6.ความรู้สึก

1027 คำ
ความเดิม- "ค่ะ ต้องตั้งใจน่ะค่ะ อยากช่วยแบ่งเบาภาระพี่นพบ้าง ถ้าเรียนจบหนูจะเหมาเวรเลยค่ะ อยากหาตังค์ได้เยอะ ๆ ไว้ดูแลตัวเองแล้วก็พี่นพน่ะค่ะ แฮร่..หนูอิ่มแล้ว ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ ขออนุญาตไปเตรียมตัวขึ้นเรียนก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" มานิดาพูดอย่างรวบรัดตัดตอนแล้วรีบสับเท้าออกไปจากโรงอาหารอย่างรีบ ๆ อยู่ในที {หนีได้หนีไปยัยตัวเล็กเรืองแสงเอ้ย} ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ .............................. ธันทรกลับมาถึงห้องพักของตัวเองแล้วนั่งเตรียมการสอนไปเรื่อย ๆ สักพักที่โทรศัพท์มือถือก็ปรากฎเตือนข้อความใหม่ ชายหนุ่มจึงเข้าไปเปิดอ่านดู ปกรณ์: ขอบคุณนะที่ช่วยรับปรึกษาเคสให้ ครอบครัวเฝ้าฝากบอกมา ธันทร: ยินดีครับเพื่อน หลังจากนั้นเขาได้ปิดแอพพลิเคชั่นนั้นแล้ววางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะทำงานเช่นเดิม เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาสอนแล้วจึงเดินออกไปยังห้องเรียนทันที่ แต่ในระหว่างทางเดินเขามองไปที่หน้าต่างพบว่านักศึกษาแพทย์กำลังเดินกันเป็นกลุ่มใหญ่ น่าจะเปลี่ยนชั่วโมงเรียนและบังเอิญว่าเห็นคนที่พยายามจะหนีเขาในตอนเช้านี้เอง ชายหนุ่มได้แต่ยกยิ้มมุมปาก และเดินไปยังห้องสอนอย่างไม่เร่งรีบเพราะเขาเผื่อเวลาเอาไว้แล้วประมาณ 15 นาที ธันทรพาร์ท {ผมนั่งอ่านเอกสารประกอบการรักษาเคสอยู่อย่างไม่ค่อยมีสมาธิ ในหัวของผมมีแต่ภาพของเด็กผู้หญิงคนนั้น ผมพยายายามจะไม่สนใจเด็กนั่น แต่ภาพวันนั้น ภาพเด็กผู้หญิงแต่งตัวเรียบร้อยรัดกุมไม่หวือหวาหน้าตาธรรมดา ๆ จัดว่าน่ารักคนนึงที่เดินออกไปจากตรงนั้น แล้วผมก็ได้ยินเสียงวินมอร์เตอร์ไซค์ร้องเรียกเธอให้กลับมาเอารถฯ นั่นแสดงว่าเธอเดินออกไปอย่างไม่มีสติทั้ง ๆ ที่ตัวเองเอารถมอร์เตอร์ไซค์มาแท้ ๆ ยังลืมได้ คงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจน่าดู และนั่นทำให้ในทุก ๆ วันของมื้อเที่ยงของวันผมจะต้องไปยืนแอบดูนักศึกษาแพทย์ว่าเค้าทำอะไรกัน อาจารย์ปล่อยนักศึกษาสายหรือเปล่า เด็กคนนั้นจะได้กินข้าวตรงเวลามั๊ย มีใครรังแกหรือเปล่า ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าห่วงเด็กคนนั้นแบบไหน แบบผู้ปกครองที่ผู้ใหญ่พึงเมตตาต่อเด็ก แต่ก็อยากเข้าใกล้ ได้แกล้งได้แหย่ให้โกรธบ้างจะรู้สึกสนุกกระชุ่มกระเชียวหัวใจแปลก ๆ มันคืออะไรกันแน่ ผมคิดวนเวียนจนปวดหัวไปหมด จนต้องพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อจดจ่อกับเอกสารเพื่อการรักษาคนป่วยอีกครั้ง เพราะผมต้องรับเคสเหมือนกัน} ตัดมาที่มานิดา @วันหยุดสุดสัปดาห์ นักศึกษาที่อยู่หอพักส่วนใหญ่จะพากันกลับบ้านกันหมด มีเพียงมานิดาเท่านั้นที่ยังคงอยู่หอพัก และเธอเลือกที่จะอยู่ที่นี่แทนการกลับไปอยู่ที่บ้านคนเดียวเพราะอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนที่อยู่หอพักเหลืออยู่สองสามคน "เธอก็ไม่กลับบ้านเหรอ" หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ อย่างเป็นมิตร "อืม..ขี้เกียจน่ะ" มานิดาตอบยิ้ม ๆ เช่นกัน "เราชื่อมายนะ บ้านอยู่โคราชนู่น ขี้เกียจกลับเหมือนกัน" "เราชื่อนางจ้ะ..ยินดีที่ได้รู้จักนะ เคยเห็นหน้าอยู่แต่ไม่กล้าทัก เห็นยุ่ง ๆ ทำไมมาเรียนไกลจัง" มานิดาเริ่มรู้สึกชอบเพื่อนสาวคนนี้ซ๊ะแล้วซิ "ก็ที่นี่เป็นที่ที่ทุกคนอยากมาเรียนอยู่แล้ว คะแนนถึงก็มาซิ เรามันศึกษาทุนนี่เน๊าะ พ่อแม่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง" มาย หรือ รตา เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา "อืม..ใช่เราก็เหมือนกัน ไปกินข้าวด้วยกันนะ เรากำลังจะไปพอดีหิวแล้วนี่" มานิดาเอ่ยยิ้ม ๆ "ไปซิ เราก็กำลังจะไปเหมือนกัน นี่ว่าจะไปกินส้มตำแซ่บ ๆ กับข้าวเหนียวไก่ย่าง สักหน่อย" "เอาซิ อยากกินเหมือนกัน เสร็จแล้วเดินดูของใช้ด้วยเน๊าะ" "ได้เลยจ้า ไปกัน" หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของสองสาวก็เป็นไปแบบก้าวกระโดด นั่งรถมอร์เตอร์ไซค์ไปเรียนด้วยกัน เพราะที่บ้านของเธอเอารถมาให้ใช้ ส่วนมานิดาก็ได้อาศัยนั่งซ้อนท้ายจากหอพักไปที่ตึกเรียนด้วย และช่วยแชร์เรื่องค่าน้ำมันค่าซ่อมรถบ้างแบบแฟร์ ๆ อีกด้านของผู้แอบสังเกตการณ์ -..ยัยเด็กเรืองแสงคนนี้มีเพื่อนใหม่แล้วเว้ย ตัวติดกันเลยเชียวนะ หาโอกาสเข้าใกล้ไม่ได้เลย เอาไงดี..- ธันทรได้แต่พึมพำเบา ๆ คนเดียว "คุณหมอเป็นอะไรไปครับ เจอเคสยากหรือครับ มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกนะครับ เผื่อช่วยได้" คุณหมอหนุ่มเอ่ยยิ้ม ๆ เพราะเคยได้คุณหมอท่านนี้ช่วยรับปรึกษาเคสให้และรู้สึกขอบคุณมาจนถึงทุกวันนี้ "อ้อ..ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีคิดอะไรเพลิน ๆ น่ะครับ ขอตัวก่อนนะครับ" ธันทรเอ่ยยิ้ม ๆ "อ้าว..เหรอครับ เห็นทำหน้าเครียดเชียว งั้นผมไม่รบกวนเวลาแล้วครับ ตามสบายครับ" คุณหมอหนุ่มเอ่ยอย่างรู้มารยาททันทีแล้วรีบสับเท้าเดินจากไป ด้านธันทรเมื่อเห็นว่าคุณหมอหนุ่มได้ออกไปไกลแล้ว รีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็คกล้องหน้าดูว่าตัวเองหน้าเครียดจริงหรือเปล่า พลางนึกในใจ {นี่เราเครียดเรื่องยัยเด็กเรืองแสงคนนั้นจริง ๆ หรือนี่ ไม่ได้ล๊ะ ท่องไว้ ลูกศิษย์ เล่นไม่ได้ จับต้องไม่ได้ ไม่สมควร นั่นรุ่นลูกรุ่นหลานเชียวนะ} ธันทรได้แต่ท่องบ่นไว้ในใจเพราะไม่อยากให้เกิดกรณีสมภารกินไก่วัดซ๊ะเอง เพราะกลัวจะเสียภาพพจน์ที่สั่งสมมาตลอดชีวิตการเป็นอาจารย์หมอ แต่ทำไมความรู้สึกมันค่อย ๆ ถลำลึกลงไปทุกที ๆ เลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม