ตอนที่ 14
“นี่คือการขออย่างสุภาพของฉันแล้วนะ ดมิสา เธอ ปฏิเสธฉันอีกหรือนี่ สาวน้อย หรือเธอคิดยังไง เธอจะหวงตัวเองเก็บไว้ให้ใครที่ฉันไม่ได้ทำตัวเป็นตาแก่เอ้อสมภารกินไก่วัด เมื่อก่อนนี้ ฉันยังอยากวัดใจตัวเธอต่างหาก ว่าพร้อมแค่ไหน ที่จะอุทิศทั้งตัวทั้งชีวิตให้แก่ฉันในฐานะอะไรหรือ ผู้หญิงเงินซื้อ ที่ตกลงซื้อขายกันอย่างถูกต้อง จากแม่ของเธอ ยัยเด็กโง่ ”
เขากระแทกเสียงและน้ำคำพิโรธใส่หล่อน
ช่อดมิสายืนนิ่งอึ้งนึกขำในใจกับตีโพยตีพายของเขาแต่หล่อนยิ้มไม่ออก เมื่อเขาตัดสินใจเหวี่ยงกระชากร่างบางระหงของหล่อน จนกระแทกล้มลงบนเตียง
แล้วกลิ้งร่างของตนเองเกลือกเข้าไปหา หล่อนไม่เข้าใจอารมณ์ของชายฉกรรจ์ผู้โชนไปด้วยกำหนัดอย่างเขา อารมณ์เช่นนี้บ่งบอกว่า เขาต้องการสั่งสอนเธอ
เขาหมั่นไส้ ในท่าที ที่เธอไม่ตอบสนอง
ทุกถ้อยคำเหมือนมันถูกกลืนหายจากหัวสมองหล่อนทุกคำชัดถ้อย แรงโมหะ ผสมกับความที่ไม่เข้าใจ และยอมรับในตัวช่อดมิสามันบีบคั้นอารมณ์ของหนุ่มใหญ่อย่างรุนแรง
“ฉันขอถามอีกทีว่าเธอจะหวงตัวไว้เพื่อใคร อ้อ หรือว่าหัวใจของเธอ จะเอาไว้รักผู้ชายคนนั้น”
อารมณ์โกรธเคืองระคนผิดหวังทำให้หนุ่มใหญ่เสียงกร้าวข่มร่างเล็ก
ที่ดูเหมือนจะเย็นชาอยู่บนเตียงนอนจากนั้นร่างระหงงามตัดสินใจเงยหน้าเอ่ย
“ใช่ คุณจะคิดยังงั้นก็ถูก ฉันจะต้องมีแน่ คนรัก คนที่ฉันเทิดทูนบูชาและเขาจะต้องเป็นคนที่เห็นฉันมีค่ากว่าคุณ”
ช่อดมิสาเผลอเถียงเขา ด้วยถ้อยคำรุนแรง กว่าจะรู้ ก็เมื่อแววตาเขียวปั้ดจากหนุ่มใหญ่รูปหล่อ บดเบียดร่างแข็งแกร่ง ขยับชิดเข้าหาตัวหล่อน ถามด้วยออกคำสั่ง
“ถอดเสื้อสิถอดออกมาเดี๋ยวนี้ฉันจะให้ไอ้ผู้ชายคนนั้นได้เดนไปจากฉันถ้าผู้หญิงหน้าโง่อย่างเธอต้องการซมซานไปหาความรักในอุดมคติของเธอที่ว่าเลอเลิศมากนัก ก็เอาซี”
พายุทางน้ำคำของเขากรากเชี่ยวเหมือนสายน้ำที่หล่อนไม่สามารถขวางได้เลยเขากำลังจะเป็นบ้าไปแล้ว และหล่อนเอาตัวเข้าไปขวางก็ยิ่งจะเจ็บตัว
“อ้อ”หันมายิ้มเยาะกับสาวสวยที่ตระหนกและเพริดไปด้วยแรงปรารถนาเพราะหล่อนคลุกเคล้าอยู่กับเขา
“เอางี้ สิ เธอถอดให้ฉัน ฉันถอดให้เธอ ปิดไฟด้วย ถ้าเธออายนัก ข้อเสนอของฉันน่าทำไหมล่ะ สาวน้อย ”
น้ำเสียงทั้งเร่งเร้าและคุกคามกำลังขยับกายละจากร่างงามเพื่อกดปิดไฟที่หัวเตียง
“อย่าคะ หนูยังไม่พร้อม คือ หนูเป็นเมนส์ ”
สาวสวยตอบอย่างตื่นกลัว เป็นเช่นนั้นจริง
ได้ยินคำตอบ เขาสบถน้ำคำอย่างหัวเสียที่สุด
“บ้า บ้าที่สุดฉันน่าจะผ่าไฟแดงเลยนะ บ้า บ้าที่สุด”
อารมณ์ของอภิวานต์กระโจนพุ่งมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทั้งหงุดหงิดทั้งเซ็ง มองร่างระหง
“ไอ้เมนส์บ้าเมนส์บอ ทำไมจะต้องมาเลือกเป็นตอนนี้ด้วย ”
อภิวานต์พูดเหมือนระบายให้ตัวเอง ช่อดมิสาจะทำอย่างไร อึ้งแล้วตอบออกไป
“ก็ไม่รู้สิคะ” เหมือนระฆังช่วยสยบเขาไว้ได้ หนุ่มใหญ่ใช้สายตาเข้มสำรวจ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ถามด้วยคำยียวนและมุ่งมั่น
“แล้วเธอจะให้คำตอบของฉันเมื่อไหร่ ถามจริงเถอะ จะยอมกับฉันวันไหน ที่ไม่มีเรื่องยุ่งบ้าๆพวกนี้ เธอทำให้ฉันเหลืออดแล้วนะดมิสาผู้หญิงอย่างเธอไม่มีอำนาจมาบง การฉันมากขนาดนั้น ”
หล่อนเงียบ เขาป้อนคำถามอีก
“นี่ ฉันถาม เธอ เธอก็ต้องตอบบ้างสิ”
“อย่าลืมนะ เข้าใจไว้เสียด้วย ว่าผู้ชายแก่ๆอย่างฉัน ตัณหามันยังมี แล้วมันก็เกิด ฉันอยากจะให้มันจบลงที่เธอสาวน้อยเธอเป็นเมียฉันอย่าถืออย่าคิดว่าฉันจะใจดีเป็นพระเป็นเจ้าโดยไม่แตะต้อง”
“ค่ะ”
คำตอบพยักหน้าเงียบ แสนจะขื่นขม โพล่งตอบเขา อย่างรู้สึกกึ่งกลัวกึ่งบ้าดีเดือดในอารมณ์ที่ประชดประชัน ซึ่งหล่อนไม่ยอมให้เขาเจ็บปวดเพียงฝ่ายเดียวช่อดมิสามีเลือดเนื้อมีความเป็นคน
“เอ้อ ถ้าคุณต้องการสิ่งนั้น ได้ค่ะ เอาไว้เป็นวันเกิด อีกสามเดือนข้างหน้า หนูเกิดเดือนธันวาคม วันนั้นคุณอภิวานต์จะได้รับคำตอบสัญญาเงื่อนไขหนูจะทำตามอย่างไม่บิดพลิ้ว”เอ่ยแล้วช่อดมิสาใจหาย นั่นคือวันที่หล่อนหมดศักดิ์ศรีของผู้หญิง
“เธอสัญญากับฉันแล้วนะ”
อภิวานต์ยิ้ม พึงพอใจมากยิ่งขึ้น สวมกอดร่างบาง
“ค่ะ”
“ฉันหวังว่าผู้หญิงอย่างเธอคงจะไม่ตอแหลไม่งั้น ฉันจะลงโทษเธอให้หนักหน่วงทีเดียว ”
“ดิฉันเอ้อ หนูให้สัญญา”
พักหลังหล่อนใช้คำนี้กับเขาอภิวานต์ฟังแล้วดูแปลก ดูแข็งห่างเหินไม่อ่อนหวาน เขาหัวเราะกลั้วในลำคอ คลายความโกรธกรุ่นลงได้บ้าง และท้วงแนะนำ
“ฮื่อคำว่าหนู ฉันว่าน่าฟังออกเลิกใช้คำว่าดิฉัน เสียเถอะนะช่อดมิสา”
“ดิฉันยังไม่รับปาก” ช่อดมิสาไม่ตอบตกลง
“อ้าวแล้วทำไมล่ะ” เมื่อเขาถามหล่อนกลับปฏิเสธ
“ก็ไม่รู้ค่ะ”
“มีอย่างนี้ด้วยหรือ” เขาค่อนใส่หล่อนพูดประชดในลำคอ ช่อดมิสานึกขึ้นมาได้มีเรื่องหนึ่ง ที่กำลังนึกคิดจึงรีบพูดเพราะกลัวลืม
“คุณอภิวานต์คะเอ้อเรื่องแม่คือดิฉันขอถามหน่อย”
หัวคิ้วของหนุ่มใหญ่ขมวดมุ่นขึ้น ทวนคำ
“แม่ของเธอหรือ ก็ทำไมล่ะ ”
เมื่อเขามองจ้องมาสำรวจ ช่อดมิสาก็สารภาพ
“ดิฉันอยากจะไปพบแม่ในวันหยุดที่จะถึงนี้ค่ะ เลยจะมาขออนุญาตคุณไปหาท่าน ”
เขาแปลกใจที่ช่อดมิสาถามเรื่องนี้
“แล้วเธอรู้ที่อยู่แล้วหรือไง” หนุ่มใหญ่รูปหล่อถามเสียงเข้ม จนสาวสวยสั่นศีรษะ
“เปล่าค่ะยังไม่รู้เลยต้องมาถามเอาจากคุณนี่แหละค่ะ ช่วยบอกให้ดมิสาด้วยนะคะ”
อภิวานต์หันมาทางหล่อนพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ได้นะ เอ้อ แต่ว่าฉันขอรางวัลด้วยนะ”
“เรื่องอะไรคะ”ถามแล้วสาวน้อยเกิดความคลางแคลงเช่นกันแล้วก็โล่งอกยิ้มเมื่อได้รับคำตอบของเขา
“ขอให้เธอรักฉันมากๆ และ รักฉันให้นานๆ”
ไม่ใช่เรื่องยาก ที่ช่อดมิสาจะทำไม่ได้
“ค่ะ ดิฉันรับปาก”
“ถ้างั้นดีล่ะ เธอไม่ต้องไปหาเองหรอก มันไกลฉันจะเป็นฝ่ายพาเธอไปหาแม่เธอเอง นัดเวลาให้ฉันมา ช่อดมิสา จะเอาเวลาไหนที่เธอสะดวก”
พูดกับเขาง่ายแบบนี้ก็ดี หล่อนยิ้ม
“ขอบพระคุณมากค่ะ หนูอยากจะให้เป็นช่วงสายๆของวันหยุด”