หนึ่งพบเจอ หนึ่งจากลา [1.3]

1156 คำ
อูกั๋วเห็นก็เริ่มไม่พอใจขึ้นบ้างแล้ว หรือสตรีผู้นี้จะปฏิเสธการใช้ผ้าของเขา โปรดสัตว์ได้บาปแท้ๆ ! “หากแผลเจ้าไม่รีบห้ามเลือดจะยิ่งแย่ ลูกพี่ข้ามีเมตตาจิตอยากจะช่วยรักษา หรือเจ้าไม่คิดอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว? ” “อูกั๋ว เสียมารยาท” เสียงทุ้มเอ่ยปรามอย่างตำหนิ “ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันคือยารักษา มิใช่...ยาพิษ” คำถามนี้ดึงดูดให้ดวงตาเรียวก้มลงจับจ้องขวดยาในมือตนเอง ความหวาดระแวงของหญิงสาวผู้นี้นับว่าเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมาย ทั้งๆ ที่นางเป็นไข้สูงแต่กลับมีสติมากพอที่จะระวังภัย คาดว่าคงพบเจอเรื่องราวบางอย่างที่ไม่ธรรมดามาเป็นแน่ ความสนใจในตัวหญิงสาวเพิ่มขึ้นจนทำให้เขากวาดตามองสำรวจนางดูอีกครั้ง สายฝนทางด้านนอกเริ่มซาลงแล้ว เมฆฝนมืดครึ้มก็เริ่มสลายตัว แสงแดดลอดผ่านลงมายังวัดร้างช่วยเผยให้ทัศนียภาพรอบกายเด่นชัดขึ้นอีกหลายส่วน ครั้นร่างสูงโปร่งได้พิจารณาใบหน้าคมสวยผิวสองสีดูใกล้ๆ ก็รู้สึกคุ้นตาราวกับเคยเห็นมาก่อนจากที่ไหนสักแห่ง ใช่แล้ว...ย่อมต้องจำได้ในเมื่อภาพวาดของนางติดอยู่บนป้ายประกาศจับเสียทั่วเมือง! “เฮยขงเชว่? ” ชายหนุ่มเรียกชื่อเป็นเชิงถาม ทั้งที่แท้จริงมั่นใจมากกว่าห้าส่วนว่าย่อมต้องเป็นนางโจรที่ถูกล่าค่าหัว ดวงตาคมสีน้ำตาลแดงของเสาอวี่เข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “มันคืออะไรหรือ มีแต่คนชอบทักว่าข้าหน้าเหมือน จนข้าต้องมาซวยจึงดนตามล่าอยู่เช่นนี้” ผู้ฟังยกยิ้มบางหวังปลอบละโลม “ถ้าเช่นนั้นแม่นางไม่ต้องกังวล” เขาพลิกข้อมือเพื่อให้หลุดออกจากการถูกจับกุม จากนั้นก็หยิบเศษผ้าสะอาดออกมาซับโลหิตที่ไหลออกมาจากศีรษะจนเปรอะเปื้อนใบหน้าคมสวย แต่มิทันไรการกระทำของผู้หวังดีก็ต้องชะงักกึกเมื่อวัตถุเย็นๆ ถูกยกขึ้นจ่อเข้าที่ลำคอ “ถอยไป! ” นางเค้นเสียงในลำคอคล้ายกับสัตว์บาดเจ็บที่พยายามขู่ฟ่อ ชายหนุ่มพินิจแล้วแอบคิดว่านางน่าจะมีฉายาเป็นงูมากกว่านกยูง “แม่นางวางใจเถิด ข้าก็เป็นโจรเหมือนกับเจ้า” แน่นอนว่าผู้ฟังไม่เชื่อ หากก็ต้องส่ายหน้าเมื่อภาพเบื้องหน้าเริ่มพร่าเรือน การกระทำของนางเปิดช่องโหว่ของบุรุษแปลกหน้าลงมืออย่างรวดเร็ว! สันมือใหญ่ฟาดเข้าที่มีดสั้นแกะสลักจนมันตกลงบนพื้น โจรสาวมึนงงสับสนอยู่ไม่นานก็ต้องกัดริมฝีปากพร้อมกับเบ้หน้าอย่างเจ็บปวด ของเหลวที่ราดลงบนแผลสร้างความแสบร้อนให้กับศีรษะเป็นอย่างมาก มิหนำซ้ำยังตามมาด้วยผงยาสมานแผลซึ่งผู้ลงมือรักษาไม่ได้เบามือเลยแม้แต่น้อย ‘เออ...มือหนักแบบนี้ไม่แน่ว่าบุรุษสมควรตายผู้นี้อาจเป็นโจรได้เหมือนกัน! ’ คนเจ็บสบถในใจขณะที่กัดฟันกรอด “จอมโจรนกยูงดำมีความอดทนมากกว่าสตรีทั่วไปจริงๆ น่านับถือ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยปากชมพลางหัวเราะในลำคอ ผิดกับหญิงสาวที่มองเขาตาขวาง ทันทีที่เขาใช้ผ้าพันทบรอบศีรษะเสร็จ ทั้งสองก็สบตากันอีกครั้ง “การเป็นโจรแล้วขี้ระแวงถือเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับแม่นาง...ข้าว่ามันเกินขอบเขตที่ควรจะระแวงมากเกินไปหน่อย” น้ำเสียงของเขาเรียบเรื่อยไม่เปลี่ยน ไร้ซึ่งความกดดันใดๆ ทั้งปวง “พอบอกได้ไหมว่าไยจึงเป็นเช่นนั้น” เสาอวี่เลือกที่จะไม่ตอบ ความปวดหนึบจากยาของเขาปลุกสติสัมปชัญญะคืนมาจนหมด คว้ามีดสั้นที่ตกลงบนพื้นก่อนจะพาตัวเองไปซุกตัวอยู่เสาต้นที่ใกล้ที่สุด ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ยอมรามือง่ายๆ “แม่นางไม่กลัวหรือว่ายาที่ข้าใส่ให้จะมีพิษ” “เจ้า...!” ครานี้ร่างระหงหันมาถลึงตามองเขาอย่างเดือดดาล ทว่าร่างกายที่หนาวสั่นทำให้เจ้าตัวไอเสียงดัง พยายามขดกายเข้าหากันมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มไออุ่น นางอ่อนแรงทั้งกาย เหนื่อยล้าทั้งใจ... หากก้าวพลาดเพียงคราเดียวนั่นหมายถึงชีวิต อูกั๋วมองความดื้อแพ่งของหญิงสาวอย่างจนปัญญา หากก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสิ่งไม่คาดฝัน ลูกพี่ปลดเสื้อคลุมสีกรมท่าตัวนอกออกก่อนจะตรงเข้าไปคลุมให้กับร่างระหงที่มองพวกเขาอย่างหวาดระแวงไม่เสื่อมคลาย “เจ้าต้องการอะไร” เสียงของนางแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ “ไม่ได้ต้องการอะไร ข้าเพียงแค่สงสัย” คำตอบแสนเรียบง่ายประกอบกับความอบอุ่นจากเสื้อคลุมตัวโคร่งส่งผลให้ใบหน้าสวยคมผ่อนคลายลงเล็กน้อย ยาที่เขาทำแผลบนศีรษะคงไม่มียาพิษ มิเช่นนั้นมันคงจะออกฤทธิ์และฆ่านางไปแล้ว เขาอาจจะเป็นคนดีที่เผอิญผ่านมาจริงๆ หรือไม่ก็อาจจะต้องการซื้อใจเพื่อหลอกไปรับรางวัลในภายหลัง แต่นางก็ปวดหัวเกินกว่าจะมาคิดหาคำตอบ ขอเพียงแค่เขาไปให้พ้นๆ แล้วปล่อยให้นางนอนพักผ่อนก็พอ “หากข้าพูด เจ้าจะยอมไปใช่หรือไม่” นางถามเพื่อความแน่ใจ “ได้ หากแม่นางพูด ข้าจะไป” นางไม่อยากติดค้างเขา หากการไขข้อข้องใจนี้จะทำให้ไม่ต้องพบกันอีกก็ควรจะพูดให้มันจบๆ ไป “ข้าเชื่อว่าทุกสิ่งที่ข้ากำลังเผชิญอยู่ล้วนเป็นสิ่งจอมปลอม มันเป็นภาพมายาซึ่งไม่ใช่สิ่งที่โชคชะตากำหนดมาให้ข้า ดังนั้น...” “ดังนั้น?” มือเรียวข้างขวาของคนเจ็บเอื้อมมาสัมผัสบริเวณสะบักหลังข้างซ้ายอย่างเชื่องช้า “ข้าจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีชีวิตรอด” นางเอ่ยพลางขยุ้มผ้าเนื้อหยาบ “จนกว่าข้าจะกลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้อีกครั้ง” น้ำเสียงของผู้กล่าวเจือไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย ทว่าน่าแปลกนักที่มันไม่มีความสับสนเขืออยู่แม้สักนิด จิตใจของนางโจรผู้นี้หยั่งลึกเกินกว่าจะเข้าถึงได้ทั้งหมด ช่างน่าฉงนและน่าค้นหา ความรู้สึกเช่นนี้มันก็ยิ่งทำให้เลือดในกายของเขาร้อนขึ้น สัญชาตญาณกระตุ้นให้ความอยากเอาชนะเพิ่มพูนตามลำดับ “เจ้าชื่ออะไร” เสียงอ่อนล้าของหญิงสาวทำลายความเงียบอันแสนสั้น ชายหนุ่มซึ่งครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ในใจพลันได้สติ เอ่ยตอบอย่างเป็นธรรมชาติ “ผู้อื่นต่างเรียกข้าว่า ‘จอมโจรวิญญูชน’ ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม