคะ” “ค่ะขอบคุณค่ะ” คนได้ยินนึกโล่งอก ก่อนจะเดินตามเจ้าหน้าที่เข็นรถเข็นคนป่วยเข้าลิฟต์ไป เพื่อย้ายจากห้องฉุกเฉินไปยังห้องพักฟื้นคนไข้แทน มาดามไลลาเห็นสภาพห้องพักฟื้นคนไข้ก็ตบอกอย่างตกใจ เพราะสภาพห้องนั้นเรียกว่าวีไอพีก็ว่าได้ ทุกอย่างดูหรูหราจนหายใจติดขัด มือชื้นเหงื่อขึ้นมาในทันที “ห้องนี้เหรอคะ” หันไปถามเจ้าหน้าที่อย่างไม่แน่ใจ “ค่ะตอนนี้เหลือแค่ห้องแบบนี้แล้วค่ะ” มาดามไลลากลืนน้ำลายข้นหนืดลงคอ อย่างลำบากยากเย็น มองตามหลังนางพยาบาลกับเจ้าหน้าที่รถเปลออกไป ก่อนจะหันหันมามองดูคนไข้บนเตียงนอน พอได้เห็นหน้าค่าตากันชัด ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็สวยใช่เล่น หน้าตาแบบนี้อาเสี่ยคงชอบ ‘คิดอะไรอยู่นี่ตู” มาดามไลลารีบเข้าไปล้างหน้าล้างตา และมานอนเฝ้าคนเจ็บ ที่ยังหลับไม่ได้สติจากฤทธิ์ยา ตอนเช้ามีคุณหมอเข้ามาตรวจดูอาการอีกครั้ง และแจ้งว่าสาย ๆ คนป่วยก็น่าจะฟื้นแล้ว ตอนนี้ปล่อยให้หลับไปก่อน อาการอย่างอื่นก็คงที่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จากนั้นมาดามไลลาก็ลงสอบถามเรื่องค่ารักษาแบบคร่าว ๆ จากฝ่ายการเงินของทางโรงพยาบาล “แสนกว่าเลยเหรอคะ” คนถามหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ด้วยฐานะทางการเงินของตน นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดนั้น เข้าขั้นร่อแร่เต็มทน ลูกค้าต่างชาติก็น้อยนิด คนไทยด้วยแล้วก็หายาก นาน ๆ ถึงจะมีมาสักราย “ค่ะคนไข้ไม่มีสิทธิ์อะไรเลยนี่คะ เคยมีประกันสังคมแต่ขาดส่งมานานแล้วด้วยเลยต้องจ่ายเต็ม แล้วยังเป็นห้องพิเศษอีก คุณหมอก็ตรวจอย่างละเอียดเลย ทั้งภายนอกภายใน นี่เป็นราคาคร่าว ๆ ที่แจ้งได้นะคะ เกิดคนเจ็บอาการไม่ดีขึ้นต้องนอนต่อหลายคืน ราคาอาจเปลี่ยนไปจากนี้ นี่เราคิดให้แค่สามคืนเท่านั้นนะคะ” พนักงานการเงินของทางโรงพยาบาล ชี้แจงค่ารักษามาอย่างละเอียด ‘กรรมของตูสามคืนยังแสนกว่า’ มาดามไลลาลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท ก่อนหน้านั้นคัทลินก็เข้ามาแบบผิดกฎหมาย ก่อนจะวิ่งเต้นสวมสิทธิ์บัตรประชาชนให้ได้ก็ลำบากอยู่เหมือนกัน ‘หาเรื่องจริง ๆ เลยตู’ ความหวังเดียวคงเป็นการขอร้องให้คนเจ็บยอมยกโทษให้ และเรื่องค่ารักษาพยาบาลคงต้องขอผ่อนผันไปก่อน แต่ถ้าเรื่องไม่เป็นอย่างที่คิด คนเจ็บเอาเรื่องขึ้นมาเรียกร้องค่าเสียหายหนัก ๆ จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล นึกถึงสถานการณ์ตอนนั้นแล้วรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเลย ‘คราวนี้อีมาดามไลลาสิ้นชีพแน่ ๆ’ ช่วงสาย ๆ คนเจ็บก็ลืมตาตื่นขึ้นมา เป็นไปอย่างที่คุณหมอคาดการณ์เอาไว้จริง ๆ มาดามไลลาตรงไปข้างเตียงนอนคนเจ็บก่อน โดยยังไม่คิดเรียกนางพยาบาลในตอนนี้ “หนูจ๊ะ แม่ชื่อไลลานะ เป็นคนช่วยพาหนูมารักษาที่โรงพยาบาลนี้เอง” เพราะติดแทนตัวเองว่าแม่ เลยทำให้มาดามไลลาเผลอแนะนำตัวเองด้วยคำนี้ออกไป อีกทั้งยังพยายามพูดให้ตัวเองกลายเป็นผู้มีบุญคุณ แทนที่จะเป็นคนกระทำความผิดเรื่องขับรถชน “คุณเป็นแม่ฉันเหรอคะ” คนบนเตียงถามพร้อมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บแผลบริเวณศีรษะ ‘แม่เหรอ’ มาดามไลลาทำหน้าเหลอหลา พร้อมกับงุนงงต่อเรื่องราวตรงหน้า “ฉันเป็นใครเหรอคะ” คนเจ็บเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยดวงตาใสซื่อ “นี่หนู จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” “ค่ะจำอะไรไม่ได้เลย” คนเจ็บส่ายหน้าไปมา พร้อมกับสอดส่องสายตาไปรอบ ๆ บริเวณห้อง เหมือนพยายามนึกอะไรให้ออก ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ ออกมา คล้ายคนหมดหวัง มาดามไลลากะพริบตาปริบ ๆ เหมือนกำลังมองเห็นทางออกของเรื่องนี้อยู่ ‘จำไม่ได้อย่างนั้นเหรอ’ ค่ารักษาที่แพงลิบลิ่ว กับคนเจ็บที่จำอะไรไม่ได้เลย ความดำมืดในจิตใจของแม่เล้าผู้นี้เริ่มก่อเกิด ค่อย ๆ ยิ้มออกมาอย่างใจเย็น “จำชื่อตัวเองได้ไหม หรือว่าเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นจำได้หรือเปล่า” มาดามไลลาลองถามย้ำอีกรอบ อีกคนก็ส่ายหน้าออกมาอย่างช้า ๆ “จำไม่ได้เลยค่ะ” “งั้นแม่จะบอกให้เองจ้ะ หนูชื่อ คัทลิน โคกตัน หรือพวกเราเรียกกันว่า แคท เป็นเด็กในสังกัดของมาดามไลลาคนนี้เองจ้ะ” พูดพลางแตะตรงอกตัวเองไปด้วย “เด็กในสังกัดคืออะไรคะ” “ก็แหม เอาไว้กลับบ้านก่อนค่อยเล่าให้ฟังนะ ตอนนี้นอนพักก่อนนะแคท เดี๋ยวแม่ไปตามคุณหมอมาดูอาการก่อน” มาดามไลลาบ่ายเบี่ยงที่จะบอกตรง ๆ “เอ่อค่ะ” มาดามไลลาออกไปแจ้งนางพยาบาลด้านนอก ไม่ช้าคุณหมอก็เข้ามาตรวจอาการคนไข้ ใช้เวลาสักพักใหญ่ ๆ คุณหมอหนุ่มสูงวัยก็เดินเข้ามาแจ้งอาการกับผู้เป็นญาติ “หลังจากเช็กดูอาการแล้ว หมอว่าเป็นโรคความจำเสื่อมหลังเกิดอุบัติเหตุครับ” “แล้วจะจำได้เมื่อไหร่คะ” “เรื่องนี้หมอบอกเวลาที่แน่นอนไม่ได้นะครับ บางคนอาจจะสองสามวัน บางคนก็สองสามเดือน หรือบางทีก็สองสามปีน่ะครับ แล้วแต่สมองของแต่ละคน ว่าจะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้เร็วแค่ไหน หรือว่ามีอะไรกระตุ้นให้จำได้เร็วขึ้น” “แบบนี้นี่เองขอบคุณคุณหมอมากค่ะ” มาดามไลลายกมือขึ้นไหว้คุณหมอ ก่อนท่านจะเดินออกจากห้องไป สักพักมีเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลเข้ามาถามเรื่องของคนเจ็บ การเกิดอุบัติเหตุนั้นตามขั้นตอนแล้วต้องมีการแจ้งตำรวจ ให้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วย “ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าใครขับชน แต่ตอนนี้แคทปลอดภัยแล้ว ก็ไม่คิดไปตามหาตัวคนทำหรอกค่ะ มันเสียเวลา” มาดามไลลาสมอ้างเรื่องตัวเองไปเจอคนเจ็บ แล้วพามาส่งโรงพยาบาลแทน “ทางที่ดีต้องเข้าไปแจ้งความไว้นะคะ จะได้หาตัวคนร้ายได้ทัน” “เอาไว้เดี๋ยวค่อยแวะไปค่ะ ตอนนี้ที่สำคัญคือแคท” มาดามไลลาปัดเรื่องให้พ้นตัวไปก่อน อย่างอื่นค่อยเอาไว้คุยกันทีหลัง เจ้าหน้าที่พยักหน้าทำความเข้าใจ ก่อนจะจากไปแต่โดยดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม