เอาให้รู้ว่าใครที่ต้องทน

1121 คำ
          …โอ้ยนาวินอยากจะบ้าตาย เมื่อใบหน้างามชม้ายตาแลน้ำเสียงออดอ้อน จนเกือบใจอ่อน แต่เขาก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี “คุณนกยูงไปส่งกับผม แล้วผมขับรถให้ดีกว่าไหมครับ” “แล้วใครจะจัดช่อดอกไม้หากมีลูกค้าเข้าร้านล่ะคะ” “ก็…” เขาหันไปมองเมย์ โดยที่เธอยืนหน้ามุ่ยประหนึ่งหนูทำไม่เป็นอย่ามาฝากไว้กับหนูเลย! สุดท้ายนาวินก็เอารถเก๋งของนกยูงไปส่งช่อกุหลาบงามแทนที่จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ของเขา ที่ไม่สะดวกต่อการขนช่อดอกไม้ช่อใหญ่และเมื่อนาวินออกไปไม่ถึงสิบนาทีก็มีลูกค้าใหม่เข้ามาในร้านเธอจึงตอนรับและจัดการโดยลูกค้ายินดีนั่งรอจนกว่าเธอจะทำเสร็จ นาวินจอดรถเก๋งเข้าที่แล้วกลับเข้ามาในร้าน ก็พบว่านกยูงกำลังจัดดอกไม้ให้กับลูกค้าที่นั่งรอคิวกันอยู่สองคนโดยมีเมย์เป็นลูกมือ เขาเดินผ่านเข้าไปด้านในและเลือกนั่งอยู่เงียบ ๆ ใบหน้าหวานที่มีรอยยิ้มยามจดจ่ออยู่กับงานในมือดูเป็นธรรมชาติ รอยยิ้มที่จริงใจยามพูดคุยอยู่กับลูกค้า แต่ทำไมสาวบ้านนี้จึงไม่แต่งงานนะ… “ขอบคุณนะคะ ไว้โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ” เธอก้มศีรษะให้ลูกค้าอย่างมีมารยา เมื่อเธอส่งลูกค้าหมดแล้วนกยูงมองดูเวลา เป็นเวลาเที่ยงพอดี จึงเอาป้ายติดไว้ที่ประตูกระจก แล้วก็หันมองหานาวินที่แอบไปนั่งอยู่ในมุมอับ ตาสบตา นาวินจึงลุกขึ้นเดินมาหานกยูงเมื่อเห็นว่าร้านไม่มีลูกค้าและเธอคงปิดร้านพักเที่ยงแล้ว “นี่ครับ” เขายื่นกุญแจรถคืนให้เธอ นกยูงยิ้มให้พร้อมรับกุญแจมาเก็บไว้ “ไม่ได้คุณนาวินวันนี้แย่เลย” เธอรู้สึกยินดี แม้ก่อนหน้านั้นจะรู้สึกขัดใจที่พ่อเรืองออกคำสั่งมาให้บอดี้การ์ดเฝ้าเธอทั้ง24 ชั่วโมง แต่วันนี้บอดี้การ์ดคนใหม่ช่วยเธอไว้ได้เยอะ “เดี๋ยวเลี้ยงข้าวนะ ขอสั่งอาหารก่อน” เธอบอกแล้วเดินเข้าไปในออฟฟิศ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีชายชุดเขียวมาส่งอาหารให้ถึงที่ เมย์วิ่งไปรับและจ่ายเงิน เตรียมตั้งโต๊ะอาหาร นาวินมองข้าวบนโต๊ะที่จัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย “นั่งสิ” นกยูงเอ่ยชวน นาวินลังเลเมื่อลูกน้องอย่างเขาต้องร่วมโต๊ะกับเจ้านาย “ไม่ต้องเกรงใจหรอก” นาวินจำเป็นต้องนั่งลงด้วยความเกรงใจจริง ๆ ทั้งหมดนั่งกินข้าวไปเงียบ ๆ จนอิ่มกันทุกคนเมย์จึงจัดการเก็บโต๊ะเพื่อเอาไปล้าง “เอากระเป๋าไปเก็บในห้องได้เลยนะ กุญแจมีแล้วใช่ไหม” เธอถามทั้งที่รู้ว่าเสี่ยเรืองคงจัดการให้เรียบร้อยแล้ว “ครับคุณหนู” นาวินเผลอเรียกตามเสี่ยเรืองยามคุยกัน “อย่าเรียกฉันว่าคุณหนูเลย มันรู้สึกประดักประเดิดยังไงไม่รู้ เรียกว่าคุณยกยูงนะดีแล้ว” “ครับ” หลังจากได้รับอนุญาตจากเจ้าของอย่างเป็นทางการ นาวินก็ขึ้นไปชั้นบนเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บ เขารู้สึกประทับใจในความไม่ถือตัวของลูกสาวเสี่ยเรือง คนอย่างเธอไม่ดิ้นรนออกมาทำเองก็อยู่สบายด้วยสมบัติและกิจการใหญ่โตของพ่ออยู่แล้ว แต่คงเป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบงอมืองอเท้าสินะ ใช้ชีวิตหาเช้ากินค่ำอย่างคนธรรดา! ช่วงบ่ายมีลูกค้าเข้ามาสั่งดอกไม้ประปลาย นาวินทำหน้าที่รับส่งอีกครั้ง แม้จะรู้สึกว่ามันไม่ใช้งานที่ชอบ แต่ก็ขัดไม่ได้ “น่านะ สองเจ้าเอง อยู่เส้นทางเดียวกัน…” เธอขอเสียงอ่อนเสียงหวาน อาการเหมือนเด็กน้อยขอของเล่นไม่ปาน นาวินได้แต่ถอนหายใจ เธอทำหน้าเศร้ากระพริบตาปริบ ๆ เอ่ยบอกอีก “ไม่อยากรบกวนแต่ทำไงได้ โทรไปหาแดนแต่ก็โทรไม่ติด เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้เลย” เธอบ่นเสียงอ่อย “ครับ” สุดท้ายเขาก็ยอมไปส่ง ได้เวลาปิดร้านนกยูงจึงให้เมย์เก็บเครื่องมือและทำความสะอาด เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเด็กสาวจึงลากลับบ้าน เวลาผ่านไปนกยูงรู้สึกว่ามันนานเกินไปที่นาวินไปส่ง เธอจึงลุกขึ้นไปยืนมองผ่านกระจกใสกวาดตามองไปรอบ ๆ เริ่มรู้สึกกังวลเมื่อคำนวนเวลากลับหากแต่บอดี้การ์ดของเธอยังไม่กลับ รถติดก็ไม่น่าใช่! เพียงครู่ที่ทำให้เธอรู้สึกกังวล เมื่อเห็นรถคุ้นตาเข้ามาจอดเทียบหน้าร้าน ด้วยความดีใจเกือบเปิดประตูออกไปต้อนรับชายหนุ่ม แต่เมื่อคิดได้ว่าไม่สมควรจึงได้แค่ยืนมองผ่านกระจกใส จนเขาเปิดประตูรถขยับตัวออกมาเธอก็เห็นว่านาวินเดินอ้อมไปยังท้ายรถแล้วหยิบของออกมาจากท้ายรถเยอะแยะ ทั้งหนีบ ทั้งโอบไว้บนอก “อะไรของเขา…” นกยูงกล่าวขึ้นเบา ๆ เมื่อมองภาพบอดี้การ์ดอย่างกับแม่บ้านกลับจากไปจ่ายตลาดอย่างไรอย่างนั้น นาวินเมื่อเดินเข้ามาในร้านและเห็นว่านายสาวกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูจึงพูดขึ้น “ขอโทษนะครับที่กลับช้า” นกยูงขยับนิดหนึ่งเพื่อให้เขาได้เดินสะดวกขึ้น “แล้วนี่คุณไปซื้ออะไรมาเยอะแยะ” เห็นแหละะว่าเป็นผักและของสดไว้ทำอาหารกินแต่ก็อดถามไม่ได้           “กับข้าวไงครับ ผมเห็นว่าที่นี่ก็มีห้องครัวและตู้เย็น เลยซื้อมาตุนไว้ทำกินเองดีกว่า” คำพูดที่เคยคิดว่าจะได้ยินจากผู้ชายคนไหน ทำให้นกยูงถึงกับอึ้งก่อนจะทำจมูกย่นแล้วพูดขึ้นเสียงกระปอดกระแปด           “ถึงฉันจะดูเป็นผู้หญิง สวย เรียบร้อย…” บิดมือไปมา “แต่ฉันก็ทำอาหารกินเองไม่อร่อยหรอกนะ” นาวินเหลือบมองคนพูดเพียงนิดแล้วก้าวยาว ๆ ตรงไปยังห้องครัวที่ตนเองเดินสำรวจมาแล้วเมื่อเช้า “ผมไม่ได้บอกว่าจะให้คุณนกยูงทำให้กินสักหน่อย” “ห๊ะ!นี่นาย นายจะทำอาหารกินเองเหรอ…” อึ้งอีกครั้ง “กินได้หรือป่าว” “เด็กกำพร้าอย่างผม ทำอาหารกินเองตั้งแต่เล็กจนโตครับ” “โอ้ว…” นกยูงไม่พูดอะไรอีกได้แต่เดินตามหลังนาวินและยืนมือกอดอกก้นพิงขอบโต๊ะ มองชายหนุ่มจัดของเข้าตู้เย็นอย่างใจเย็นและดูมีระเบียบกว่าเธอหลายเท่านัก หากไม่ชินคงไม่ชำนาญ!              
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม