Chapter 22
“นี่มันม้าตัวเบ้อเริ่มนะครับ ไม่ใช่หมา... ขุดจนเป็นลมคาหลุมน่ะพอว่า มือนุ่ม ๆ แบบนี้ ผมพนันว่าเงื้อเสียมได้แค่สองทีเท่านั้นแหละ เลิก...”
ใบหน้าสดสวยมองขวับตาเขียวกับคำสบประมาท ซึ่งเป็นความจริง! อริสาถึงลุยฟาร์มม้าได้ทุกวัน แต่ลูกคุณหนูอย่างเธอไม่แตะกีฬากลางแจ้ง ไม่ต้องพูดถึงเสียม ตอนนี้เธอยังนึกหน้าตาของมันไม่ออก
“คุณอยากทำอะไรให้เจ้าสีนวลใช่ไหม? หาร้านทำป้ายหลุมศพสวย ๆ ให้มันดีกว่า ในเพจเดี๋ยวนี้เขามีให้เลือกแบบสวย ๆ ตั้งเยอะนะ... นะครับ... อริส” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เลิกคิ้วขึ้นยังทำหน้าตาน่ารักด้วยการขมวดมุมปาก ย่นจมูกเหมือนเด็กน้อย ก่อนจะถูกปลายนิ้วเรียวบิดแก้มเข้าทีหนึ่งเบา ๆ อย่างหมั่นไส้
“ก็ได้ค่ะ... แต่ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลยนะ ฉันไม่หลงคารมหมอไอหรอก”
“ไม่หลงจริงหรือจ๊ะ? งั้นพี่หมอขอจุ๊บทีได้ป่ะ... เผื่อว่าน้องอริสจะเปลี่ยนใจ” ไม่เอ่ยเปล่า วงหน้าหล่อเหลายื่นไป แตะปลายจมูกโด่งเป็นสันคมบนแก้มร้อนผ่าว กลิ่นหอมกรุ่นปานเกสรดอกไม้ส่งความเย้ายวนผ่านสัมผัสนุ่มละมุน หญิงสาวก็ลอบยิ้ม ยอมให้เขาสูดแก้มเข้าปอดอยู่สามฟอดใหญ่ ๆ ก่อนจะเบิกตากว้าง
“หมอไอ...! เหยียบค่ะ...!”
ได้ยินเท่านั้น ชายหนุ่มจำต้องละจากแก้มนุ่มอย่างเสียดาย มือคว้าพวงมาลัยทันทีที่คุณพ่อพาโทสะลูกใหญ่มาพร้อมอะไรสักอย่างในมือไกล ๆ มองเห็นไม่ถนัดนัก แต่ไม่น่าจะเป็นของดีแน่ เพราะขนาดว่ามารักษาม้าให้ เจ้าของฟาร์มยังพกปืนมาทักทาย ตามข่มขู่ได้ทุกวันแค่เขายอมรับไปตามตรงว่า...
‘ผมจีบลูกสาวคุณพ่อครับ’
บีเอ็มดับบลิวสีขาวแล่นด้วยความเร็วสูงตามคำขอ ผ่านพ้นรีสอร์ตฟาร์มกว้างขวาง เหมือนเพิ่งผ่านพ้นความตายมาหมาด ๆ คุณหมอหนุ่มไม่ได้มีท่าทีตกใจ ยังขับรถไปเรื่อย ๆ เป็นอริสาถอนหายใจหนัก
“ขอโทษนะ หมอไอ อุตส่าห์มาช่วยรักษาม้าให้ พ่อไม่เกรงใจหมอเลย พักหลัง ๆ แกชักเป็นคนแก่พูดไม่รู้เรื่อง”
ไอศูรย์ส่ายหน้าไปมา “ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมเข้าใจว่าทำไมคุณพ่อดุมาก... ลูกสาวสวยขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องหวง ขนาดผมยังหวง...”
“หมอไอ... กำลังหวงฉันเนี่ยนะคะ?” ถามด้วยสีหน้าแปลกใจเมื่อเห็นว่าหน้าตาระรื่นของเขาค่อยเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงหนัก
“หวงสิ... หนุ่มคนไหนมาอยู่ใกล้ ๆ แฟน ผมหวงทั้งนั้นแหละ ยิ่งกับไอ้...” เงียบไปทั้งน้ำเสียงและแววตาเต็มไปด้วยความริษยา
บังเอิญที่ขับรถผ่านฉากแสนหวานของสองหนุ่มสาวยืนเคียงคู่กัน ท่ามกลางความพึงพอใจของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย และก็เห็นอยู่ว่าบางคนเอาแต่ลอบมองใบหน้างามหมดจดไม่ต่างไปจากเขา ผู้ชายด้วยกันคงจะรู้...
มือหนาหยาบกุมพวงมาลัยแน่น ตามความโกรธเกรี้ยวขณะเค้นน้ำเสียงสุภาพทว่าประชดประชัน
“ก็เหมาะสมกันดีนะครับ พ่อพระเอกรูปหล่อเบ้าหน้าหมาก ปริญ พ่อคุณคงไม่เอาลูกเขยคนอื่นนอกจากนายเตชิน วิศวกรหนุ่มคนดัง ไฮโซร้านทองประจำโคราช ใช่สิ... ผมมันหมอตัวประกอบนี่นะ”
อริสาอดที่จะหัวเราะไม่ไหว ยกมือขึ้นป้องปากว่า “ที่ผ่านมาไม่เห็นจะว่าอะไร ขี้หึง ขี้น้อยใจ ขี้ประชดด้วย หัวก็ยังไม่ล้านนะ คุณหมอตัวประกอบ”
หมอตัวประกอบ! ถ้าไม่ใช่เพราะออกมาจากปากแฟนสาวที่เพิ่งตกลงยอมรับเขาต่อหน้าพ่อ ไอศูรย์คงไม่โกรธจนลืมหูลืมตาแทบไม่ขึ้น เท้าเหยียบคันเร่งแรงกว่าเดิมจนอีกคนเกิดกลัวขึ้นมา
“หมอไอ... ขับช้า ๆ หน่อยสิ”
“ทำไมเมื่อกี้บอกให้ผมเหยียบมิดล่ะครับ?”
“ฉันตกใจพ่อนี่... เกิดแกบ้าคลั่งหวงลูกสาวขึ้นมา เอาไม้กอล์ฟหลังร้านมาทุบรถหมอทำไงล่ะ? ขี้เกียจทะเลาะกับเขาด้วย” บอกไปตามตรง มือจับสายเข็มขัดนิรภัยแน่น ดวงตาวูบไหวมองทางข้างหน้า
ท้องถนนยาวสุดตาในต่างจังหวัดต่างจากถนนเนืองแน่นรถยนต์ในเมืองกรุง อารมณ์เดือดพล่านเพราะความหึงหวงทำให้คนขับพารถหรูแล่นลู่ลมไปเกือบสุดเข็มของแป้นความเร็ว ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ผ่อนคันเร่ง พอดึงสติกลับมาได้ เมื่อคนข้าง ๆ เริ่มที่จะกลัว...
เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงใจเด็ดอย่างอริสากลัว...
กระทั่งว่าในสมัยที่เขาไปเกาะติดข้างขอบสนาม ดวงตาคู่สวยประกายมาดมั่นหมายมองไปข้างหน้า มือเล็กจับกุมปืนอย่างมั่นคงช่างดึงดูดใจ จนสุดท้ายแล้วเขาก็หลงเสน่ห์เธอจนโงหัวไม่ขึ้น ทุกวันนี้ยังลืมเด็กสาวคนนั้นไม่ลงสักที
สองข้างทางธรรมชาติมีต้นไม้เขียวชอุ่มค่อย ๆ มืดสนิทลงตามเวลาใกล้พลบค่ำ ชายหนุ่มตัดสินใจหยุดรถลงช้า ๆ ริมข้างทางเงียบสงบ วงหน้าหวานเต็มไปด้วยความสงสัย เพียงแต่ไม่ได้เอ่ยอะไร...
เมื่อแววตาคมปราบที่สบมองมาด้วยเสน่หาล้ำลึกพาหัวใจดวงน้อยกระตุกไหวรุนแรง... บอกว่าเขากำลังจะพูดอะไร
“แล้วถ้า... คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก... ของอริสาได้ไหม?” ในสีหน้าเข้มขรึมจริงจังถามอย่างตั้งใจรอ...
คำตอบของอริสาส่งผ่านไปกับสองมือที่เอื้อมไปคว้าคอเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท ดึงผู้ชายตัวโตเข้าหา พลันประกบปิดเรียวปากอิ่มงามอมชมพูหวานลงบนเรียวปากหนาอย่างคนคุ้นเคย เธอแน่ใจว่าต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้น...
ชายหนุ่มตอบรับอย่างว่าง่ายแต่เป็นวิธีที่แตกต่างไป จากเคยทำมันแค่ผิวเผิน คราวนี้เขาคงไม่หยุด ปากหนาเริ่มขบเม้มริมฝีปากล่างของเธออย่างอ้อยอิ่ง สลับดูดกลืนอย่างเอร็ดอร่อย ราวกับว่าปากของเธอไม่ต่างจากไอศกรีมรสหวาน
ฝ่ามืออุ่นร้อนช้อนท้ายทอยน้อยขึ้นประคองให้ขยับไปตามแต่ใจ เขาเอาแต่ใจกับจุมพิตแสนหวาน แม้ริมฝีปากคู่งามช่างแสนไร้เดียงสาเสียจนเขามั่นใจได้ว่าเธอคงไม่เคยจูบใครสักคนมาก่อนเลยจริง ๆ
กระทั่งเรียวปากนุ่มเผยออ้าหาอากาศที่ได้รับอยู่เพียงน้อยนิด หลังดำดิ่งลงไปในห้วงคะนึงหา ปลายลิ้นหนาสอดแทรกเข้ากระหวัดเกี่ยวลิ้นเรียว พาความหวานจัดจ้านยิ่งเสียกว่าน้ำตาลกรวดทั้งกระสอบ เขายังใจดีมากพอรีรอให้นักจูบมือใหม่อย่างเธอค่อย ๆ เรียนรู้
หากพอขยับตัวเข้าหาร่างบางที่ลูบมือเรียวผ่านบ่า โอบรัดรอบคอของเขาเอาไว้ เธอเหมือนยิ่งต้องการไออุ่นอยากเข้าใกล้เขาให้มากขึ้นไปอีก พื้นที่ในรถยนต์ราคาเหยียดล้านกลายเป็นว่ามันคับแคบไป
กลิ่นฟุ้ง ๆ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาพาหัวสมองขาวโพลน เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าการจูบใครสักคนที่รู้สึกชอบพอจะให้ความรู้แสนวิเศษได้เท่านี้ และก็ไม่แปลกที่จะปล่อยตัวเองให้เผลอไหลไปกับความปรารถนา
หลายนานที่จุมพิตแสนดื่มด่ำหยุดทุกห้วงอารมณ์ของเธอและเขาไว้ในอ้อมกอดกันและกัน กระทั่งจุมพิตแสนนุ่มนวลแทนที่ด้วยจูบวาบหวามจากชายหนุ่ม เขาเริ่มที่จะมอบลมหายใจให้เป็นบางคราว น้อยลงเรื่อย ๆ ความร้อนในเรือนกายที่ก่อตัวในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้ริมฝีปากหนาต้องผละออกในทันที
ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองปากหนุบหนับที่ผละกันออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์ สองแขนยังคงโอบกอดเขาเอาไว้ ก่อนที่เธอจะนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ หากต้องเอ่ยไปในเสียงหอบสั่น
“หมอไอ... ฉันลืมเจ้าที่รักไว้ที่ร้าน...”