“แววตาคู่นี้เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน?”
คามิน ศศิเมธานนท์ ประธานบริษัทแห่งนี้ บ่นพึมพำอยู่กับตัวเองคนเดียว พยายามนึกก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอนิสสาที่ไหนมาก่อน
“เรียกคนนี้มาสัมภาษณ์งานกับผมวันนี้เลย ให้ไปเจอที่ห้องทำงานผม”
พูดจบเอกสารก็ถูกส่งคืนให้กับพนักงาน HR เธอพยักหน้ารับคำสั่งนายตัวเองและรับเอกสารสมัครงานของนิสสามาอย่างงงๆ
ครืดดดด....ครืดดดด....ครืดดดด
เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในกระเป๋าใบสวยของนิสสา เธอใช้มือข้างขวาหยิบมันขึ้นมาจากกระเป๋าใบสีดำที่เธอสะพายอยู่ หน้าจอที่โชว์เป็นเบอร์แปลกๆ ไม่คุ้นตา มือเรียวกดปุ่มรับสายทันทีไม่รีรอ
“สวัสดีค่ะ นิสสาพูดสายค่ะ”
(สวัสดีค่ะจากบริษัทxxx นะคะ ที่คุณฝากเอกสารเมื่อสักครู่นี้ เข้ามาสัมภาษณ์งานได้เลยนะคะ)
“จริงเหรอคะ”
(ค่ะ เดี๋ยวมาพบฉันที่เดิมนะคะ ฉันจะพาไปสัมภาษณ์กับท่านประธานค่ะ)
“ได้ค่ะ”
คนตัวเล็กรีบตอบตกลงอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่คิดเลยว่าโชคจะยังเข้าข้างเธออยู่บ้าง เรียวขายาวก้าวเดินไปหาพนักงาน HR ที่เดิม ที่ที่เธอเพิ่งเดินออกมาไม่นาน เมื่อเดินตามพนักงานมาจนหยุดมาอยู่ที่หน้าห้องประธานบริษัท ใจของนิสสาตอนนี้เต้นระรัวราวกับกลองชุด เธอรู้สึกประหม่าไม่น้อยกับการสัมภาษณ์งานในครั้งนี้ นิสสาไม่คิดว่าจะต้องสัมภาษณ์กับประธานเองโดยตรงเสียด้วยซ้ำ
“เชิญค่ะ”
พนักงานสาวผายมือให้เธอเข้าไปด้านใน นิสสาไม่ลืมที่จะเคาะประตูห้องก่อนที่จะเข้าไปด้านใน เธอใช้มือข้างขวาเปิดประตูเข้าไป ด้านในเป็นห้องทำงานที่มีขนาดค่อนข้างกว้างขวาง ด้านซ้ายมือมีชุดโซฟาหนังนิ่มสีน้ำตาลเข้มอยู่หนึ่งชุด ไว้สำหรับรับแขกผู้มาเยือน ส่วนตรงกลางห้องมีโต๊ะทำงานสีดำตัวใหญ่ พร้อมกับเก้าอี้ที่วางอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานอยู่อีกหนึ่งตัว ภายในห้องตกแต่งอย่างเรียบหรูน่ามอง
นิสสาเดินสาวเท้าก้าวเข้าไปอย่างประหม่า เมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างหันหลังให้เธออยู่ ใจเธอก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ผู้ชายใส่สูทสีดำค่อยๆ หมุนเก้าอี้ทำงานตัวหรูหันมาทางเธอ เมื่อเห็นคนตรงหน้านิสสาถึงกับใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม “เชี่ย!!” คนที่เรียกเธอเข้ามาสัมภาษณ์งานในวันนี้เป็นคนเดียวกัน กับที่เธอชนเมื่อเช้า นี่เขากำลังเล่นตลกอะไรกับเธออยู่กันแน่ เธอทำอะไรไม่ถูกเลย วันนี้สงสัยเธอจะไม่ได้งานนี้อย่างแน่นอน เพราะวีรกรรมในตอนเช้าคงทำให้เขาไม่พอใจเอาเสียมากๆ เลยทีเดียว
“คุณ….”
