ป่วนใจให้เจอรักแท้

978 คำ
โผะ เผล้ง!!! เสียงเหมือนปากระจกและแตก ทำให้ทุกคนที่นั่งรับประทานอาหารกันอยู่มองตากัน นาวินที่สติดีกว่าลุกขึ้นวิ่งออกมา ทุกคนวิ่งออกตามหลัง นาวินยกแขนกั้นไว้เพื่อไม่ให้ทุกคนวิ่งไปใกล้ตรงจุดที่กระจกแตกเกินไป “ระวังเศษกระจกด้วยครับ” คำเตือนของนาวินทำให้ทั้งสามหยุดชะงักแต่ก็เห็นว่ากระจกด้านหน้าทั้งบานแตกละเอียดลงมา           นกยูงเมื่อเห็นว่าเสียงที่ดังคือกระจกด้านหน้าร้านแตกละเอียด ถึงกับนิ่งค้าง ยกมือขึ้นปิดปากไม่อยากเชื่อว่าร้านของเธอจะเจอเรื่องแบบนี้ได้ “แย่แล้ว...” เมย์เป็นคนเอ่ยขึ้น แดนหันมองซ้ายแลขวาตาเลิ่กลั่ก นาวินคิดว่ามีคนกำลังป้องร้าย แต่ไม่แน่ใจว่าสาเหตุจูงใจเกิดจากอะไรกันแน่ จึงดึงแขนนกยูงที่ยืนนิ่งเหมือนถูกสาบออกจากเศษกระจกที่กระเด็นไปไหนต่อไหน “เมย์พาคุณนกยูงไปนั่งในห้องครัวก่อนทางนี้เดี๋ยวผมกับแดนจะจัดการกันเอง” แดนจึงรีบไปหาไม่กวาด นาวินหยิบมือถือที่พกติดตัวตลอดเวลาถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน และระหว่างที่แดนกำลังเก็บกวาดอยู่นั้นก็เจอก้อนหินสองก้อนแต่ขนาดต่างกันกระเด็นไปไม่ไกลนัก จึงเรียกให้บอดี้การ์ดมาตรวจดูให้แน่ชัด นาวินจึงยกมือถือขึ้นถ่ายเพื่อเก็บภาพไว้ ก้อนแรกใหญ่กว่ากำปั้นผู้ชาย ส่วนอีกก้อนที่ตกไปไกลมีขนาดเล็กกว่ามากแต่หน้าแปลกตรงที่ว่าหินก้อนเล็กกับมีกระดาษหุ้มทับอยู่  นาวินจึงหยิบก้อนหินก้อนนั้นขึ้นมาแกะจึงพบว่าในกระดาษมีตัวหนังสือเขียนอยู่ ‘ฉันอยู่ไม่ได้ แกก็อยู่ไม่ได้!’ นาวินจึงเอาไปให้นกยูงดู “คุณเคยมีเรื่องกับใครบ้างหรือเปล่า” เธอมองหน้านาวิน คนอย่างนกยูงจะไปมีเรื่องกับใครได้ แต่… เหมือนนึกขึ้นได้ แต่เธอขยิบตาเพื่อบอกนาวินเดี่ยวค่อยคุย “เมย์ ไปบอกแดนนะว่าฉันให้เก็บร้านและปิดร้านเลย”  เมย์พยักหน้าแล้วเดินไปที่แดน ทั้งคู่จึงช่วยกันเก็บของและปิดร้านกลับบ้านไป “ถ้าจะมีก็คงเป็นไอ้หนุ่มที่ฉันเคย…” “ผมว่าไม่น่าใช่” นกยูงคิ้วขมวด “นายรู้ได้ไงไม่น่าใช่ นายรู้จักคนพวกนั้นด้วยหรือ” ครานี้นาวินอึกอัก “งั้นคืนนี้เราไปพิสูจน์กัน” คำพูดของบอดี้การ์ดทำให้ลูกสาวเจ้านายยิ่งงงหนัก “โทรหาร้านมาเปลี่ยนกระจกก่อนดีกว่า” เขาบอกนกยูงก็กดหาเบอร์ช่างคนเก่าที่เคยมาใส่กระจกให้ตอนเปิดร้านใหม่ ๆ ระหว่างที่รอช่างมาเปลี่ยนนกยูงก็ถามมาวินถึงเรื่องที่เกิดขึ้น “นายว่าเราแจ้งความลงบันทึกไว้ดีกว่าไหม” “ตำรวจมีงานเยอะอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้เราจัดการกันเองได้” “แต่มันน่ากลัวนะ เราอยู่ที่แจ้งพวกมันอยู่ที่มืด” “ผมว่าแค่มาป่วน” “โอ้ยป่วนแบบนี้ไม่ไหวนะคะ” นกยูงทำหน้าบูดเบี้ยวเธอชอบเล่นแบบซึ่ง ๆ หน้า ลอบกัดแบบนี้เธอเกลียดที่สุด “ให้ผมมั่นใจก่อนว่าเป็นฝีมือใคร เดี๋ยวผมจัดการเอง” น้ำเสียงหนักแน่นทำให้นกยูงเงียบเสีย รอช่างอยู่เกือบสองชั่วโมงกว่าช่างจะมาเพราะติดลูกค้าอยู่ เมื่อช่างมาถึงยกยูงก็รีบเดินไปหาและบอกขึ้นว่า “เอาแบบกันกระสุนนะรอบนี้” ช่างขำพรืดแล้วตอบกลับมาอย่างที่เล่นทีจริง “แพงและต้องสั่งจากนอกครับ” “งั้นไม่เอาดีกว่า ขอที่มันทนปาก้อนหินใส่ไม่แตกมีไหม” ช่างยิ้มยิงฟัน มีครับ แล้วช่างก็เดินไปสั่งลูกน้องจัดเตรียมเครื่องมือทำการต่อปรั๊กไฟเพื่อตัดกระจกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย นาวินที่เข้าไปจัดการในครัวเดินออกมาเมื่อเห็นว่าช่างเก็บของกลับไปแล้ว “คุณอย่าลืมที่พูดไว้นะ” เธอหันมาย้ำ          “ครับ” เขาไม่อยากปรักปลำใครแต่ต้องการหาหลักฐานให้แน่ชัด           นกยูงขอตัวขึ้นชั้นบน นาวินจึงเดินดูภายในร้านเพื่อเช็คความเรียบร้อย เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วก็เดินขึ้นชั้นบน เพื่อพักผ่อน รอเวลาที่จะออกไปข้างนอกพร้อมลูกสาวเจ้านาย           นาวินเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกจากตัว ความเย็นที่ปะทะผิวเนื้อแท้ ทำให้นาวินแปลกใจ “นี่เราลืมปิดแอร์เหรอ” “ป่าว ฉันเป็นคนเปิดเองแหละ” “หึ้ย! คุ คุณนกยูง เข้ามาได้ไงเนี่ย” แล้วเขาก็เห็นว่านกยูงนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงที่เขาเป็นเจ้าของอยู่หลายคืนนั่นเอง           “ก็เปิดประตูเข้ามา”           “เอ่อ คือ หมายถึงเข้ามาในห้องผมทำไม”           “ก็ห้องฉันเหม็น” คำตอบของเธอทำให้นาวินเลิกคิ้วทำหน้าเมื่อยเข้าใจในทันที จึงหยิบเสื้อกลับมาใส่เหมือนเดิม           “อ้าว คุณจะทำอะไรก็ทำไปสิ ฉันจะหลับตาแล้ว”           “โอ้ยแค่รู้ว่าอยู่ในห้องกับผู้หญิง ถึงนั่งเฉย ๆ ผมก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว”           “แหม้ทำเป็นวัยรุ่นไปได้ อันที่จริง คุณมาช้าอีกนิดฉันก็หลับแล้ว” นาวินอยากบ้าตาย หันหลังเดินกลับไปที่ประตู เสียงหวานร้องถามตามหลัง           “นี่จะเสียสละห้องให้ฉันเหรอ”           ใจคนไม่ใช่หิน คงต้องอย่างนั้นแหละครับ ยังมีหน้ามาถามอีก! “ครับ” ว่าแล้วก็เปิดประตูออกไป โดยมีรอยยิ้มของนกยูงส่งตามหลังไป                
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม