“เจ้าค่ะ นายหญิง” สองพี่น้องสกุลชิงค้อมศีรษะก่อนจะเร่งจากไปอย่างกระตือรือร้น พวกเขาได้ยินข่าวลือเรื่องนิสัยที่เปลี่ยนไปของซูเฉิ้งหนานมาบ้าง วันนี้เห็นทีคงได้เปิดหูเปิดตาแล้ว เสาอวี่มองจานอาหารเบื้องหน้าที่เริ่มเย็นชืดโดยไม่ยอมแตะต้อง นิ้วเรียวเคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะมั่นคงคล้ายกำลังนั่งนับเวลาอยู่ในใจ สีหน้าเรียบเฉยดั่งหุ่นไม้ซึ่งแกะสลักมาอย่างงดงามปราณีต หากกลิ่นอายน่าอึดอัดที่แผ่ออกมาหาได้ธรรมดาไม่ บ่าวไพร่พากันหายใจไม่ทั่วท้อง จวบจนกระทั่งเงาร่างของหัวหน้าสาวใช้กับหัวหน้าพ่อบ้านปรากฏตัวขึ้นที่เรือนจึงได้เริ่มหายใจได้ทั่วท้อง “ซือซือ อวี่เหลียง เหตุใดช่วงนี้อาหารวันนี้จึงดูน้อยลงพิกล” บ่าวไพร่ทั้งสองหันมามองหน้ากัน สีหน้าดูลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด “คือว่า...” โจรสาวในคราบท่านเจ้าเมืองหรี่ตาลง นัยน์ตาสีเข้มแวววาวดั่งอัญมณีล้ำค่า “อ้ำอึ้งอยู่ทำไม มีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา” บุรุษร่างสันทัดเห็