“ที่พี่มารับพลอยใสวันนี้พี่มีเรื่องจะคุยกับพลอยใสด้วย?”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นทันทีที่พลอยใสขึ้นรถมา
“เรื่องอะไรค่ะ?”
พลอยใสเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา…
“คือว่า….พี่ว่าพลอยใสควรกลับไปอยู่บ้าน…เข้าใจว่าเราคือพี่น้องกัน…แต่พลอยใสก็รู้อยู่แก่ใจว่าเราไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ พี่รู้สึกอีดอัดที่เรามาอยู่ด้วย…เพราะพี่เป็นผู้ชาย….หวังว่าเธอจะเข้าใจพี่นะ…พลอยใส…..พี่จะขับรถพาไปส่งที่บ้าน…”
น้ำเสียงเคร่งขรึมของเขาแฝงร่องรอยความอัดอั้นทำให้เธอเกิดความรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที รอยยิ้มดีใจเมื่อสักครู่มลายหายไปสิ้น หญิงสาวระบายลมหายใจออกมาเบาๆ กลั้นความรู้สึกอยากร้องไห้เอาไว้
“ได้ค่ะ…ถ้ามันทำให้พี่ติณห์สบายใจ…พลอยใสจะกลับบ้านค่ะ”
หญิงสาวเก็บความรู้สึกเอาไว้ข้างใน น้ำเสียงที่เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ ไม่แสดงอาการใดๆ ให้เขาต้องขุ่นมัว
ติณห์ถอนหายใจเบาๆ ออกมาด้วยความโล่งอก…ที่พลอยใสไม่งอแงและดื้อร้นเหมือนทุกครั้ง เธอเงียบกริบ เงียบจนเขาเริ่มจะแปลกใจ
“คราวนี้ทำไม..ยอมง่ายๆ ล่ะ”
ชายหนุ่มหันมายิ้มให้เธอเล็กน้อย เพราะใจลึกๆ ก็แคร์ความรู้สึกเธออยู่เหมือนกัน
“พลอยใส…ก็คิดแบบนั้นค่ะ..รู้สึกว่าไปรบกวน และยุ่งวุ่นวายกับพี่ติณห์มากเกินไปจริงๆ พลอยใสก็ควรจะรู้อยู่แก่ใจว่าพี่ติณห์รักใครและมีใครอยู่แล้วในใจ…ส่งพลอยใสแค่นี้พอค่ะ…พลอยใสกลับเอง”
พูดเสร็จหญิงสาวก็เปิดประตูลงจากรถไปอย่างไว..ทิ้งให้คนที่อยู่บนรถ นั่งอึ้งนิ่งงันกับคำพูดของเธอ เขาก็ไม่รู้ว่าพลอยใสหมายความถึงเรื่องอะไรกันแน่ เขารีบเปิดประตูตามลงไปทันที
“พลอยใส จะไปใหน…กลับมาเดี๋ยวนี้พี่จะไปส่ง!”
ชายหนุ่มรีบวิ่งตามร่างบางไป ภาพตอนนี้เหมือนผู้ชายหน้าตาดีทำแฟนสาวงอนแล้วแล้ววิ่งตามงอนง้อ เขาวิ่งตามมาทันแล้วคว้าแขนหญิงสาวไว้ได้ เธอสะบัดแขนออกทันที แต่ไม่หลุดไปจากพันธนาการของเขา น้ำตาใสๆ เริ่มไหลออกมาจากนัยน์ตาที่ดื้อร้นคู่นั้น
“เป็นอะไร…วิ่งออกมาจากรถแบบนั้นอันตรายมากรู้มั้ย”
เขาตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้งออกมาเบาๆ
“จะมาสนใจพลอยใสทำไม? ….อยากผลักไสก็จะไปอยู่นี่ไง…ต่อไปพลอยใสจะไม่มาให้พี่ติณห์เห็นหน้าอีก”
“กลับขึ้นรถ…จะพาไปส่งบ้าน” เขาออกคำสั่ง!
“ไม่!พลอยใสไม่ไปกับพี่ติณห์…พลอยใสจะกลับเอง ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
ชายหนุ่มไม่ฟังเสียงลากเธอไปขึ้นรถ แต่ร่างเล็กๆ นี้ก็ยังดิ้นไม่หลุด!
“ปล่อยค่ะพี่ติณห์…ปล่อยเดี๋ยวนี้”
หญิงสาวพยายามจะออกไปจากรถให้ได้ แต่โดนร่างใหญ่กว่ารวบเข้ามาในอ้อมกอด คำปั้นเล็กๆ รัวๆ ใส่แผงอกกว้างของเขาด้วยความพยศ ชายหนุ่มโมโหจนถึงขีดสุด เลยกระชากร่างบางเข้ามาประกบจูบริมฝีปากของเขาบดขยี้รุนแรงลงไปบนริมฝีอวบอิ่มของพลอยใส…หญิงสาวหยุดชะงักด้วยความตกใจกับการกระทำของติณห์ ติณห์ยังไม่ถอนริมฝีบาง แต่เริ่มลดความรุนแรงลงมาเป็นนุ่มนวลแทน ผ่านไปสักพักถึงค่อยถอนริมฝีปากออกมา
“พี่ขอโทษ……”
น้ำใสๆ ยังคงไหลอาบแก้มของหญิงสาว ความรู้สึกหวาบหวามที่โดนเขาจูบนั้น เขาคงไม่จูบเพราะเห็นเธอเป็นคนอื่นหรอกนะ พลอยใสนิ่งเงียบไม่พูดอะไร คราวนี้ความพยศหายไปหญิงสาวนั่งเงียบกริบไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง ชายหนุ่มรีบออกรถไปส่งเธอที่บ้านทันที เขาจะให้เธอเข้าไกล้เขาไม่ได้อีกเด็ดขาด
????
บ้านเรือนหอธีรภัทรและน้ำริน
วันนี้ติณห์มาเยี่ยมหนูดาวลูกสาวของน้ำริน เพราะนานหลายเดือนแล้วที่เขายุ่งๆ แทบจะไม่ได้มาเลย
“หนูดาวคงจะดีใจที่วันนี้พ่อติณห์มาเยี่ยม….”
น้ำรินพูดขึ้นหลังจากที่ติณห์เล่นกับหนูดาวจนเหนื่อยหอบ…เธอให้พี่เลี้ยงพาหนูดาวไปอาบน้ำ
“จะจำติณห์ได้จริงๆ เหรอริน…หายไปซะหลายเดือนเลย”
ติณห์นั่งลงด้วยความเหนื่อยอ่อนมือก็หยิบผลไม้ที่น้ำรินเอามาให้เข้าปากเคี้ยวอย่างอร่อย
“ต้องรีบมีแฟนเป็นของตัวเองแล้วนะ…..หนูดาวจะได้มีเพื่อนเล่น”
เสียงอ่อนนุ่มของหญิงสาวพูดอย่างจริงจัง
“อืมมม ไม่อ่ะ ยังไม่อยากมีใคร”
ชายหนุ่มรีบปฎิเสธทันที…แต่หน้าของใครบางคนก็ลอยเข้ามา
“ติณห์….ชีวิตของเรามันต้องเดินไปข้างหน้า…เลิกยึดติดกับรินเถอะนะ…ไม่งั้นรินจะไม่สบายใจไปตลอดชีวิตแน่…เถอะนะ…เราอยากให้ตัวมีแฟนมาดูแลจริงๆ สักที!”
ชายหนุ่มนิ่งเงียบเหมือนกำลังคิดตรึกตรอง เพราะตอนนี้หัวใจเขากำลังสับสนว้าวุ่นอย่างหนัก
“อืม! ได้….แต่เรื่องแฟนขอเวลาสักพักเถอะนะ ยังหาไม่ได้เลย!!”
“น้องพลอยใสไง…น้องเค้าออกจะน่ารักนะ….รินรู้ว่าน้องเค้าไม่ได้คิดกับตัวแบบพี่ชาย อีกอย่างเหมาะสมกับติณห์มาก เรือล่มในหนองเลยนะนั่น!!”
“ดื้อไป!!”
