990 คำ
"พ่อทศ พ่อได้กลิ่นอะไรหอมๆหรือไม่ขอรับ" "อื่ม..ได้กลิ่นสิ" "พ่อว่านี่คือกลิ่นอะไรหรือขอรับ" "กลิ่นข้าวทิพย์ เป็นข้าวที่หอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งโลก" ใช่แล้วครับทุกท่าน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่พระนารายณ์กำลังเตรียมตัวลงมาเกิดยังโลกมนุษย์ โดยที่ท้าวทศรถกษัตริย์เมืองอโยธยาจะให้เหล่าฤษีทำพิธีขอลูก โดยลูกที่เกิดมานั้นก็คือพระนารายณ์อวตารนั่นเอง อีกหนึ่งอีเว้นที่เกิดขึ้นในกรุงลงกา คงจะหนีไม่พ้น การที่ทศกัณฐ์ให้กากนาสูรไปนำข้าวทิพย์มาให้นางมณโฑกิน ซึ่งผมค่อนข้างสงสัยว่า ถ้าทศกัณฐ์อย่างผมเนี่ย ส่งหนุมานไปเอาข้าวมาทั้งหมดมันจะเป็นยังไงนะ ว่าแล้วก็ลงมือทำไปเลยสิครับ "อินทรชิตลูกรัก" "ขะ..ขอรับ" อินทรชิตมองท่านพ่อของตัวเองที่จู่ๆมาพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับต่ออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยก็พลันคิ้วกระตุก เหมือนจะสัมผัสลางอะไรบางอย่างได้ "ไปเรียกหนุมารมาหาพ่อหน่อย พ่อไปรอที่ห้องแม่เจ้าหนา" "อ่า..ได้เลยขอรับ" แม้อินทรชิตจะมีความไม่เข้าใจอยู่บ้างแต่ก็ตอบตกลงกับผู้เป็นพ่อ แล้วตรงไปเรียกหนุมานให้ตามคำสั่ง ส่วนทศกัณฐ์ก็ตรงไปหานางมณโฑ ซึ่งระหว่างนั้นเองก็ไปเจอนางนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นพอดี "เจ้าพี่" "อ้าว น้องมณโฑ ว่ายังไงจ๊ะ" "เจ้าพี่ น้องได้กลิ่นอะไรบางอย่าง หอมยิ่งนัก" "น้องมณโฑ อยากกินหรือจ๊ะ" "เจ้าค่ะ" "ได้เลยจ่ะ เดี๋ยวพี่ให้คนไปหาเอามาให้" แม้คนในร่างทศกัณฐ์ตอนนี้จะไม่ได้มีศักดิ์เป็นสามีของนางมณโฑ แต่การพูดเสียงอ่อนเสียงหวานแบบปากเคลือบน้ำตาลก็เป็นเรื่องที่เขาคิดว่าปฏิบัติไว้ก็มิเสียหายอันใด พอทศกัณฐ์เข้าไปร่วมวงนั่งคุยกับนางมณโฑได้สักพัก หนุมานที่อินทรชิตไปตามก็มาพอดี "พ่อทศ ลูกตามหนุมานมาให้แล้วขอรับ" "ดีเลยๆ หนุมานข้ามีภารกิจให้ทำ" "ทรงสั่งมาได้เลยขอรับ" "เจ้าคงได้กลิ่นข้าวทิพย์ที่หอมตลบอบอวลนี่ใช่หรือไม่ พอดีมณโฑเขาอยากกินน่ะ ข้าเลยว่าจะวานเจ้าไปเอามาให้สักก้อน" "ได้เลยขอรับ" "แต่ถ้าจะให้ดี ไปเงียบๆอย่าให้ประเจิดประเจ้อเล่า" "รับคำสั่ง กระหม่อมจะไปนำของที่พระองค์ทูลมาให้ตามสั่งขอรับ" ผมยิ้มตอบหนุมานก่อนจะชวนอินทรชิตมาร่วมวงสนทนาด้วยกัน หนุมานแยกไปทำตามคำสั่งที่ได้รับ ส่วนอินทรชิตก็มานั่งคุยกับแม่ของตัวเองพร้อมทศกัณฐ์ "พวกเจ้าออกไปก่อน เราจะคุยกับลูกกับสามีสักเล็กน้อย" หลังจากคุยสารทุกข์สุขดิบได้สักพัก นางมณโฑก็เหมือนมีเรื่องบางอยากอยากจะคุยกับผมและอินทรชิต นางจึงบอกให้เหล่าคนรับใช้ออกไปรอข้างนอกก่อน และผมก็คิดว่าเรื่องที่จะคุยคงไม่พ้นเรื่องของอินทรชิตกับหนุมานเป็นแน่ "อินทรชิตลูก" "ขอรับท่านแม่" ทำไมซื้อหวยไม่ถูกงี้บ้างวะ "ลูกไม่คิดจะคุยกับพ่อกับแม่หน่อยหรือ เรื่อง..เจ้ากับลิงเผือกนั่น" มณโฑเปิดประเด็นมาอย่างไม่อ้อมค้อม ทางอินทรชิตก็เงียบไปเล็กน้อยเหมือนกับพูดอะไรไม่ถูก แต่พอเจ้าตัวหันมามองผมที่ยิ้มส่งกำลังใจให้ เจ้าตัวก็ผ่อนคลายลงไปได้บ้าง อย่างน้องหากท่านแม่ไม่ยอมรับอินทรชิตก็ยังมีบิดาที่คอยสนับสนุนเขาอยู่ "ลูก..ลูกกับหนุมาน..กำลังดูใจกันอยู่" "แม่ว่ามิใช่แค่ดูใจแล้วกระมัง" โอ้ว น้องมณโฑ ปากแซ่บเหมือนกันนะเนี่ย อินทรชิตเงียบไปอึดใจนึงก่อนจะพูดต่อ "ลูกดูใจกันอยู่..แต่..อาจจะมีเกินเลยไปบ้าง ความสัมพันธ์ของเราค่อนข้างซับซ้อน ลูกยังมีหลายอย่างที่ยังกังวลใจ.." "หนึ่งในนั้นคือเรื่องของแม่ด้วยหรือไม่" นางมณโฑยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงด้วยความจริงจัง ทำเอาผมเองที่เป็นตัวประกอบฉากแอบขนลุกไปด้วยเลย ที่นางมณโฑหมายถึงเรื่องตัวเอง คงจะหมายถึงว่าที่อินทรชิตไม่กล้าเปิดตัวไม่กล้าทำอะไรให้ชัดเจน คงเพราะกลัวนางจะรับไม่ได้ขึ้นมา "แม้แต่ทศกัณฐ์ยังรู้เรื่องของลูกและรับสิ่งที่ลูกเป็นได้ ทำไมแม่ที่เป็นแม่แท้ๆของเจ้าจะรับมิได้เล่า" คนเป็นแม่ถอนหายใจออกมาก่อนจะเข้าสวมกอดอินทรชิต ส่วนทางยักษาเองก็มิได้ปฏิเสธอ้อมกอดมารดา เข้าสวมกอดอีกฝ่ายเช่นกัน ผมเองที่ได้เห็นภาพแม่ลูกรักกันกลมเกรียวก็ปาดน้ำตาทิพย์ป้อยๆ อย่างน้อยแม่ลูกก็อาจจะได้เข้าใจกันมากขึ้น หลายชั่วอึดใจผ่านไปทั้งสองจึงได้ผละตัวกันออก นางมณโฑเองจึงเสริมเรื่องที่คุยกันค้างไว้ก่อนหน้านั้น "แต่ถึงแม้ลูกจะเป็นบุรุษ ก็มิได้หมายความว่าเจ้าจะเปลืองเนื้อเปลืองตัวให้ไอ่ลิงนั่นได้ตลอดหนา" "ท่านแม่.." อินทรชิตตอบเสียงอ่อยแต่หน้ากลับขึ้นสีอย่างเขินอาย "อะแฮ่ม..เอาเป็นว่าเจ้าจะแต่งสะใภ้หรือแต่งเขยก็บอกแม่อีกทีละกัน" "ท่านแม่!" อินทรชิตว่าเสียงดังขึ้นเพื่อจะปรามผู้เป็นแม่ให้หยุดหยอกเย้าตนเสียที เท่านี้ตนก็มิรู้จะเอาหน้าไปมุดที่ใดแล้ว "โถ่น้องมณโฑ เรื่องแบบนี้มันก็ชัดเจนแล้วมิใช่หรือ ว่าเราจะได้ลูกเขยเป็นลิงเผือกน่ะ" ท่านพ่อก็เอากับเขาด้วยหรือ!! แงงงง!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม