ตัวซวย
แสงแดดยามเช้ากระทบลงบนใบหน้าสวย ร่างอรชรที่นอนอยู่บนเตียงคิงไซส์ ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา ดวงหน้าเรียวมนค่อยๆ ปรือตาขึ้นเมื่อแสงแดดสาดส่องผ่านกระจกบานใสมากระทบม่านตา คนตัวเล็กเอี้ยวตัวบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนที่จะยันกายลุกขึ้นนั่ง เธอยังคงมีอาการงัวเงียไม่อยากจะตื่นขึ้นมาจากที่นอน “นิสสา” สาวสวยวัยเบญจเพส เอามือเรียวข้างขวาปิดปากตัวเองแล้วหาววอดออกมาอย่างอดไม่ได้ เพราะว่าเมื่อคืนเธอไม่ได้นอนทั้งคืน มัวแต่เตรียมตัวเพื่อจะไปสัมภาษณ์งานในวันนี้
“อือ...กี่โมงแล้วเนี่ย”
เสียงเอื้อนเอ่ยบ่นพึมพำอยู่กับตัวเองคนเดียว นิสสาเหลือบสายตาไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงด้านซ้ายมือ เธอถึงกับต้องเด้งตัวราวกับสปริง เพราะเข็มยาวของนาฬิกาชี้มาเกือบถึงเลขแปด เธอมีนัดสัมภาษณ์งานเวลาสิบโมงเช้า ตอนนี้จะแปดโมงเช้าแล้ว กว่าเธอจะอาบน้ำแต่งตัว เผื่อเวลาเดินทางอีกมันแทบจะไม่ทันเวลาเลยเสียด้วยซ้ำ
“เชี่ย!! ไม่ทันแน่เลย”
ขาเรียวยาวรีบก้าวลงจากเตียงทันที ไม่กลัวว่าจะพลาดตก เท้าเล็กๆ รีบจ้ำอ้าววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เสียงสายน้ำกระทบลงบนพื้นกระเบื้อง หยาดน้ำสีใสถูกเนื้อตัวที่ขาวนวลเนียน นิสสาใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึงสิบห้านาที เพราะถ้าขืนอาบนานกว่านี้ เธอต้องได้อดสัมภาษณ์งานกับบริษัทในฝันของเธอเป็นแน่
เมื่ออาบน้ำเสร็จเธอก็รีบเดินมาหยุดที่โต๊ะเครื่องแป้งและนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนิ่ม เครื่องสำอางบางๆ ถูกแต่งแต้มลงบนใบหน้าอย่างเบามือ วันนี้นิสสาแต่งหน้าออกโทนส้ม ลิปสติกสีส้มออกนู้ดไม่ได้ทำให้เธอดูป่วย แต่มันกับทำให้ริมฝีปากเธอสวยอวบอิ่มจนหน้าจูบ ถูกทาทับลงไปบนริมฝีปากบางอย่างช่ำชอง นิสสาเม้มปากเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่จะเช็คความเรียบร้อยบนใบหน้าอีกครั้ง
ชุดสูทแขนยาวสีแดงเลือดนก ที่สวมทับเกาะอกสีดำทำให้เธอดูสวยเรียบหรูดูแพง เพียบพร้อมสำหรับงานนี้ มือเรียวขยับสูทแล้วเอี้ยวตัวเอียงซ้ายเอียงขวาไปมา ดูว่ามันเข้าที่เข้าทางหรือยังก่อนที่จะออกจากห้องนี้ไป
“เรียบร้อย สวยแล้วไปได้”
นิสสาใช้มือข้างขวาหยิบกระเป๋าสะพายข้างสีดำคล้องไว้ที่แขนข้างซ้าย แล้วก้าวเดินออกไปจากห้องทันทีไม่รีรอ ปลายทางที่เธอจะไปคือบริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ ติดอันดับต้นๆ ของประเทศ
ท้องถนนเต็มไปด้วยรถที่สัญจรไปมา กว่านิสสาจะมาถึงที่หมายก็จวนเจียนเต็มทีแล้ว เวลานี้เป็นเวลาเก้าโมงสี่สิบแปดนาที เหลือเวลาเพียงแค่สิบสองนาทีเท่านั้นก็จะถึงเวลาสัมภาษณ์งาน เธอเพิ่งลงจากรถแท็กซี่เอง
“นี่ค่ะไม่ต้องทอนค่ะ”
นิสสายืนแบงก์สีม่วงหนึ่งใบให้ลุงคนขับรถแท็กซี่คันสีเหลืองเขียว ลุงแก่ๆ ใช้มือเหี่ยวๆ ข้างขวามารับเงินที่นิสสายื่นให้ พร้อมยกมือไหว้ขอบอกขอบใจยกใหญ่ที่เธอให้ค่าโดยสารเกินราคาอยู่มาก
“ขอบใจนะหนู ขอบใจมากๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะลุง หนูไปก่อนนะคะ”
ชายแก่พยักหน้าให้เธอแล้วขับรถเคลื่อนตัวไปทันที คนตัวเล็กตอนนี้กำลังวุ่นอยู่กับกระเป๋าสตางค์ที่เธอหยิบขึ้นมาจ่ายเงินให้กับลุงคนเมื่อครู่ พลางเดินไปด้วยไม่ได้ดูทาง จนชนเข้ากับคนคนหนึ่งอย่างจัง กาแฟที่อยู่ในแก้วพลาสติกที่มีโลโก้สีเขียว สาดกระเซ็นใส่เสื้อของชายผู้นั้นเต็มไปหมด
“นี่คุณเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลย ดูสิเสื้อผ้าผมเลอะหมดแล้ว”
เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาเต็มไปด้วยคราบกาแฟที่สาดกระเซ็นเมื่อครู่ นิสสาเอามือปิดปากตัวเอง พลางนึกในใจทำไมมันซวยได้ขนาดนี้วะคนยิ่งรีบๆ อยู่
“ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ พอดีฉันรีบ ขอตัวก่อนนะคะ”
ไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวขาออกไป ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ความสูงราวร้อยแปดสิบเจ็ดเห็นจะได้ ใบหน้าหล่อเหลา นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองเธออย่างเอาเรื่อง ที่เธอจะหนีความผิดไปง่ายๆ โดยไม่รับผิดชอบอะไรเลย
“นี่คุณไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยเหรอ นอกจากคำว่าขอโทษเนี่ย”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม แววตาสีน้ำตาลเข้มแฝงไปด้วยความดุดันจ้องมองนิสสาจนเธอต้องหลบสายตาคู่นั้นด้วยความหวาดกลัว
“เดี๋ยวฉันมารับผิดชอบได้ไหมคะ พอดีฉันมีสัมภาษณ์งาน”
“ไม่ได้!!”
“เอ๊ะ!!...คุณนี่ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะให้ฉันทำยังไงอีก รีบๆ บอกมาเลย”
คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ นี่เธอกำลังเจอกับเจ้ากรรมนายเวรอยู่หรือนี่ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมายืนเถียงกับเขา เธอควรอยู่หน้าห้องสัมภาษณ์แล้วด้วยซ้ำ
“เช็ดมันให้สะอาด ทำยังไงก็ได้ให้มันสะอาดเหมือนเดิม”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับว่ากำลังจะแกล้งเธอ มันจะเป็นไปได้อย่างไร จะให้มันสะอาดเหมือนเดิมได้ยังไงถ้าไม่เอามันไปซัก
“คุณจะบ้าเหรอ ถ้างั้นคุณก็ต้องถอดออกมาให้ฉันซักให้แล้วล่ะ”
จบประโยคมือเรียวก็ถูกมือหนาคว้าข้อมือเล็กลากไปที่ห้องน้ำชาย เธอต้องเดินตามไปอย่างงงๆ นี่เขากำลังจะทำอะไรเนี่ย กระดุมเสื้อค่อยๆ ถูกปลดทีละเม็ด ทีละเม็ด เผยให้เห็นแผงอกแกร่ง กล้ามหน้าท้องเป็นมัดๆ ชวนมอง เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกถอดออกแล้วปาใส่ไปที่ตัวของนิสสาอย่างไร้มารยาท
“ซักมัน!!”
“.......”
นิสสาไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากจำใจหยิบมันขึ้นมา ค่อยๆ เอาน้ำซักบริเวณที่มีคราบกาแฟออกจนหมด แล้วใช้ลมจากเครื่องเป่าลมมือ เป่าให้เสื้อบริเวณนั้นแห้ง เสร็จแล้วเธอรีบยื่นเสื้อคืนให้ผู้ชายหน้าหล่อ แต่นิสัยน่าเกลียดคนนั้น นิสสายกแขนข้างซ้ายขึ้นมาดูนาฬิกาเรือนสวยที่อยู่บนข้อมือ ซึ่งตอนนี้เลยเวลาสัมภาษณ์งานของเธอเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
“คุณทำให้ฉันเลยเวลาสัมภาษณ์งาน ถ้าฉันไม่ได้สัมภาษณ์งานฉันจะกลับมาฉีกอกคุณคอยดู”
น้ำเสียงขุ่นเคืองเอ่ยออกไปต่อว่าผู้ชายคนนั้น ดวงตากลมโตคู่สวยเริ่มแดงก่ำ น้ำตาสีใสๆ เริ่มคลอเบ้า เล่นทำเอาเขาใจเสียเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเธอจะจริงจังกับมันขนาดนั้น
“นั่นมันเรื่องของคุณไม่เกี่ยวกับผม”
คำตอบไร้การแยแสไม่ไยดี ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเอาเสียเลย คนตัวเล็กใช้มือข้างขวาผลักไปที่หน้าอกของเขาจนเขาเซถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว นิสสารีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำอย่างเร็วเพื่อที่จะเข้าไปสัมภาษณ์งาน หวังว่า HR ของที่นี่ยังคงให้โอกาสเธออยู่ เธอภาวนาขอให้เป็นอย่างนั้น ถ้าวันนี้เธอไม่ได้งานเพราะไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นเธอจะกลับไปฉีกอกเขาแน่ๆ
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นกระเบื้องรัวๆ แล้วมาหยุดอยู่หน้าห้องสัมภาษณ์งาน มีพนักงาน HR นั่งอยู่หน้าห้องหนึ่งคนกำลังเตรียมเก็บเอกสาร นิสสายิ้มให้เธอแหยๆ แล้วยกมือขึ้นกล่าวสวัสดี
“น้องคะ เลยเวลาสัมภาษณ์มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะ เขากลับกันหมดแล้วค่ะ”
นิสสาหน้าเจื่อนทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นออกจากปากพนักงาน HR สาว ความหวังที่จะได้เข้าร่วมงานในบริษัทนี้ของเธอจบเห่เพราะไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นจริงๆ ด้วย เธอจะกลับไปฉีกอกมัน
“พี่คะหนูขอโอกาสสักครั้งนะคะ พอดีเกิดเอกซิเดนนิดหน่อยค่ะ หนูเลยมาสาย”
นิสสาทำสายตาเว้าวอนร้องขอให้หวังให้ HR สาวเห็นใจ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องเพื่อที่จะสัมภาษณ์เธอแล้ว
“ตอนนี้คนสัมภาษณ์เขากลับออกไปหมดแล้วค่ะน้อง”
เธอเอ่ยพร้อมกับเก็บเอกสารที่อยู่บนโต๊ะไปด้วย
“เพราะนายคนเดียวเลยไอ้บ้าเอ๊ย!!”
“อะไรนะคะ?”
“เปล่าๆ ค่ะ พอดีหนูพูดคนเดียวค่ะพี่”
“งั้นหนูขอฝากเรซูเม่ไว้ได้ไหมคะ ช่วยพิจารณาด้วยนะคะ”
นิสสายื่นเอกสารสมัครงานให้พนักงาน HR สาว เธอรับไว้อย่างไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่ก็ไม่ได้คิดจะติดต่อกลับอยู่แล้วเพราะการสัมภาษณ์งานได้จบลงไปแล้ว ดังนั้นเอกสารที่นิสสาฝากไว้คงไม่จำเป็นสำหรับเธออีกต่อไป
คนตัวเล็กยิ้มให้พนักงานสาวก่อนที่จะหมุนตัวแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรู้สึกสิ้นหวัง นิสสารู้สึกเสียใจไม่น้อยที่พลาดโอกาสดีๆ ครั้งนี้ เพราะเธอตั้งใจไว้แน่วแน่ว่าจะต้องเข้าทำงานที่นี่ให้ได้ และตำแหน่งที่เธอจะต้องได้ทำนั้นคือเลขาฯ ของท่านประธาน ของที่นี่
“ไหนผมขอดูหน่อยสิ”
เสียงเคร่งขรึมเอ่ยขึ้นหลังจากที่นิสสาเดินออกไปไม่นาน เขาพูดกับพนักงาน HR ที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บเอกสารอยู่
“นี่ค่ะท่านประธาน”
เธอยื่นประวัติของนิสสาให้เจ้าของเสียงที่น่าเกรงขามดู เขาใช้มือข้างขวาหยิบเอกสารแล้วค่อยๆ บรรจงเปิดมันดูทีละแผ่น ทีละแผ่น
“นิสสา เลิศหิรัญสกุล”