เขาตอบปัดแต่อมยิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงพลอยใส ตั้งแต่เรื่องวันนั้นพลอยใสก็หายไปเลย ไม่โทร ไม่แชท ไม่มาหาด้วย นี่คงโกรธเขาจริงจังแน่นอน…ก็สมควรจะโกรธก็โดนเขาขโมยจูบซะขนาดนั้น จะไปง้อก็ไม่กล้าเลยตัดใจเงียบดีกว่า แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เรื่องวันนั้นก็รบกวนจิตใจเขาอยู่ตลอดเวลา…
“อึ้งขนาดนี้…คิดถึงน้องพลอยใสอยู่สิท่า!…”
น้ำรินเหมือนมานั่งอยู่ในใจเขา…ก้ไม่แปลกที่เธอรู้ เขาเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องอยู่แล้ว…ยกเว้นเรื่องที่จูบวันนั้น
“เป็นแม่สื่อทั้งแต่เมื่อไหร่แล้วหืมมม…”
เสียงทุ้มนั้นเอ่ยว่าเธอขึ้นมาแต่ไม่ยอมสบตาเธอแม้แต่นิด
“ได้ข่าวว่าน้องพลอยใสโดนจับให้หมั้นหมายกับน้องชายเพื่อนของพี่ธีร์ด้วยนะ…ได้ข่าวบ้างมั้ย?”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ก็เห็นพี่ธีร์บอกรินเมื่อวาน ว่าพลอยใสน้องสาวติณห์กำลังจะหมั้นกับน้องชายเพื่อนพี่ธีร์ นี่รินนึกว่าติณห์จะรู้เรื่องแล้วเสียอีก!”
“เหรอ? เออๆ รินเรากลับบ้านก่อนนะ พอดีนึกได้ว่ามีธุระ!”
เขารู้สึกหงุดหงิดกับข่าวนี้ขึ้นมาทันที ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นเรื่องที่ดีถ้ามีใครสักคนเอายัยตัวแสบออกไปจากชีวิตเขาได้…แต่ทำไมความรู้สึกเขาตอนนี้กลับไม่พอใจเป็นอย่างมาก
‘เราต้องไปถามพลอยใสให้รู้เรื่อง…ทำไมไม่มาบอกไม่มาเล่า…หรือเต็มใจที่จะแต่งงานกับคนอื่นแล้วจริงๆ หึ่ม!!’
“ออๆ เครๆ บายๆ”
น้ำรินหัวเราะเบาๆ เมื่อลับหลังติณห์
‘คราวนี้หวังว่าตัวจะรู้หัวใจตัวเองสักทีนะติณห์….รินสงสารพลอยใส…’
????
รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่
“ปวดท้องอีกเหรอริน…ทำไมยังไม่ลุกจากที่นอนหืมม ไม่ไปทำงานเหรอจ้ะ?”
ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วงที่เห็นน้ำรินยังนอนอยู่บนเตียงไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมา
“เปล่าค่ะ…แค่รู้สึกไม่สบายนิดหน่อย..”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใบหน้าขาวซีดนั้นยังคงแฝงไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ปะ..ลุกไปอาบน้ำ เดี๋ยวพี่พาไปหาหมอ…”
ธีรภัทรไปนั่งข้างๆ แล้วประคองหญิงสาวขึ้นมาให้ลุกขึ้น
“ไม่ต้องหรอกค่ะ…..แค่แพ้ท้องน่ะ!”
น้ำรินเฉลยออกมาด้วยรอยยิ้มที่ฉายบนใบหน้า
“อะ…อะไรนะ…นี่รินท้องหรอ?”
“ใช่ค่ะ….จะสามเดือนแล้ว”
“พะ…พี่จะได้ลูกอีกแล้วหรือนี่..น้ำยาของพี่ดีจริงๆ ..ตะ..ต้องโทรไปบอกคุณพ่อแล้วล่ะ…จะได้เลิกบ่นว่าพี่ไม่มีปัญญาทำลูกคนที่สองสักที อ่าๆๆๆ”
ธีรภัทรหัวเราะลั่นออกมาด้วยความดีใจและลุกลี้ลุกลนสุดๆ เมื่อสมหวังที่จะได้ลูกคนที่2 ที่เขาอุตส่าห์ปั้มมาทั้งหลายเดือนในที่สุดก็สำเร็จสักที ชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมอกด้วยความสุขล้น
??????