ตอนที่ 15
หล่อนยอมพูดคำว่าหนูแทนคำดิฉันซึ่งเขาไม่ชอบ เพื่อตามใจเขา
“ก็ได้ แต่ฉันไม่รู้ว่า ถึงเป็นวันหยุดอย่างนี้ แม่ของเธอจะต้องมาทำงานด้วยหรือเปล่าเพราะไม่ได้ทำงานแบบรายเดือน”เขารู้ดีว่างานที่ดาววลัยทำนั้นน่าจะเป็นแบบลูกจ้างรายวัน ช่อดมิสาเลยคิดตาม
“นั่นสิคะขอบคุณที่คุณบอกและรอบคอบค่ะ”
หล่อนชมเขาแต่ใบหน้าของอภิวานต์ขรึมเขาเป็นคนไม่ยิ้ม ช่อดมิสาเลยไม่เข้าใจความรู้สึกแท้จริงของเขา แล้วหนุ่มใหญ่หล่อเหลาก็เอ่ย
“แต่ก็ต้องลองไปดูก่อนถึงจะรู้” หันขยับตามายังสาวสวย จ้องมองด้วยแววตาที่อาบเสน่ห์ พิศวาสยังไม่จางหาย เขากระทำลงไม่ได้ ด้วยข้อห้ามส่วนตัวของสาวสวย ที่หล่อนไม่พร้อมเอาเสียเลย
ที่จะดำเนินไปในเส้นทางฉิมพลีร่วมกับเขาไอ้ปัญหาส่วนตัวของหล่อนนี่ล่ะ ทำเอาเขาจุกไปเลย
“ถ้างั้นเอายังงี้สิตอนนี้ถ้าเธอจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้รักฉันมากๆ กอดฉันไว้สิ ช่อดมิสา แล้วกอดฉันไว้แรงๆ กอดเอาไว้ด้วยความรู้สึก ที่เธอคิดว่า เธอจะต้องรักฉันออกมาจากใจจริง ด้วยความบริสุทธิ์ ที่เธอคิดว่า สักวันหนึ่งข้างหน้าฉันก็จะเป็นผัว ที่ต้องนอนด้วยกัน”
ช่อดมิสาอึ้งในคำพูดของเขาหล่อนกล้ำกลืนในความรู้สึกแต่ก็ยอมสนองตอบด้วยเอื้อมมือเรียวกอดเขาอย่างแรง นี่คือการฝึกเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยชินแบบวิธีการเจ้าเล่ห์ของเขาหรือเปล่านี่แต่ถึงอย่างไรช่อดมิสาก็หลงกลเข้าแล้วล่ะ
หม่อมราชวงศ์เคนธิศทวิปริยางค์สกุลถามเอากับสกุลวัลย์ผู้เป็นน้องสาวว่าเพื่อนนักเรียนหญิงในชั้นเรียนมัธยมที่หน้าตาน่ารักแต่แววตาดูคล้ายอมเศร้าแต่น่าค้นหาและน่าสงสาร
ชอบตรงที่แววตาดูเหม่อเลื่อนลอยเป็นธรรมชาติ ไม่ได้แสร้งแต่งจริตเหมือนสาวสังคมหลายคนที่หนุ่มหล่อเชื้อพระวงศ์ตระกูลนี้เคยรับรู้มา
สกุลวัลย์หรือเบญ่าเพื่อนสาวของนักเรียนสาวมัธยม ผู้นั้นก็เอ่ยบอกว่า
“ทำไมคะพี่ชายสนใจเพื่อนของเบญ่าหรือไงคะ เพื่อนคนนี้เธอมีชื่อว่าสาค่ะ ชื่อจริงว่า ช่อดมิสา”
“อื้อ ชื่อเพราะ” พี่ชายผู้สูงศักดิ์กล่าวชมเชย
“ว่าแต่พักอยู่กับใครล่ะ ในครอบครัวหรือเปล่า”
พี่ชายช่างถาม และเขานึกสนใจใคร่รู้
สกุลวัลย์ครุ่นคิดคล้ายกับไม่แน่ใจเพราะเรื่องราวส่วนตัวเพื่อนคนนี้ ก็ไม่ได้เล่าให้ฟังมากมาย
“เอดูเหมือนจะเปล่านะคะยัยสาเพื่อนหนูคนนี้มีผู้ปกครองดูเหมือนเขาจะอยู่กับคนที่มีอายุแล้วประมาณ คุณยาย แต่ ยัยสาเรียกว่า คุณท่าน”
ผู้เป็นพี่ชายรับรู้และบันทึกลงในสมองด้วยประกายตาที่เขาหมายมาดในความคิดถึงเจืออยู่เพราะรูปร่างอ้อนแอ้นอรชรอ่อนหวานประทับใจเมื่อมองเห็นภาพในเวลาที่เขานั้น มารับน้องสาวกลับเข้าสู่วัง รมเยศไพศาล ตำหนักปลายเนินภูตะวันดาวใจกลางกรุงเทพบริเวณเทเวศร์พระตำหนักหรูนั้นเบื้องหลังนั้นชิดติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
ทูลหม่อมย่าหม่อมเจ้ารัตนมณีเป็นเจ้าของครอบครองได้รับสืบทอดมาจากพระสวามีพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขัตติยเดช ทวิปริยางค์สกุล ท่านมีหม่อนหลายคน แต่ทุกคนก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี
จากนั้นเสียงเครื่องมือถือดังขึ้นหนุ่มหล่อในชุดแต่งกายทันสมัย เนี้ยบจากศรีษะจรดปลายเท้า ยกเครื่องทาบใบหูพร้อมคุย
“ย่าเองนะชาย หาธุระมาคุยกับย่าหน่อยสิ ย่าอยากจะคุยด้วย มันเหงาปากมาหลายวัน ก็แหม ชายของย่า มัวแต่ไปหลงสาวๆ จนลืมย่า”
หนุ่มตระกูลชั้นสูง พยักหน้ายิ้มให้
“สักประมาณยี่สิบนาทีนะครับหม่อมย่าชายจะแวะไปหา” เขาตอบรับท่าน
“ดีจริง พ่อคุณของย่า อย่าให้ย่าดีใจฝ่ายเดียวนะ”
“โธ่ท่านย่าเล็กเคยมีนิสัยเป็นเด็กเลี้ยงแกะที่ไหนล่ะครับ โดยเฉพาะกับทูลหม่อมย่า เล็กรักสุดใจเลยฮะ”
หม่อมเจ้าหญิงรัตมณีรับฟังหลานชายด้วยอารมณ์หมั่นไส้
“หือชายกำนัลยาหอมให้ย่าแต่หัวค่ำเลยนะจ้ะย่า ก็คิดอย่างนั้น จะรอ แล้วมานี่ จะมานอนค้างกับย่าไหมล่ะ”
หลานชายหนุ่มหล่อทำท่าครุ่นคิดขมวดคิ้วเรียวเข้มดกดำนั่น ก่อนตอบ
“ชาย ขอคิดก่อนนะครับ คิดไว้ว่า คืนนี้จะไปค้างที่คอนโดมากกว่า ท่านย่าคงผิดหวังแล้วล่ะครับ”
เขาตอบท่านย่าพอหอมปากหอมคอ
“ใช่ซีพวกสาวๆนะน่าสนใจกว่าย่าที่ผิวหนังย่นเหี่ยว ฮึ ”
ท่านย่าผู้สูงศักดิ์อย่างหม่อมเจ้าหญิงรัตนมณี ทำท่างอนหลานชายเลยเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องปลอบตอบ
“แหมท่านย่ายังไงเสียชายก็มีท่านย่าคนเดียว ที่รักสุดดวงใจ อยู่เต็มกระหม่อมเลยล่ะครับรักท่านย่ามากเหลือเกิน ในฐานะ ที่ท่านย่าเป็นพระมารดาของท่านพ่อ”
“ย่ะ พ่อชายเคนธิศแหม้ ปากหวานเหมือนชายใหญ่ ไม่แพ้กันเลย นี่แหละน๊า เขาถึงเรียกว่า ลูกไม้มันมักจะหล่นไม่ไกลต้น”
แล้วท่านก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยอารมณ์ชอบใจ
แต่คิดไปคิดมาอีกทีอดหมั่นไส้หลานชายไม่ได้เลยเอ่ยอีกครั้ง
“แล้วแม่สุชาวดีที่ชายเล็กเข้าไปพัวพันล่ะตอนนี้เป็นไงบ้าง ผู้หญิงคนนี้ประวัติข่าวคราวไม่ค่อยดีนะ ย่ารู้จากคนเขาบอก แล้วไม่ต้องเที่ยวถามหรอกนะ ว่าย่ารู้จากใคร ”
อีกยี่สิบนาทีต่อมา ที่วังรมเยศไพศาล คุณชายเล็กนัดดาที่แสนโปรดปรานมาปรากฏกายต่อหน้าหม่อมเจ้าหญิงรัตนมณี หรือท่านย่าในเวลาดังกล่าวเป๊ะ
และใช้เวลาหารือปรึกษาให้ท่านย่าถามโน่นซักนี่ พอสมควรแก่เวลา หม่อมเจ้าหญิงผู้ทรงอิทธิพลแห่งวังที่อลังการและสลักเสลาทางสถาปัตยกรรมชิ้นงดงามแต่ดั้งเดิม เมื่อครั้งพระสวามียังทรงพระชนม์ชีพอยู่
หม่อมเจ้าหญิงรัตนมณีให้กำเนิดพระราชธิดาพระราชโอรสทั้งหมดสี่พระองค์ปัจจุบันก็แยกย้าย มีเหย้าเรือนจนครบเกือบหมดแล้วมีที่ยังครองเป็นโสดอยู่คือ หลานสาวคนโต หญิงเพ็ญพักตราหรือหม่อมราชวงศ์ เพ็ญพักตราชื่อเล่นหญิงจี๊ด
ท่านอาหรือท่านน้าจี๊ดของหลานๆบัดนี้ยังอยู่ที่ประเทศ สหรัฐอเมริกาอีกสามเดือนข้างหน้าถึงจะกลับกรุงเทพมหานครเป็นการถาวร หม่อมเจ้าหญิงหรือท่านย่า ของทุกคนก็รอคอยการกลับมาเมืองไทยของ หลานสาวคนนี้
เพราะปรารถนาอยากจะให้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที จึงอดเย้าแก่หลานชายไม่ได้ก่อนที่เขาจะกลับหม่อมเจ้าหญิงหรือท่านหญิงตั้งใจบอกกล่าว ให้นัดดาคนนี้รับรู้