ความเดิม- "ได้ค่า" มานิดารับคำด้วยน้ำเสียงสดใสแล้วลุกไปที่เตาย่างไก่ทันทีเช่นกัน (ของถนัด)
.......................................
หลังจากรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จธันทรชักชวนทั้งสองสาวต่างวัยเดินสำรวจตลาดไปด้วยและได้ข้าวของอาหารและขนมติดไม้ติดมือมาด้วยพอประมาณ
"อะ..ให้ เอาไว้กินที่หอ กลางคืนออกไปข้างนอกไม่ได้นะ" ธันทรเอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับยื่นของกินในมือไปตรงหน้าหญิงสาว
"รับไว้เถอะน้องนาง เอาไว้กินเวลาหิว" มาลีเอ่ยสำทับ
"ค่ะ ขอบคุณค่ะ" มานิดายกมือกระพุ่มไหว้คนตรงหน้าแล้วรับของกินในมือมาถือไว้
"ผมไปก่อนนะ พี่น้ำ จะไปเตรียมเอกสารการสอนสักหน่อย" ธันทรเอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับหมุนตัวกลับแล้วเดินจากไปด้วยใบหน้ายกยิ้มแต่ไม่มีใครเห็น
ด้านมาลีพยาบาลอาวุโสเมื่อเห็นว่าคุณหมอหนุ่มเดินไปไกลแล้วจึงหันมาคุยกับมานิดาบ้าง
"นี่น้องนางโชคดีมากเลยนะที่อาจารย์หมอธันเค้าเมตตาน่ะ ปกติแกไม่เคยสุงสิงกับใครนะ" มาลีเอ่ยกระซิบกระซาบคล้ายกลัวใครจะได้ยิน
"เหรอคะ" มานิดากระซิบกระซาบกลับบ้าง
"ปะ ขึ้นห้อง เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง/..มะ..พี่ช่วยถือ" มาลีเอ่ยขึ้นพร้อมกับแย่งข้าวของในมือบางส่วนจากหญิงสาวไปช่วยถือเพราะน่าจะหนักเอาการอยู่
จากนั้นมาลีได้เดินขึ้นบันไดไปส่งหญิงสาวจนถึงห้องและเข้าไปคุยกันข้างใน สักพักเมื่อเห็นว่าเป็นเวลาที่สมควรแก่การพักผ่อนของอีกคนจึงขอตัวกลับออกมา
@เช้าวันใหม่
มานิดาตื่นตั้งแต่เวลา 06.00 น. รีบอาบน้ำแต่งตัวและออกเดินออกไปที่ตึกเรียนซึ่งก็ถือว่าไกลพอประมาณสำหรับการเดินเท้าแต่เธอเลือกที่จะเดินถือเป็นการออกกำลังกายไปด้วยในตัว
-..อากาศตอนเช้าที่มันดีจริง ๆ เล๊ย..- ฟื่ด..ฮ๊า... (เสียดสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ แล้วพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างโล่งสบาย)
ปริ๊น! (เสียงแตรจากรถยนต์คันหรู)
-..ใครว๊ะ มาปีบแตรใส่ฉั๊นทำไมเนี่ย ฉันไม่ได้เดินขวางทางสักหน่อย จะบ้ารึไง..- มานิดาได้แต่บ่นพึมพำเบา ๆ คนเดียวแล้วหันไปมองรถคันดังกล่าวเป็นจังหวะพอดีที่เจ้าของรถตบไฟเลี้ยวและลดกระจกลงมา
"ขึ้นมาซินักศึกษาใหม่ กว่าจะถึงตึกเรียนก็ไกลอยู่นะ ขึ้นมาเร็วจะไปส่งที่ตึก" เป็นธันทรที่เอ่ยขึ้นพร้อมกับปลดล็อคให้
"เอ่อ...ค่ะ..ขอบคุณค่ะ" มานิดาอึก ๆ อัก ๆ มองซ้ายมองขวาหาตัวช่วยแต่ก็ไม่เห็นใครจึงจำใจต้องเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างคนขับด้วยความจำยอมพลางนึกในใจ *ถ้าเจอหมอชีกอจะทำไงดีว๊ะ! ไม่น่าใจอ่อนขึ้นมาเล๊ย..เกรงใจเขาเราลำบาก* เฮ๊อ.. แต่เผลอถอนหายใจออกมาจริง
"เป็นอะไรนักศึกษา เหนื่อยเหรอ เดินมาจากหอพักเลยเหรอเนี่ยไกลนะนั่น" ธันทรเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่พอจะเดาออกว่าคนตัวเล็กคิดยังไง ใช่ถ้าเป็นคนอื่นอาจไม่แน่ แต่สำหรับเขาแล้ว เขาไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ยิ่งเป็นลูกศิษย์ด้วยแล้วยิ่งไม่สมควรและนั่นคือกฎเหล็กของเขาเสียด้วย
"อ๋อ นิดหน่อยค่ะ พอดีเดินออกมามันเป็นการวอร์มร่างกายพอขึ้นรถมาเจอแอร์เย็น ๆ ร่างกายมันปรับไม่ทันมั๊งคะ ก็เลยต้องถอนหายใจเคลียร์ปอดสักหน่อย.." มานิดาเอ่ยตะกุกตะกัก
คุณหมอหนุ่มนึกขำระคนทึ่งกับการแก้ตัวได้น้ำขุ่น ๆ ของคนตัวเล็ก จากนั้นเขาได้ขับรถมาเรื่อย ๆ พบร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง และไก่ทอดดูน่ากินจึงเอ่ยถามคนข้าง ๆ
"กินข้าวเหนียวหมูปิ้งมั๊ย มีหลายอย่างเลยนะนั่น กินอาหารเช้าหรือยัง อยากกินอันไหนลงไปหยิบเลยเดี๋ยวอาจารย์จ่ายตังค์ให้" ธันทรเอ่ยขึ้นและหันไปมองหญิงสาวเพียงครู่
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินข้าวเหนียวแล้วง่วงนอน ว่าจะไปซื้อข้าวราดแกงที่โรงอาหารกินก่อนขึ้นเรียนกีกว่าค่ะ แฮร่.." หญิงสาวปฏิเสธอย่างละมุนละม่อม
"เอางั้นเหรอ ได้ เดี๋ยวอาจารย์ไปกินด้วย ยังมีเวลาเหลือเฟือเลย" ธันทรกล่าวหน้าตาเฉย {เอาซิปฏิเสธได้ปฏิเสธไป} ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจอย่างนึกสนุกที่ได้แกล้งคนตัวเล็ก
"......." มานิดานิ่งเงียบ ได้แต่ยกมือขึ้นมาเกาศีรษะอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี {ที่กุพูดไปทั้งหมดยังไม่เข้าใจอีกเหรอว๊า..งานการไม่มีทำหรือไงอิอาจารย์หมอบ้า..เอ้ย} มานิดาได้แต่บ่นคนที่นั่งข้าง ๆ ในใจ
หึหึ (เสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่นั่งหลังพวงมาลัย)
@โรงอาหารคณะแพทย์ศาสตร์
ธันทรเดินเลือกอาหารแล้วมานั่งลงข้าง ๆ คนตัวเล็ก
"ชอบกินแกงจืดเหรอ เหมือนอาจารย์เลย แต่ไม่ชอบใส่หมูสับ"
"ก็ดูเบา ๆ ดีสำหรับมื้อเช้าค่ะ ความจริงชอบข้าวต้มมากกว่า พี่นพชอบทำข้าวต้มให้กินทุกเช้าเลย" มานิดาเผลอตอบไปตามความคิด
"ใครเหรอ แฟน?"
"พี่นพน่ะเหรอคะ เป็นพี่ชายค่ะทำข้าวต้มอร่อยอย่างงี้เลยค่ะ แต่ไม่ค่อยมีเวลาทำให้เพราะต้องไปเป็นพยาบาลพิเศษ คือ..ไปพักบ้านคนไข้เลยอะค่ะ หนูก็เลยต้องอยู่หอพักไปเรื่อย ๆ จนกว่าพี่นพจะหมดสัญญากับทางโน้นละค่ะ"
"อ้าวพี่ชายเราไม่สังกัดโรงพยาบาลเหรอ"
"ลาออกจากงานออกมาเต็มตัวค่ะ เพราะทางโน้นจ่ายหนักมาก แถมมีโบนัสพิเศษให้เห็นพี่บอกว่าเป็นแสนเลยนะคะถ้าคนไข้กลับมาใช้ชีวิตปกติได้" มานิดาเล่าอย่างไม่ปิดบัง
"อืม..ได้ข่าวว่าเราได้ทุนเหรอเรียนดีเหรอ"
"ค่ะ ต้องตั้งใจน่ะค่ะ อยากช่วยแบ่งเบาภาระพี่นพบ้าง ถ้าเรียนจบหนูจะเหมาเวรเลยค่ะ อยากหาตังค์ได้เยอะ ๆ ไว้ดูแลตัวเองแล้วก็พี่นพน่ะค่ะ แฮร่..หนูอิ่มแล้ว ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ ขออนุญาตไปเตรียมตัวขึ้นเรียนก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" มานิดาพูดอย่างรวบรัดตัดตอนแล้วรีบสับเท้าออกไปจากโรงอาหารอย่างรีบ ๆ อยู่ในที
{หนีได้หนีไปยัยตัวเล็กเรืองแสงเอ้ย} ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