สองชั่วโมงผ่านไปเพื่อน ๆ เดินออกมาหน้าโรงเรียนเพื่อแยกย้ายทางใครทางมัน
“กูว่าจะไปต่อร้านเหล้ามีใครไปปะ” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ย
“เอาดิ ไปร้านไอ้ไอซ์ไหม” เปลวเพื่อนชายเอ่ยถึงเพื่อนอีกคนที่ไม่ได้มาเพราะต้องดูแลร้าน
“แหม หารายได้ให้เพื่อนจริง ๆ แต่ถึงไอ้เปลวไม่พูดกูก็จะชวนไปร้านไอ้ไอซ์นะ อุดหนุนเพื่อน” ตันเพื่อนชายอีกคนพูด
“อุดหนุนเพื่อนอะใช่ แต่กูไม่ชอบแฟนมันเลย ขี้หวงเกิน” เล็กเพื่อนสาวสุดเฟียสเอ่ย ส่วนฉันยืนฟังเงียบ ๆ
“สรุปจะเอาไงคะพวกมึง กูจะได้บอกผัวถูก” นุกเกอร์หญิงสาวขี้หงุดหงิดพูดบ้าง ฉันเข้าใจที่นุกเกอร์หงุดหงิดนะ ก็ก่อนหน้านี้เห็นชวนกันมาสักพักแต่ไม่มีใครได้ข้อสรุปเรื่องร้านที่จะไป
“ไปร้านไอ้ไอซ์” ยูเพื่อนชายขี้รำคาญเอ่ยเสียงเรียบตัดปัญหาและหันมาพูดกับฉัน “กูติดรถไปด้วยนะซี”
“อื้ม ได้ดิ” ยื่นกุญแจรถให้ยูสิ ฉันขี้เกียจจะขับ “ยูขับนะ ซีไม่รู้ว่าร้านไอซ์อยู่ที่ไหน”
“เค”
“งั้นเจอกันที่ร้านไอซ์นะ” นุกเกอร์สรุป
“โอเค”
เมื่อได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยทุกคนก็พากันเดินมาที่รถของตัวเองที่จอดไว้ลานจอดรถ มาร้านเหล้าก่อน ได้ที่แล้วมิ้วกี้ชวนไปผับแฟนนาง นี่เป็นข้อสรุปที่มิ้วกี้บอกฉันตอนที่นั่งอยู่ในงาน ฉันที่คิดว่านาน ๆ เจอเพื่อนทีไปสักหน่อยแล้วกันก็เลยรับปากเพื่อน
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” ยูเป็นเพื่อนผู้ชายที่ฉันสนิทตอนเรียนที่โรงเรียนนี้ เราสองคนสนิทกันมาก แต่ว่าเราไม่ได้เรียนต่อที่เดียวกัน ยูมีชีวิตของยู ฉันมีชีวิตของฉัน แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิตเป็นครอบครัวเดียวกัน
“ก็สบายดี”
“หกปีแล้วเนอะ”
“อืม”
“คนที่บ้านล่ะ”
“สบายดีเหมือนกัน”
“ฝากบอกหน่อยนะว่าคิดถึง”
“คนที่แต่งงานแล้ว มีลูกแล้วมีสิทธิ์พูดว่าคิดถึงแฟนเก่าเหรอ”
“นั่นสิ งั้นไม่ต้องบอกก็ได้ ช่างเถอะ”
“หึ” ฉันหลับตาชั่วครู่ พักสายตาสักหน่อย
หนึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเราก็มาถึงร้านเหล้าของไอซ์ โต๊ะถูกจองไว้อยู่แล้วก็เลยง่ายเพราะเพื่อนเป็นเจ้าของร้าน การรวมตัวของกลุ่มเพื่อนวัยเด็กไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่รู้กันทุกคนต่างมีภาระหน้าที่ เมื่อเจอกันวันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี หลาย ๆ คนจึงเมาชนิดที่เรียกว่าเกินลิมิต ฉันนั่งดื่มเบา ๆ และฟังเพื่อนพูดถึงวีรกรรมในวัยเด็ก ทั้งโต๊ะหัวเราะสนุกสนาน ที่ร้านเหล้าวันนี้ถือเป็นหนึ่งโมเมนต์ดี ๆ
นั่งร้านเหล้าจนถึงห้าทุ่มมิ้วกี้ก็ชวนไปต่อที่ผับของแฟนนางอย่างที่พูดกับฉันไว้ ฉันที่รับปากเพื่อนแล้วก็เลยไปต่อ รอบนี้ฉันเป็นคนขับเอง ยูน่ะกลับไปแล้ว เมียมาตามถึงที่ไม่กลับได้ไง
มาถึงผับคุณเต้ยของแฟนมิ้วกี้สั่งลูกน้องจัดเตรียมห้องวีไอพีไว้ให้เรียบร้อย เพื่อนที่มาก็มีเล็ก ตัน มิ้วกี้ ฉัน ส่วนที่เหลือต้องรีบกลับบ้านไปหาครอบครัว นุกเกอร์อยากมาด้วยอยากมาเป็นเพื่อนฉัน แต่ติดตรงที่ว่าแฟนนางเมาหนักก็เลยต้องกลับไปก่อน
“จริงเหรอคะ ดีเลยค่ะจะได้แนะนำเพื่อนมิ้วให้เพื่อนคุณรู้จัก เผื่อว่าจะสปาร์คกัน” จากที่ฟังยัยมิ้วกี้นึกจะทำอะไรไม่เข้าท่าอีกแล้วแน่ ๆ
“อะไรคะ” ฉันถามคุณเต้ยที่นั่งข้างยัยมิ้ว
“เพื่อนผมจะมาครับ ผมเป็นห่วงมิ้ว ไม่อยากให้คาดสายตาก็เลยว่าจะชวนเพื่อนมาร่วมโต๊ะด้วย น้อง ๆ จะว่าอะไรไหมครับ”
“ได้เลยค่ะ หลายคนสนุกดี” เล็กตอบอย่างไว จากที่รู้มายัยนี่เพิ่งเลิกกับแฟนได้สองวัน คงตั้งใจจะส่องผู้ล่ะสิ
“อย่างที่เล็กว่าเลยค่ะ” ฉันตอบเพราะคุณเต้ยมองหน้าฉัน ถึงจะไม่อยากร่วมโต๊ะกับคนอื่น แต่ฉันจะเป็นคนเดียวที่ขัดก็ไม่ใช่เรื่อง
“ครับ” คุณเต้ยยิ้ม แต่คนที่ยิ้มกว่าคุณเต้ยคือมิ้วกี้ ยัยนี่รู้ว่าฉันโสดเลยตั้งใจจับคู่ให้ฉันแน่ ๆ เพราะแบบนี้ไงถึงไม่อยากให้คนรู้ว่าโสด
“มึงเตรียมตัวเล็งเลยนะซี เพื่อนคุณเต้ยโปรไฟล์ดีทุกคน ยังโสดก็เยอะ คืนนี้ต้องได้สักคน” นั่นไง หลังจากคุณเต้ยเดินออกจากห้องไปมิ้วกี้ก็เริ่มเลย
“ถ้าเขาดีจริงจะเหลือมาถึงกูเหรอคะ” ฉันเย็นเยือกไปหนึ่งที
“อีซี มึงนี่นะ” นั่น ตีมือฉันละ “พวกเขาทำแต่งานไงมึง พวกนักธุรกิจ”
“นั่นพวกเจ้าชู้ทั้งนั้น หาคนดีมีรักแท้ยากค่ะ งมเข็มในมหาสมุทรง่ายกว่าเยอะ” ฉันย้อนอีกรอบ
“งั้นก็ไม่ต้องหารักแท้สิวะ คืนเดียวก็พอ คิดว่าต่างฝ่ายต่างได้ ได้กินไฮโซสักครั้งคุ้มค่านะมึง” เล็กชี้ทาง
เป็นทางที่ไม่น่าเดินเลยจริง ๆ