Chapter 10 แผนลวงผู้ชายเจ้าเล่ห์

1276 คำ
แพรนรีลุกขึ้นยืน ยืดตัวเชิดคอให้ดูสง่า ขยับขาก้าวออกไปจากห้องรับรองเมื่อเห็นชายหนุ่มที่พาเธอมา เดินเข้ามาพอดี เธอไม่อยากเสียมารยาทให้คนจ้างงานรอ “เชิญครับ คุณฮาริสรอคุณอยู่” ราฟฟ์บอกและผายมือเชิญหญิงสาว แพรนรีขยับตัวลุกขึ้นยืน โค้งเล็กน้อยและกล่าวคำขอบคุณเบาๆ “ขอบคุณค่ะ” แพรนรีเพิ่งได้รู้จักชื่อของเจ้านายในค่ำคืนนี้ เธอเดินตามราฟฟ์เข้าไปข้างใน จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงนุ่มที่ดังมาจากบนเวที แต่ยังไม่เห็นตัวคนพูด บนเวที... “ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่ให้เกียรติเรา...ขอทุกท่านมีความสุขกับงาน Thank you party” สิ้นประโยคของชายหนุ่มบนเวที ก็มีเสียงปรบมือดังลั่น จังหวะเดียวกันกับประตูห้องจัดเลี้ยงถูกเปิดกว้างราวกับตั้งใจจัดฉาก หญิงสาวที่ยืนประหม่าอยู่หน้าประตู ลำแสงสีนวลจับภาพของเธอเอาไว้ ห้องโถงสูงหรูหรา แขกนับร้อยที่เธอประมาณด้วยสายตาทำให้หญิงสาวประหม่า ยังดีที่มีราฟฟ์อยู่ข้างหลังให้เธอได้อุ่นใจ แสงสปอร์ตไลต์ฉายสว่างวาบ แสงสีนวลค่อยๆ ซูมเข้าไปหาโฟกัสที่เด่นสง่า ทุกสายตามองตามแสงสว่างวงกลมที่ซูมรับร่างโปร่งระหงสีทอง แสงสีส้มยิ่งขับผิวผ่องให้ดูเด่นสง่า สายตาของคนหน้าเวทีจับจ้องอยู่ที่จุดศูนย์กลางโฟกัสไม่วางตา ริมฝีปากหยักยกขึ้นน้อยๆ อย่างพอใจ รอยยิ้มที่เขาไม่รู้ตัวว่าเผลอหลุดออกมา เจ้าของร่างอ้อนแอ้นกระชากหัวใจและเรียกร้อยยิ้มได้อย่างง่ายดาย ความประหม่าทำให้คนยืนมองไม่เห็นคนที่อยู่รอบๆ เธอไม่รู้ว่ามีใครอยู่ตรงนี้บ้าง เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร เหมือนแมวน้อยที่กำลังหลงเข้าไปในป่า ทุกคนที่ยืนอยู่สามารถจับอาการสั่นประหม่าของเธอได้เป็นอย่างดี รองเท้าสีทองส้นเข็มสีทองสูงเกือบสี่นิ้วช่วยให้หญิงสาวร่างสง่ามากขึ้น ผู้หญิงเอเชียที่ต้องแวดล้อมด้วยชาวยุโรปทั้งงานทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาตั้งแต่เข้างานอย่างที่มาดามเรนนี่บอก ทุกสายจับจ้องอยู่ที่เธอ แพรนรีข่มกลั้นความเขินประหม่าเอาไว้ข้างใน เผยอยิ้มน้อยๆ เชิดคออย่างนางพญาเดินเข้างานอย่างที่มาดามเรนนี่แนะนำทุกประการ จนกระทั่งราฟฟ์หยุด แพรนรีจึงเงยหน้าขึ้น สบตากับชายหนุ่มในสูทสีเบทยืนโดดเด่นสูงสง่าอยู่กับนักธุรกิจอีกสามคนที่ยืนอยู่หน้าเวที แม้เห็นจากไกลๆ แต่เขาก็สามารถดึงความสนใจจากสาวเอเชียอย่างเธอได้ไม่ยากเย็น ตอนนี้หัวใจของแพรนรีกำลังสั่นไหว จุดเป้าหมายที่ชายหนุ่มผมทองพาเธอก้าวเข้าไปยิ่งทำให้หัวใจของหญิงสาวระทึก เดาว่าเจ้านายของเธอต้องเป็นชายหนึ่งในสี่ของชายที่ยืนอยู่ แพรนรีลุ้นว่าคนไหนคือฮาริส... หวังว่าจะไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น ความตื่นเต้นทำให้แพรนรีลืมแม้กระทั่งชื่อของคนที่มาดามเรนนี่บอกให้ถอยห่างที่สุด แต่ชะตากรรมทำให้เธอต้องเข้าใกล้เขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ราฟฟ์โค้งให้ชายหนุ่มคนเป็นนาย แพรนรีตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดๆ ผู้ชายคนเดียวที่ได้จูบแรกของเธอไป แต่เธอก็ต้องรีบเก็บอาการประหม่าเอาไว้ให้มิด เจ้าของใบหน้าคมสูงเกือบสองเมตรในสูทสีเบจยิ้มตรงมุมปากน้อยๆ อย่างพอใจเมื่อเห็นอาการเหวอเล็กๆ ของหญิงสาว ชายหนุ่มก้าวเข้ามาหาหญิงสาว ยกมือขึ้นรับเธอพร้อมกับส่งสายตาบอกให้เธอยื่นมือมาให้เขา เชื่อแน่ว่าราฟฟ์แจ้งรายละเอียดเอาไว้ตามที่เขาสั่งอย่างไม่บิดพลิ้ว หญิงสาวยื่นมือไปให้เขาอย่างจำยอม นึกถึงคำพูดของชายหนุ่มผมทองที่พาเธอมา ตอนแรกที่รับงานเธอคิดว่าเจ้านายของเธอเป็นนักธุรกิจมีอายุที่เธอต้องดูแลใกล้ชิดเสียอีก และไม่คิดว่าโลกจะกลมถึงขนาดนี้ คนที่เธอต้องถอยห่าง กลับยิ่งต้องเข้าใกล้เหมือนพระเจ้าจงใจแกล้ง ฮาริสใช้นิ้วมือไล้หลังมือนุ่มของเธอเบาๆ ยกขึ้นมาจุมพิตแผ่วหวาน ก่อนที่จะเงยหน้าแนะนำเธอให้กับสามหนุ่มที่ยืนมองอยู่ข้างๆ “คุณแพรนรี รัตนากร ว่าที่ดอกเตอร์สาวสวยด้านเศรษฐศาสตร์การเงินจากเมืองไทย สาวน้อยที่ทำให้หัวใจของฉันหยุดเต้น” ฮาริสบอกเสียงนุ่ม มองหญิงสาวยั่วๆ แพรนรีเงยหน้ามองหน้าเขาทันที ทุกประโยคที่หลุดออกมาจากปากของเขาล้วนสร้างความประหลาดใจให้เธอ เขารู้เรื่องของเธอถูกต้องทุกข้อมูล เธอกำลังจะจบการศึกษาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทว่าหญิงสาวก็รู้ดีว่าเขาแกล้งบอกให้ตัวเองดูดี โดยที่ไม่มีความรู้สึกอย่างที่เขาพูดสักนิด “คนนี้ที่เป็นข่าวกับนายเมื่อสัปดาห์ก่อนหรือเปล่าฮาริส” หนึ่งในนักธุรกิจที่ยืนอยู่เย้า จากสรรพนามที่เขาใช้กับคู่สนทนา ทั้งคู่คงสนิทกันพอสมควร “ปกติไม่ควงใครออกงานอย่างนี้นี่หว่า” อีกคนเสริมเย้าๆ “หรือว่าจะมีอะไรพิเศษกว่าเดิม ฉันว่าน่าจะใช่ เล่นเปิดตัวยิ่งใหญ่กว่าเปิดงานเสียอีก” คนที่ยืนอยู่ติดฮาริสหรี่ตามองเหมือนรู้อะไรมากกว่านั้น สี่หนุ่มกำลังเย้ากันสนุก แต่จะอย่างไรก็ตามแต่ เธอก็เป็นคนนอกและเป็นสุภาพสตรี แพรนรีไม่ค่อยชอบใจสายตาของพวกเขา ถ้าเธอไม่คิดมากไปเอง พวกเขาเหล่านั้นมองเธอไม่คอยดีสักเท่าไรนัก “พวกนายอย่าเสียมารยาทน่า...แฟนฉันตกใจหมดแล้ว” ฮาริสบอก พวกเขาเป็นคู่ค้าแม้ไม่ใช่เพื่อนสนิท แต่หนุ่มโสดเหมือนกันก็เที่ยวด้วยกันบ่อยจนเหมือนเพื่อน คำว่า “แฟน” หลุดออกมาจากปากของฮาริสเรียกสายตาทุกคู่ให้หันกลับไปมองเขา แพรนรีตกตะลึงและไม่เชื่อหูตัวเอง เธอไม่รู้จักเขาเสียด้วยซ้ำ เขาชักผยองเรียกเธอเป็นแฟนโดยไม่คิดจะถามสักคำ สามหนุ่มคู่ค้านักธุรกิจของเขามองหน้าหญิงสาวอย่างจดจำระคนแปลกใจ อีกหนึ่งหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาสมทบอย่างแมทริวมาทันได้ยินพอดี เขายิ่งแปลกใจหนัก ฮาริสไม่เคยหลุดปากเรียกใครว่าแฟน ตลอดสามสิบห้าปีในชีวิต เพลย์บอยอย่างฮาริสไม่เคยควงใครนานเกินหนึ่งเดือน แม้กระทั่งสาวไทยนางนั้นที่เขาเกือบจะหยุดเขาได้อย่างลียาที่บอกว่าท้องกับเขา ฮาริสรู้ว่าหญิงสาวกำลังไม่พอใจอย่างหนัก ริมฝีปากหยักของเขาหยัดยิ้มน้อยๆ อย่างพอใจ ยกแขนโอบเอวหญิงสาวเอาไว้ พร้อมกับก้มลงกระซิบข้างหูขู่หญิงสาวเบาๆ จากรายงานแบบละเอียดที่เขามีทำให้ประเมินออกว่าสาวเจ้าต้องพยศ เขาต้องดักทางเอาไว้ทุกทาง เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรล้อเล่นกับผู้ชายที่ชื่อว่าฮาริส “เธอคงอ่านข้อตกลงละเอียดแล้วนะ ถ้างานไม่จบ เธอต้องจ่ายค่าเสียหายให้ฉันคืนสามเท่า” เขาบอกดักทาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม