Episode{100%}
@C Club
“ทำไมผมจะขึ้นไปชั้นบนไม่ได้” เสียงของร่างบางดังกังวานไปทั่วอาณาบริเวณทางขึ้นชั้นวีไอพีของ C Club แหล่งบันเทิงของเหล่าคนมีฐานะและมีชื่อเสียง แล้ว‘อิ้ง’ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกวีไอพีของร้านนี้ แต่ถ้าจะให้ถูกควรเรียกเขาว่าสมาชิก วีวีไอพีจะดีกว่า
ร่างเล็กกดดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองคนตรงหน้าจริงจัง จนอีกฝ่ายต้องรีบก้มหน้าหลบไม่กล้าสบตา กับสายตากดดันและดุร้ายประดุจเจ้าป่าของลูกค้าประจำร้านคนนี้ คนในร้านนี้รู้จักอิ้งแทบจะทั้งหมด จะมีก็แค่พนักงานที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่เท่านั้นที่ไม่รู้จัก เพราะเจ้าของร่างเพรียวกับดวงตาดุเยี่ยงสัตว์ป่าคนนี้ มาเที่ยวที่ร้านนี้เป็นประจำ อิ้งไม่เคยหายไปนานและทุกๆครั้งที่มา ก็มักจะขนเพื่อนไฮโซที่เงินหนาเต็มกระเป๋า มาละลายไปกับแอลกอฮอล์ที่ชั้นสองของคลับตลอด และนี่เป็นครั้งแรกที่ลูกค้าระดับวีวีไอพีอย่างอิ้ง จะไม่ได้ขึ้นไปนั่งบนชั้นสองของร้าน
“วันนี้ชั้นบนของเราถูกเหมาไว้หมดทุกโต๊ะแล้วครับคุณอิ้ง” ผู้จัดการเอพยายามใช้น้ำเสียงนุ่มเจรจาต่อรองกับลูกค้าประจำตรงหน้า ที่ดูท่าจะไม่โอนอ่อนตามเลยสักนิด แล้วรีบก้มหน้ามองพื้นอีกครั้ง ตอนที่อีกฝ่ายถลึงดวงตาสีเข้มมองมาอย่างไม่สบอารมณ์
“ไม่เป็นไรหรอกมึง นั่งข้างล่างสักวันจะเป็นไรไป” ‘ซัน’ เด็กหนุ่มหน้าสวยเพื่อนสนิทที่สุดของอิ้งเดินเข้ามาช่วยพูด เพราะรู้ว่าแค่ผู้จัดการคนเดียวคงปราบความเอาแต่ใจของเพื่อนเขาไม่ได้
ซันรู้นิสัยอิ้งดีทุกอย่างเพราะเติบโตมาด้วยกันและสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดไม่เคยห่าง อิ้งเป็นทายาทอันดับหนึ่งที่ถูกวางตัวไว้ให้ดูแลคาสิโนทั้งหมดของตระกูล ถึงจะอายุเพียงแค่ยี่สิบแต่ก็ต้องเข้านอกออกในคาสิโนเป็นประจำเพื่อเตรียมตัวรับช่วงต่อ เพื่อนสนิทของเขาเลยระบายสิ่งที่ถูกกดดันทั้งหมดด้วยการเที่ยวและแอลกอฮอล์รสเลิศในทุกๆคืน ไม่มีคืนไหนที่ว่าที่เจ้าของคาสิโนตรงหน้าจะไม่เมากลับห้องเลยสักคืน ส่วนเรื่องการเรียนก็อย่าได้คาดหวังกับคนเที่ยวเตร่เช่นกัน ทุกวันนี้ขอแค่อิ้งหอบหิ้วร่างกายอรชรบอบบางไปนั่งในคลาสเรียนอาจารย์ก็ดีใจแล้ว
“ไม่! กูต้องได้ขึ้นไปนั่งชั้นบนเท่านั้น นั่งอยู่ข้างล่างแบบนี้มันจะไปมองเห็นอะไร เขาจ่ายเท่าไรผมให้มากกว่า” อิ้งหันมาตอบซันด้วยน้ำเสียงที่เบาลง ไร้ซึ่งอารมณ์หงุดหงิดใจ แล้วหันกลับไปถามคนตรงหน้าต่อ พร้อมกับยื่นบัตรเครดิตแบล็กการ์ดให้อีกฝ่ายเอาไปชำระเงิน แต่ก็ถูกปฏิเสธจนคนเอาแต่ใจอยากจะปาบัตรไม่จำกัดวงเงินใส่หน้าอีกฝ่ายให้ได้
“คุณอิ้งครับ ผมทำไม่ได้จริงๆ”
“นี่! นายคงไม่รู้ใช่ไหมว่าผมนิสัยเป็นยังไง” อิ้งถามผู้จัดการตรงหน้า ก้านนิ้วเรียวสวยไต่ไปตามไหล่กว้างของคู่สนทนา ก่อนจะหยุดที่คอปกเสื้อเชิ้ตแล้วจับกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายให้ต้องเอนตัวเข้ามาใกล้ใบหน้าสวยรูปไข่ ชนิดที่ว่าใครเห็นก็ต้องมองด้วยความหลงใหลในสัดส่วนที่แสนจะเพอร์เฟค ขององค์ประกอบบนโครงหน้านี้ ทว่ากับผู้จัดการเอแล้วคุณอิ้งตรงหน้าของเขาเปรียบเสมือนกับพายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดผิดช่วงฤดูในประเทศต่างหาก
ไม่รู้ว่าจะตั้งเคล้ามาเมื่อไร แล้วการมาแต่ละครั้งจะสร้างความชุ่มฉ่ำด้วยเงินที่พกมาเต็มกระเป๋า หรือจะสร้างความเสียหายด้วยนิสัยเอาแต่ใจ และดูเหมือนครั้งนี้คุณอิ้งคงไม่สร้างแค่ความเสียหาย แต่มันอาจจะทวีคูณกลายเป็นหายนะเลยก็ว่าได้
“ผมทราบดีครับ ว่าคุณอิ้งต้องได้ในสิ่งที่ต้องการ เพียงแต่…วันนี้ผมทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ”
“ทำไม! ไอ้คนที่จองไว้มันเป็นใคร มันน่ากลัวน้อยกว่าผมนักรึไง!” อิ้งแผดเสียงดังใส่คนตรงหน้า ซึ่งกว่าผู้จัดการเอจะพยักหน้าตอบก็ผ่านไปหลายนาที
เมื่อได้รู้คำตอบอิ้งก็ปล่อยมือออกจากคอปกเสื้อทำงานของอีกฝ่ายทันที ทำให้คนที่ถูกปล่อยเป็นอิสระเกือบจะทรงตัวไม่อยู่ และล้มไปกองตรงหน้าคนที่ตัวเล็กกว่าอย่างคนหมดแรง
“มันเป็นใคร”
“คะ..คุณมาเฟียครับ” คนอายุมากกว่าตอบเสียงตะกุกตะกัก
คนที่ได้ยินคำตอบทำสีหน้างุนงงเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปถามเพื่อนข้างกายถึงเจ้าของชื่อน่าเกรงขามเมื่อครู่ “คือใครวะ มึงรู้จักปะซัน”
“เชี่ย!” เพื่อนตัวเล็กสบทเสียงดัง “มึงพลาดไปได้ไง ปกติคนหล่อรวยไม่เคยรอดสายตามึงไปได้หนิ” ซันบ่นเสียงไม่ดังนัก แล้วกระดิกนิ้วเรียกให้อิ้งมาฟังใกล้ๆ กระซิบคุยกันแค่เพียงสองคน
“นี่เขาคือว่าที่ทายาทเจ้าของธุรกิจสีเทาเลยนะมึง กูได้ยินว่ากิจการเสี่ยงผิดกฎหมายเป็นของตระกูลคุณมาเฟียเนี้ย เกือบค่อนประเทศที่เขาอยู่เลยนะ”
“เขาแต่งงานรึยัง” คนตัวเล็กถามด้วยแววตามีความหวังลึกๆ ซึ่งซันก็ส่ายหน้าตอบ ก่อนที่ดวงตากลมจะเบิกกว้างเมื่อเห็นสีหน้า และรอยยิ้มที่สื่อถึงความต้องการของเพื่อนสนิท
“เขาอันตรายมากเลยนะมึง”
“งั้นดีเลย กูยิ่งอยากได้ อะไรที่ง่ายๆมันจะไปน่าสนใจอะไรล่ะ” อิ้งตอบ
กลับเพื่อนข้างกาย แล้วเดินฝ่าผู้จัดการตรงหน้าขึ้นไปชั้นสองหน้าตาเฉย แม้แต่ซันก็ดึงตัวไว้ไม่ทัน ยิ่งเป็นผู้จัดการเอยิ่งไม่กล้าแตะตัวลูกชายของตระกูลคาสิโนเลยแม้แต่ปลายก้อย
อิ้งเดินขึ้นมายังชั้นสองของร้านที่ถูกเหมาไว้ทั้งหมด ทว่ากลับว่างเปล่าไม่มีแม้แต่เงาของคนที่เพื่อนเขาเพิ่งจะพูดถึง ร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีแดงเคลือบเงาเล่นแสงเดินสำรวจไปทุกโต๊ะที่ถูกจัดเตรียมไว้ เรียวขาขาวที่โผล่ออกนอกชายกางเกงขาสั้นที่สวมใส่สะดุดตาคนที่นั่งอยู่ในมุมมืดไม่น้อย
‘คิน’ ลุกเดินออกมาจากมุมที่เขานั่งพักเพื่อรอเจ้านาย เดินตรงเข้ามาหาเจ้าของร่างเพรียวบางไม่ต่างจากสตรีเพศ แค่เห็นคนตรงหน้าเดินผ่านไปมาด้วยท่าทางการเดินที่สง่าผ่าเผย มันก็สะกดสายตาให้เขาเผลอมองอยู่ได้ไม่น้อย
คินหยุดขยับเท้าทันทีเมื่อเข้าใกล้รัศมีของเด็กตรงหน้า กลิ่นกายที่หอมยั่วยวนจากน้ำหอมราคาแพงทำให้เขาเผลอสูดดมอยู่หลายนาที เพิ่งจะได้สติกลับมาก็ตอนที่ได้ยินเสียงทุ้มติดแหบเอ่ยถามอย่างห้วนๆ
“มาเฟียเหรอ” อิ้งถามผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหน้า
ดวงตาคู่สวยไล่มองสำรวจร่างกายใหญ่โตของคู่สนทนา ที่ดูไม่น่าจะใช่คนที่เขาต้องการพบสักเท่าไร ถึงใบหน้าออกสไตล์ตะวันตกนั่นจะดูดีไม่น้อยในสายตาของเขา และการแต่งตัวก็ไม่ได้แย่จนไร้รสนิยม แต่ดวงตาและรังสีที่แผ่ออกมาจากคนตรงหน้า มันไม่ได้มีกลิ่นอายใกล้เคียงกับคำว่าน่ากลัวเลยสักนิด
“เปล่าครับ ผมเป็นเลขาส่วนตัวของคุณมาเฟีย” คินตอบเสียงเรียบ แล้วหลุบสายตาก้มมองพื้นด้านล่าง เมื่อร่างกายน่ามองตรงหน้าทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาว พร้อมทั้งยกขาเรียวที่เขาเห็นแล้วต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ขึ้นไขว้กัน นั่นยิ่งทำให้เห็นลึกเข้าไปยันต้นขาขาว ที่มองแค่ตาตรงนี้คินยังรู้ว่ามันต้องเนียนนุ่มมือแน่ๆ ท่าทางของอีกฝ่ายช่างเย้ายวน ท้าทายอำนาจสายตาให้จ้องมองแบบไม่ละไปไหน
“อ่ออ..”
“รบกวนคุณลงไปด้านล่างด้วยครับ เดี๋ยวเจ้านายของผมจะมาแล้ว” คินผายมือเชิญให้คนที่เพิ่งนั่งรีบลงไปจากชั้นสองนี่ ก่อนที่‘มาเฟีย’เจ้านายที่เขารับใช้จะเดินทางมาถึง และเจ้านายเขาคงไม่ชอบใจแน่ ถ้าหากมีคนขึ้นมาวุ่นวายในพื้นที่ที่เขาต้องการความเป็นส่วนตัวแบบนี้
เขาทำงานกับมาเฟียมาตั้งแต่ตัวเขาเรียนจบ รู้นิสัยใจคอเจ้านายคนนี้ดี ว่ารักความเป็นส่วนตัวขนาดไหน รวมไปถึงบทลงโทษของคนที่ไม่ทำตามคำสั่ง ว่าจะต้องมีจุดจบแบบไหน แต่คนตรงหน้ากลับนิ่งเฉย และเมินคำเตือนที่เขาเพิ่งพูดออกไป
“ไม่ละ ผมอยากเจอมาเฟีย”
นอกจากอิ้งไม่คิดจะลุกออกไปจากโซฟาตัวนี้ง่ายๆ เขายังล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหนังที่คาดอยู่บนอก หยิบเอาโทรศัพท์ราคาแพงออกมาสแกนใบหน้ากดเล่นอย่างสบายใจ จนคินคิดตัดสินใจจะเข้าไปจับคนที่ดูบอบบางตรงหน้าคนนี้ ลงไปที่ชั้นล่างให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่พอก้าวขาไปได้ยังไม่ทันจะถึงตัว ดวงตาสีเข้มก็ช้อนสายตาขึ้นมองเขาจนคินเสียอาการ ต้องหยุดอยู่กับที่แล้วยืนตัวตรง
“ผมจะบอกให้นะคุณ…คุณชื่ออะไรนะ”
“คะ..คิน ผมชื่อคิน” อิ้งกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อได้รู้ชื่อของอีกฝ่าย
“อืม คุณคิน ผมจะบอกให้ฟังนะว่าครั้งล่าสุดคนที่มาแตะตัวผม โดยที่ผมไม่ยอมและไม่เต็มใจเนี่ย ตอนนี้ยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย ถ้าคุณรู้สึกว่าการทำงานเป็นเลขาให้มาเฟียมันน่าเบื่อเกินไป ก็เข้ามาจับตัวผมสิครับ” อิ้งไม่ได้ทำแค่พูด ร่างบางที่แสนจะยั่วยวนยังกางแขนพาดพนักพิงโซฟา เชิญชวนให้เขาเข้าไปจับตัวอีกต่างหาก
“เดี๋ยวก่อนครับ ถ้าไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ผมขอร้องละครับ อย่าแตะตัวเพื่อนผมเลยถ้าไม่จำเป็น” ซันรีบเดินเข้ามารั้งบ่าของคินเอาไว้ ก่อนที่ผู้ชายร่างใหญ่อย่างคินจะเดินเข้าไปถึงตัวเพื่อนเขา แล้วเดินเข้าไปดึงแขนเพื่อนสนิทให้ลุกตามเขาลงไปข้างล่าง แต่เพื่อนตัวเล็กไซต์มินิของเขาก็ไม่ให้ความร่วมมือเอาซะเลย ขืนตัวไม่ยอมขยับซะดื้อๆ
“อิ้งลงไปเถอะ พวกเราไปร้านอื่นกันก็ได้คืนนี้ ไม่ก็กลับไปอ่านหนังสือก็ได้จะสอบแล้ว”
“กูไปก็ได้ แต่ขอเจอมาเฟียก่อน”
“ทำไมวะ อย่าอยู่เลย กลับเถอะกูขอ”
“ก็มึงบอกว่าเขาหล่อ กูชอบคนหล่อ กูอยากเจอคนหล่อ” พูดจบอิ้งก็จับเอาเพื่อนที่ยืนบังข้างหน้าให้นั่งลงข้างๆ ไม่ได้ให้ความสนใจเลขาส่วนตัวอย่างคินที่พร้อมจะจับเขาสองคนลงไปข้างล่างเลยสักนิดเดียว
“รอไม่นานหรอก คุณเลขาเขาบอกว่าเจ้านายเขาใกล้มาแล้ว”
อิ้งพูดถึงมาเฟียยังไม่ทันขาดคำ คนที่เขานั่งตื๊อรอพบเจอก็ปรากฏตัวยืนมองเขากับเพื่อนสนิทอยู่ด้านหลังเลขาส่วนตัว เมื่อคินเห็นว่าเจ้านายเดินมาถึงก็รีบโค้งตัวแสดงความเคารพทันที พร้อมกับเบี่ยงตัวหลบไปยืนด้านหลัง ปล่อยให้เจ้านายของเขาเผชิญหน้ากับคนที่เด็กกว่าตามสมควรจะเป็น
คนที่กำลังเล่นโทรศัพท์รีบเก็บสิ่งของในมือใส่เข้ากระเป๋าทันที ริมฝีปากบางสีระเรื่อคลี่ยิ้มหวานให้กับผู้ชายตรงหน้า ดวงตาสีเข้มเปล่งประกายวิบวับเมื่อเจอคนที่ถูกใจ แล้วคนที่ยืนตรงหน้าก็ทำให้อิ้งรู้สึกยิ่งกว่าถูกใจซะอีก
คนตัวบางใช้สายตาสำรวจร่างกายหนัดแน่น ของคนที่ยืนมองตัวเองอยู่ด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก รูปร่างสูงใหญ่เกินชายไทยทั่วไป ถ้าหากคนตรงหน้าเข้ามาสวมกอดตัวเขาไว้ เขาคงต้องหายเข้าไปในกล้ามอกของอีกฝ่ายแน่นอน ทั้งแขนและขามีแต่กล้ามเนื้อที่มองผ่านเนื้อผ้ายังรู้เลย ว่าอีกฝ่ายดูแลตัวเองดีขนาดไหน แถมใบหน้าก็ยังหล่อราวกับพระเอกในภาพยนตร์ที่เขาเคยดู ดวงตาสีฟ้าดำเข้มมีเสน่ห์ชวนมอง จมูกโด่งสวยกำลังดี ริมฝีปากหยักนั่นโคตรจะเชื้อเชิญให้ปากกระจับสวยๆแบบเขาเข้าไปจู่โจม
ในขณะที่อิ้งมองคนตรงหน้าด้วยความหลงใหล จนไม่สามารถเก็บซ่อนไว้ในใจได้ ต้องแสดงออกมาทั้งสีหน้าและแววตา มาเฟียกลับทำแค่มองคนที่มีอายุน้อยกว่าอย่างไร้ความรู้สึก แม้ว่าการแต่งตัวและใบหน้าของคนที่เขาได้เห็นจะชวนมองและเข้าหาขนาดไหนก็ตาม
“เคยบอกไว้ว่าไงคิน” มาเฟียถามเลขาคนสนิทด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง โดยที่สายตาก็ไม่ได้ละไปจากคนเด็กกว่าเลยสักวินาทีเดียว
“ผมบอกให้เขาลงไปแล้วครับคุณมาเฟีย แต่เขาไม่ยอม ดึงดันจะอยู่รอคุณมาให้ได้”
“มีอะไร” พอรู้จุดประสงค์ของเด็กตรงหน้า มาเฟียก็รีบถามกลับไปเสียงห้วน
ซึ่งกว่าคนถูกถามจะปริปากตอบก็ผ่านไปหลายนาที เพราะมัวแต่ส่งยิ้มหวานยั่วยวนอีกฝ่ายให้หลงเสน่ห์อยู่ “แค่อยากเห็นหน้าเฉยๆครับ”
“เห็นแล้วก็ไปซะ” มาเฟียตอบอย่างไม่ไยดี แล้วเดินไปนั่งบนโซฟาตัวถัดไป แทนตัวที่ร่างบางนั่งครอบครองอยู่
การไล่ที่ไม่มีความอ้อมค้อมที่มาเฟียเพิ่งพูดไป ไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกสลดลงเลยสักนิด นอกจากวิธีการไล่ซึ่งหน้าของมาเฟียมันจะใช้ไม่ได้ผลกับอิ้งแล้ว มันยังทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกสนใจและใคร่อยากจะครอบครองผู้ชายเย็นชาตรงหน้ามากขึ้น
อิ้งรีบลุกเดินตามอีกฝ่ายไปยังโต๊ะที่อยู่ใกล้กัน ตอนแรกเขาก็กะว่าจะเดินเข้าไปนั่งข้างกายอีกฝ่าย แต่ก็เลือกที่จะหยุดเมื่อดวงตาสีดำดิ่งมองมาที่เขา แวบหนึ่งในอกข้างซ้ายของอิ้งกระหน่ำเต้นรัว ตอนได้สบตากับมาเฟียอย่างจริงจัง สายตาดูเหมือนว่างเปล่าตลอดเวลา แต่พอได้สบตาแล้วกลับไม่เป็นจริงอย่างที่เห็น ภายใต้ม่านตาของมาเฟียมีแต่ความน่าเกรงขามดุดันเยี่ยงราชสีห์เจ้าป่า ที่แม้แต่นางพญาอย่างตัวเขายังต้องสยบ
คนตัวบางกระแอมเสียงเบาในลำคอเพื่อเรียกสติของตัวเอง จากที่เป็นคนไม่เคยกลัวใครหน้าไหน อิ้งกลับรู้สึกกลัวผู้ชายที่ชื่อมาเฟียอยู่ลึกๆในใจ แต่ก็เลือกที่จะเก็บไว้ในก้นบึ้งหัวใจแล้วเชิดหน้าแสดงความยั่วยวนต่อไป ก่อนจะกดรับสายเพื่อนไฮโซของเขาที่โทร.เข้ามาตาม ในขณะเดียวกันมือเรียวก็ชิงหยิบแก้วบรั่นดีราคาแพงของมาเฟียขึ้นมาจิบต่อหน้าเจ้าของ ทั้งที่พนักงานเพิ่งจะยกมาเสิร์ฟเองแท้ๆ
“จองโต๊ะเลย วันนี้นั่งข้างล่างนะ ข้างบนมีคนเหมาตัดหน้าไปแล้ว”
อิ้งรับสายแล้วพูดประโยคที่ไม่ยาวนักบอกเพื่อนที่ฟังอยู่ ก่อนจะวางแก้วที่เพิ่งจะดื่มไปเพียงอึกเดียวลงต่อหน้าคนที่ควรจะได้เป็นฝ่ายดื่มตั้งแต่แรก สองมือเรียวสวยวางเท้าลงกับโต๊ะกระจกใสตรงหน้า ขยับท่อนขาผิวเรียบเนียนน่าสัมผัสขึ้นวางเข่าไปกับพื้นโต๊ะข้างหนึ่ง โชว์ความขาวเนียนน่าลูบไล้ให้กับผู้ชายไร้อารมณ์ตรงหน้าได้เห็น ท่าทางยั่วยวนชวนมองของอิ้งไม่ได้ทำให้แค่มาเฟียเคลิ้มไปกับเรียวขาสวย แต่เหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนดูแลความปลอดภัยให้เจ้านาย กลับแอบกลืนน้ำลายลงคอตามการเคลื่อนไหวของคนตัวบางกันทุกคน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณมาเฟีย” อิ้งส่งยิ้มอำลาให้กับคนตรงหน้า ส่วนมือก็เลื่อนนามบัตรเข้าไปวางไว้ใกล้มือใหญ่ของคนที่มองอยู่ แล้วพาตัวเองเดินออกมาจากชั้นสองโดยที่มาเฟียก็แอบมองตามเหมือนกัน
“มึงทำแบบนี้ไม่กลัวเขาสอยมึงร่วงรึไงอิ้ง พวกการ์ดพวกนั้นเหน็บปืนกันทุกคน น่ากลัวจะตาย” ซันรีบเดินเข้ามาจับแขนอิ้ง พลางสายตาก็มองหันหลังกลับไปยังเหล่าผู้ดูแลของมาเฟีย ที่มีแต่คนรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดุดันดูน่ากลัว
“กูไม่กลัว กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่ชื่อมาเฟียคนนั้นจะสอยกูด้วยอะไร ปืนกระบอกที่เอว หรือกระบอกที่อยู่ในกางเกง”
“แล้วถ้าเป็นปืนที่อยู่ในกางเกงล่ะ มึงจะทำไง”
“กูรับกระสุนที่เขายิงมาด้วยเสียงครางของกู จนมาเฟียไม่กล้าลงไปจากเตียงเลย มึงคอยดู”