“เชิญนั่ง”
คามินเอ่ยด้วยน้ำเสียงโทนเรียบเชิงออกคำสั่งให้นิสสานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าเขา เธอทำตามอย่างว่าง่าย คนตัวเล็กค่อยๆ ขยับเก้าอี้ตัวสีดำแล้วหย่อนก้นลงนั่งอย่างช้าๆ พร้อมกับก้มหน้าหลุบต่ำไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง เพราะสายตาดุดันคู่นั่นมันช่างน่ายำเกรงยิ่งนัก
“ผมเชิญคุณมาสัมภาษณ์งาน ไม่ได้ให้คุณมาก้มหน้าให้ผมดู”
น้ำเสียงเย็นเอ่ยขึ้นทำเอานิสสาต้องกลืนน้ำลายลงคอ เขาดูดุมาก มากจนเรียกได้ว่าเธอเองยังรู้สึกกลัว ทั้งๆ ที่เมื่อเช้ายังปากเก่งกับเขาอยู่เลย แต่วินาทีนี้กับไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ ตอนนี้นิสสาราวกับถูกสาปให้เป็นก้อนหิน
“คะ...ค่ะ ขอโทษค่ะ”
เธอเอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“ขอโทษเรื่องอะไร เรื่องที่ทำกาแฟหกใส่ผมเมื่อเช้า หรือเรื่องที่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผม”
คำพูดจายียวนกวนประสาทของเขา ทำให้เธอรู้สึกขัดใจไม่น้อย คามินจ้องมองคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก เขาพยายามมองเข้าในดวงตากลมโตคู่สวยเพื่อค้นหาบางสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าเคยเจอกับเธอที่ไหน
“ขอโทษทั้งสองเรื่องค่ะ”
“อืม”
เขาเอ่ยเสียงตอบรับสั้นๆ ในลำคอ แต่สายตายังคงจ้องมองเธอไม่ละตา จนนิสสารู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า เมื่อเจอผู้ชายที่มีหน้าตาหล่อเหลาจ้องมองอยู่นานสองนานแบบนี้ ใจเธอแอบหวิวๆ อย่างบอกไม่ถูก พลางคิดในใจ ไหนบอกจะเรียกมาสัมภาษณ์งาน นี้ก็ผ่านไปเกือบห้านาทีแล้ว ยังไม่มีประโยคไหนเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งานแม้แต่ประโยคเดียว
“เราเคยเจอกันที่ไหนไหม?”
คามินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำถามนี้ เขารู้สึกคุ้นมากับสายตาคู่นี้ ดวงตาคู่สวยที่เขากำลังจ้องมองอยู่ แต่เขากลับจำมันไม่ได้ แต่เหมือนมันติดค้างอยู่ในใจมานานแสนนาน
“เคยเจอค่ะ เมื่อเช้าไงคะ”
“ผมไม่ได้หมายถึงเมื่อเช้า”
น้ำเสียงเคร่งขรึมเอ่ยขึ้นมาจนคนรับฟังรู้สึกเย็นสันหลังวาบ นิสสาจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกสงสัยในสิ่งที่เขาพูด แต่ก็ต้องหลบตาอีกครั้งเมื่อสายตาคมจ้องมองกลับมาที่เธอ
“เราจะสัมภาษณ์กันเลยไหมคะ”
นิสสาเข้าเรื่อง เธอมาเพื่อสัมภาษณ์งาน ไม่ใช่มาเพื่อให้เขานั่งถามว่าเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่าสักหน่อย
“ก็ผมกำลังสัมภาษณ์คุณอยู่นี่ไง”
“คะ?”
“ผมบอกว่าผมกำลังสัมภาษณ์คุณอยู่”
“ค่ะ”
“พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้ เป็นเลขาฯ ผมต้องตรงต่อเวลา ห้ามมาสายอย่างวันนี้เป็นอันขาด แม้แต่วินาทีเดียว”
คามินเอ่ยขึ้นอย่างไม่อ้อมค้อม ไม่รู้อะไรดลใจให้เขารับเธอเขามาเป็นเลขาฯ ทั้งๆ ที่ไม่ได้สัมภาษณ์อะไรเธอเลยแม้แต่นิดเดียว แต่จากที่ดูประวัติแล้วก็ไม่ได้น่าเกลียดอย่างที่คิด เธอเรียนได้เกียรตินิยมอันดับที่หนึ่ง เลยทีเดียว
“คุณรับนิสสาเข้าทำงานแล้วหรือคะ”
เธอแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองเลยว่าได้งานมาอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องได้รับการสัมภาษณ์มากมายอะไรเลย นี่มันไม่เรียกว่าฟลุคก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว
“อืม”
ใบหน้าสวยยื่นเข้าไปใกล้ๆ คนใบหน้าคมจนห่างกันเพียงคืบ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างรู้สึกยินดีจนบอกไม่ถูก เธอเผลอลืมตัวไปเลยว่าคนตรงหน้าน่ากลัวแค่ไหน
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ...ว่าแต่พรุ่งนี้เริ่มงานกี่โมงคะท่านประธาน”
นิสสาเรียกคามินเสียเต็มยศ ทำท่าทีทะเล้นอย่างที่เคยๆ ตามนิสัยของเธอ ที่เป็นคนติดตลก ขี้เล่นจนเป็นนิสัย แต่สำหรับคามินนั่นไม่ตลกกับเธอด้วย คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันทันที พลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแทบจะเฉียดจมูกโด่งของนิสสา
“แปดโมงเช้าครับ แล้วผมไม่ใช่ชอบคนเล่นในเวลางานนะครับ ช่วยทำตัวดีๆ ด้วยเวลาอยู่กับผม”
“คะ...ค่ะ ท่านประธาน”
นิสสาหน้าเจื่อนทันทีที่ได้ยินคำพูดของคามิน สีหน้าแววตาที่จริงจังตลอดเวลาของเขา มันทำให้เธอรู้สึกเกร็งไปหมด ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกลัวว่าจะขัดใจเขา ขนาดเพิ่งเข้ามาสัมภาษณ์วันแรกยังดุขนาดนี้ ถ้าได้ร่วมงานด้วยเธอจะทำได้ไหม แค่คิดเธอก็แอบท้อเสียแล้ว “ไม่ได้สิเธอต้องทำให้ได้” นิสสาคิดอยู่ในใจไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“งั้นเชิญครับคุณนิสสา”
คามินผายมือให้เธอเพื่อเป็นการบอกกลายๆ ให้เธอออกไปด้านนอกได้แล้ว นิสสาพยักหน้ารับคำเขาแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวนิ่มทันที
“สวัสดีค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะคะเจ้านาย”
เธอไม่วายที่จะพูดจาตีสนิทกับคามิน จนคนตัวใหญ่รูปร่างกำยำจ้องมองเธอตาแข็งกร้าวราวกับจะสาปเธอให้กลายเป็นก้อนหิน
“ครับ”
“คนอะไรดุชะมัด”
“อะไรนะครับคุณนิสสา”
“เปล่าค่ะๆ ไม่มีอะไร นิสสาคุยคนเดียวค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้นิสสาจะมาแต่เช้าเลยนะคะ”
สาวน้อยไม่รอให้เขาได้พูดต่อ เธอรีบสาวเท้ายาวๆ ก้าวเดินออกไปด้านนอกทันที แต่ไม่ทันได้ระวัง เธอก็ชนเข้ากับประตูที่กำลังเปิดเข้ามาอย่างจัง โดยไม่ทันได้ตั้งตัว
“โอ๊ย!!”
มือเรียวยกขึ้นมากุมที่หน้าผากตัวเองทันที ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายอีกคนที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง เขาจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พลางกระตุกยิ้มมุมปากให้เธอเบาๆ