นกยูงรู้สึกหน้าร้อนไม่จางหายแม้จะแช่น้ำเย็นอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงด้วยความอับอาย ทำไปได้ ไปวอแวกับผู้ชายทั้งที่ใส่ชุดนอนบางเฉียบโดยไม่ใส่อันเดอร์แว!
“โอ้ย… อายยันลูกบวชไหมเนี่ย” ขนาดอาบน้ำเสร็จมาใหม่ยังไม่หายร้อน ว่าแล้วก็รีบแต่งตัวเพื่อลงไปเปิดร้าน ที่เธอชอบโดยยอมขัดใจพ่อขอเปิดร้านเองเป็นการส่วนตัว แต่ไม่วายพ่อก็ส่งบอดี้การ์ดเข้ามาให้เธอได้อยู่ในสายตาตลอด จนเธอรู้สึกอิจฉาน้องใบข้าวที่พ่อไม่ค่อยเข้มงวดอย่างเธอ หากแต่ไม่มีใครกล้ามาจีบเหมือนกัน!
ระหว่างที่นกยูงเดินลงมาจากบันได สายตาที่ไม่ได้ตั้งใจของนาวินก็หันมาเห็นพอดี รูปร่างสมส่วนในชุดเดรสยาวเลยเข่าผ้าพลิ้วลายดอกเล็ก ๆ สีหวาน จัดให้คนที่สวมใส่อ่อนวัยกว่าอายุจริงเป็นอย่างมาก หรือจะเป็นเพราะเธอดูแลเอาใจใส่ตัวเองเป็นอย่างดี ราวกับหญิงสาวอายุ20ต้น ๆ ไม่ปาน
เมื่อเธอเดินลงมาใกล้ถึงบันไดขั้นสุดท้ายนาวินจึงเบนสายตาไปสนใจอย่างอื่น
นกยูงเดินลงชั้นล่างก็เห็นว่าร้านของเธอถูกเปิดและจัดเป็นระเบียบเพื่อรอรับลูกค้าเรียบร้อยแล้วทั้งที่ลูกน้องก็เพิ่งมาถึง
“สวัสดีค่ะคุณนกยูง” เมย์สาวน้อยวัย18ปีที่จบแค่ม.6 แต่ก็ไม่เรียนต่อเพราะทางบ้านฐานะยากจนแต่นกยูงแนะนำให้เรียนระบบทางไกลของ มสธ.เอา
“จ้า กินอะไรมาหรือยังจ๊ะ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
เธอใส่ใจลูกน้องของเธอทุกคน โดยวันนี้เธอไม่เห็นแดนหนุ่มผู้ที่ทำหน้าที่ส่งของตามออเดอร์เวลามีลูกค้าโทรมาสั่ง จึงหันไปถามเมย์ที่กำลังพรมน้ำฉีดดอกไม้อยู่
“แล้วแดนมาทำงานหรือเปล่าวันนี้”
“มานะคะเมื่อวานยังบอกว่าจะมาทำทุกวันจะเก็บตังค์ไปซื้ออะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ”
นกยูงพยักหน้ารับทราบแล้วเดินไปหาหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ไว้รับรองแขกเวลามารอรับของ
เธอยืดอกสูดลมหายใจเข้าออก เรียกความกล้า อายอยู่แต่เก็บอาการทำตัวให้เป็นปกติ!
นาวินเมื่อเห็นว่านกยูงเดินตรงมา จึงวางหนังสือในมือลงที่เดิม “สวัสดีค่ะ ฉันคงไม่ต้องแนะนำตัวแล้วนะคะ”
นาวินพยักหน้ารับทราบ เพราะเขารู้เรื่องราวเธอทุกอย่างดีหมดแล้วจากผู้เป็นพ่อของเธอ
“เรียกผมว่านาวินก็ได้ครับ” นกยูงพยักหน้ารับทราบแล้วลุกขึ้นเพื่อไปทำหน้าที่ของเธอต่อ แต่ทว่าเธอหันไปเห็นกระเป๋าเป้สีดำใบไม่ใหญ่หนักวางอยู่ เธอเอียงคอมอง ครุ่นคิด
ของใคร!นาวินพอจะอ่านสายตาหญิงสาวออกจึงพูดขึ้น
“กระเป๋าผมเองครับ”
“ห๊ะ! อะ เอามาทำไม อย่าบอกนะว่าจะหาห้องเช่าแถวนี้เพื่อเฝ้าฉันเหมือนคนก่อน ๆ”
คนก่อน ๆ ที่ทำแบบนั้น จึงทำให้เธอมีโอกาสหนีเที่ยวจนพ่อต้องไล่ออกอยู่เรื่อย
“เปล่าครับ เสี่ยเรืองบอกว่ามีห้องว่างอยู่อีกห้องให้ผมไปอยู่ห้องนั้นได้เลยครับ”
“ไม่ได้! ฉันไม่อนุญาต…”
เธอส่งสายตาและน้ำเสียงขุ่นก่อนจะเอ่ยต่อ
“กลางวันคุณจะอยู่ตรงไหนของร้านก็ได้ แต่กลางคืนคุณจะอยู่ที่นี่ไม่ได้” เธอบอกสีหน้าจริงจัง
“ผมรับคำสั่งจากเสี่ยเรืองก็ต้องทำตามเสี่ยเรืองครับ”
น้ำเสียงและสีหน้าเคร่ง จนนกยูงคิดว่างานหินกำลังเข้าเธอแล้ว
“โอ้ย พ่ออีกแล้ว… หนูอายุปูนนี้ยังจะมีคนเฝ้าอีกเหรอเนี่ย!”
เธอบ่นงุบงิบ อย่างอึดอัดขัดใจ แต่คนที่ได้ยินและเห็นอาการของเธออมยิ้ม
“คุณพ่อคุณทำถูกแล้ว” เขาพูดขึ้น เพราะเมื่อคืนเขาได้เห็นกับตาถึงความร้ายกาจของเธอ
“ให้ผู้ชายมานอนเฝ้าเนี่ยนะ”
เธอรู้สึกหัวเสีย ยิ่งนานวันพ่อยิ่งไม่อยากให้เธอคลาดสายตาซินะ!
“ครับ” ไม่เฝ้ากลางคืนก็หนีเที่ยวเหมือนเมื่อคืนอีกซิ…
นาวินมองตามร่างบางที่เดินกระฟัดกระเฟียดเข้าไปในห้องที่กั้นด้วยกระจกใสที่แยกเป็นออฟฟิศและนั่งทำงานของเธอไป นาวินจึงออกมาดูนอกร้านและพบว่าเมย์ลูกจ้างสาว กำลังจัดดอกไม้แห้งเพื่อตั้งโชว์ประดับหน้าร้าน
“สวัสดีครับ” เขาเอ่ยทักทาย
“สวัสดีค่ะ” สาววัย18 ยกมือไหว้ บอดี้การ์ดเปลี่ยนหน้าอีกแล้วแต่รอบนี้หน้าตาหล่ออย่างพระเอกเกาหลี!
“ชื่ออะไรครับ”
“เมย์คะ แล้วพี่ชื่ออะไรคะ”
“เรียกพี่ว่าพี่มาวินก็ได้นะครับ”
“อ้อค่ะคุณมาวิน”
อ้าวสะงั้น! นาวินเลิกคิ้วมองใบหน้ากลมใส กดขำเมื่อหญิงสาวไม่เรียกตามที่เขาบอก แต่ไม่อยากค้านให้เธอรู้สึกอึดอัดจึงนำคุย
“แล้วมีพนักงานอื่นอีกไหมครับเนี่ย”
“มีค่ะ แดนแต่เขายังไม่มาเลย” เธอตอบไปมือก็ทำงานไป
“อ้อครับ” นาวินตอบรับ และยืนคุยกับเมย์อยู่พักหนึ่ง ระหว่างนั้นนกยูงเดินออกมาจากห้องเพื่อจัดช่อดอกไม้ตามออเดอร์ลูกค้า สายตาของเธอมองผ่านกระจกใสออกไป ริมฝีปากบางเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว ไม่รู้นานเท่าไหร่จนมือเธอไปสัมผัสกับก้านกุหลาบที่มีหนามแหลมโผล่พ้นกระดาษหลงเหลืออยู่ทำให้เธอสะดุ้ง
“อ่า…” เธอจึงจัดการกับดอกไม้ตรงหน้าเพื่อให้เสร็จทันเวลานัด
เมย์ที่จัดโชว์ดอกไม้ด้านนอกเสร็จก็เดินกลับเข้ามา “มีออเดอร์แล้วหรือคะ”
“มีแล้วจ๊ะ ว่าแต่แดนมาหรือยังล่ะ”
“ยังไม่มาเลยคะ ไม่สบายหรือเปล่าก็ไม่รู้” เมย์เอ่ยน้ำเสียงเฉา ๆ นกยูงเหลือบตามองไปนอกกระจกเป็นครู่แล้วเปรยขึ้น
“จะไปส่งยังไงดีล่ะ ไกลสะด้วย” นกยูงครุ่นคิด หากเธอไปส่งเองให้ลูกน้องเฝ้าร้าน เกิดมีลูกค้ามาสั่งแล้วรอรับเมย์ซึ่งทำไม่ได้ก็เสียลูกค้าอีก ส่วนเมย์ขับรถไม่เก่งเธอจึงไม่วางใจ
เมื่อคิดไม่ตกหากแต่สายตาสาดไปเจอบอดี้การ์ดเข้าพอดี ริมฝีปากสีชมพูหวานบิดยิ้มแล้วเดินออกจากโต๊ะ โดยมี
สายตาของลูกน้องสาวมองตามดูอย่างสงสัย
“นายนาวิน…” เสียงนะหวานจนคนถูกเรียกเงยขึ้นมองตาปริบ ๆ
“ช่วยหน่อยสิ ไปส่งช่อดอกไม้ให้ลูกค้าหน่อย”
“หะ ครับ?” คำว่าครับทำให้นกยูงถึงกับตบมืออย่างดีใจ เธอมองคนไม่ผิดจริง ๆ หล่อใจดี…
“นี่” เธอยื่นกระดาษแผ่นสีเหลี่ยมขนาดเล็กให้ซึ่งเป็นที่อยู่และเบอร์โทรของลูกค้าที่เธอจดไว้
“อะไรครับ” ถามแต่ก็ยื่นมือรับแบบงง ๆ
“ที่อยู่และเบอร์โทรลูกค้าค่ะ ขอบคุณนะคะ…”
เธอตัดจบและหันไปสั่งลูกน้องสาว “เมย์เอาช่อดอกไม้มาเลยจ๊ะ”
นาวินหน้าตาตื่นจนพูดอะไรไม่ออก
“เดี๋ยวฉันให้ค่าแรงนายเหมือนค่าจ้างรายวันเคมั้ย”
นาวินไม่ได้สนใจค่าจ้างอะไรนั่น “นี่ผมมาดูแลคุณนะครับ แล้วจะให้ผมออกไปส่งของแบบนี้ไม่ได้”
“น่าฉันจะทำตัวดี ๆ ระหว่างที่นายไปส่งของให้ลูกค้าโอเคไหมคะ”
…โอ้ยนาวินอยากจะบ้าตาย เมื่อใบหน้างามชม้ายตาแลน้ำเสียงออดอ้อน จนเกือบใจอ่อน แต่เขาก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี
“คุณนกยูงไปส่งกับผม แล้วผมขับรถให้ดีกว่าไหมครับ”
“แล้วใครจะจัดช่อดอกไม้หากมีลูกค้าเข้าร้านล่ะคะ”
“ก็…” เขาหันไปมองเมย์ โดยที่เธอยืนหน้ามุ่ยประหนึ่งหนูทำไม่เป็นอย่ามาฝากไว้กับหนูเลย!
สุดท้ายนาวินก็เอารถเก๋งของนกยูงไปส่งช่อกุหลาบงามแทนที่จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ของเขา ที่ไม่สะดวกต่อการขนช่อดอกไม้ช่อใหญ่และเมื่อนาวินออกไปไม่ถึงสิบนาทีก็มีลูกค้าใหม่เข้ามาในร้านเธอจึงตอนรับและจัดการโดยลูกค้ายินดีนั่งรอจนกว่าเธอจะทำเสร็จ