CHAPTER 4 ไม่เอ็นดูผมหน่อยเหรอ

2226 คำ
เจ้าบ่าวในชุดสีขาวบริสุทธิ์กำลังยกมือไหว้ส่งแขกคนสำคัญ เพียงพายหลบสายตาเพื่อนสนิทที่มองมาพลางยกมือขึ้นถูปลายจมูกเล็กน้อย โดยที่มีเพลิงกัลป์คอยโอบเอวพร้อมกับให้คุณหญิงณลิลคล้องแขน ทั้งที่สนิทกันทว่าทุกอย่างกลับดูประหม่าไปหมด ทั้งสีหน้าและแววตาของคนที่เคยมั่นใจ ในเวลานี้มันกลับหลงเหลือเพียงความวูบไหวในดวงตา เพียงพายไม่กล้าแม้แต่จะสนทนาหรือสบตาเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงขายาวทิ้งทรงกับเสื้อเบลเซอร์ตัวโคร่งสีฟ้าอมเทา ไม่ต่างอะไรกับเพลิงกัลป์ที่ทั้งคู่แต่งตัวในโทนเดียวกัน ทว่าสัดส่วนที่สมส่วนของเพลิงกัลป์มันทำให้วันนี้เขาดูโดดเด่นจนสายตาหลายคู่จับจ้องมองตลอดทั้งงาน เสียงเพลงคู่ชีวิตดังออกมาจากห้องโถงของโรงแรมหรู เพลิงกัลป์มองดูเพียงพายด้วยสายตาราบเรียบ ทว่ากลับมีอะไรบางอย่างโลดแล่นเข้ามาในความคิดเขาอย่างฉับพลัน “ขอบคุณนะครับคุณป้าที่เสียสละเวลามางาน” “ขอบคุณนะครับ” แฟนสาวของเจ้าบ่าวยกมือขึ้นพนมไหว้ขอบคุณ โดยที่มีสายตาคู่หนึ่งคอยลอบมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรหรอก เพื่อนของลูกป้าแต่งงานทั้งที จะไม่ให้มาร่วมแสดงความยินดีได้ยังไง เนี่ยคุณลุงก็ฝากคำอวยพรมาให้ด้วยนะว่าให้เราทั้งสองคนอยู่ดูแลกันและกันแบบนี้ไปนานๆ นะลูก” คุณหญิงณลิลอวยพรแล้วยิ้มกว้าง เมื่อก่อนเตชินท์กับเพียงพายสนิทกันมาก ไปมาหาสู่จนที่บ้านของเพียงพายเอ็นดูเตชินท์ราวกับลูกอีกคน “ขอบคุณครับคุณป้าแล้วผมก็ฝากขอบคุณคุณลุงด้วยนะครับ” เตชินท์เอ่ยขอบคุณ ก่อนจะเลื่อนสายตามองเพียงพาย “แล้วก็ขอบคุณนะพายที่มา เห็นว่าติดงานนึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” ทันทีที่ถูกสายตาของเตชินท์มองมา เพียงพายก็ถึงกับชะงักงันไปชั่วขณะ ก่อนจะปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ “ไม่เป็นไร ยังไงก็ยินดีด้วยละกัน” “อืม ขอบคุณมากนะ แล้วก็ยินดีด้วยนะ” เตชินท์พูดพลางหลุบสายตามองแหวนบนนิ้วนางข้างซ้าย เพียงพายเลยใช้มืออีกข้างประกบมือข้างซ้ายปิดมันเอาไว้ เพลิงกัลป์ช้อนสายตาขึ้นมองเตชินท์ ก่อนจะหันกลับมาวางสายตาที่เพียงพายอีกครั้ง เมื่อครั้งนี้เพียงพายไม่ได้หลบสายตาเตชินท์อีกต่อไปแล้ว วินาทีแห่งความอึดอัดเริ่มต้นขึ้นเมื่อเพียงพายเอาแต่มองหน้าเจ้าบ่าวด้วยสายตาอธิบายได้ยาก เหมือนจะโกรธแต่ก็ปนความเสียใจ หนำซ้ำใต้ตายังแดงก่ำจนเพลิงกัลป์ต้องใช้มือกระชับเอวอีกฝ่ายเพื่อเรียกสติ “ผมกับพี่พายยินดีด้วยนะครับ เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ” “ขอบคุณครับ” “ใช่มั้ยครับพี่พาย” เพียงพายพยักหน้ารับคำเพลิงกัลป์ ไม่ได้พูดอะไรนอกจากเบนสายตามองไปทางอื่น “ขอตัวก่อนละกัน พอดีมีธุระต้องคุยงาน” พูดจบเพียงพายก็หมุนตัวเดินออกมาจากตรงนั้นทันที เขาหลบหลีกผู้คนแล้วเดินหายไปในหมู่แขกเหรื่อที่มางาน ตอนนี้เหลือแค่เพลิงกัลป์ที่ยืนรับหน้าแทนแฟนหนุ่ม เขาค้อมศีรษะให้กับคู่บ่าวสาวพลางยิ้มแห้งแก้เก้อ เพราะไม่รู้เลยว่าเพียงพายมีงานด่วนจริงหรือกำลังหนีบางสิ่งกันแน่ ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวยกสองมือพนมไหว้แล้วค้อมศีรษะบอกลาแขก คุณหญิงณลิลระบายยิ้มพลางไล่สายตามองหาลูกชายก่อนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความเป็นห่วง “ตาพายเป็นอะไรหรือเปล่า” หลังจากเดินออกมาได้สักพัก คุณหญิงณลิลก็เปิดประเด็นถามเพลิงกัลป์ทันที “น่าจะมีงานด่วนน่ะครับ” “แน่ใจนะ” “แน่ใจสิครับ ช่วงนี้พี่พายงานยุ่งมาก น่าจะมีงานด่วนเข้ามากะทันหัน” เพลิงกัลป์ระบายยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลา ก่อนจะจับมือคุณหญิงณลิลให้วางใจ มันเลยทำให้คนที่กำลังวิตกกังวลพยักหน้าอย่างไม่ติดใจถามอะไรต่อ “ไปกันเถอะครับคุณป้า เดี๋ยวผมไปส่งที่รถ” “จ้ะ” ถึงจะพอคลายความกังวล แต่สีหน้าผู้เป็นมารดาก็ยังเป็นห่วงลูกชายตนอยู่ดี เพลิงกัลป์คล้องแขนประคองคุณหญิงณลิลมาตลอดทางจนออกมายืนอยู่ที่หน้าโรงแรมหรู เขาคลี่รอยยิ้มให้หญิงรุ่นแม่ด้วยความนอบน้อม ก่อนจะกวาดสายตามองหาเพียงพายไปด้วย “วันนี้สีหน้าตาพายดูไม่ค่อยดีเลย ป้าหวังว่าเราสองคนจะไม่มีปัญหาให้ทะเลาะกันนะลูก” “ไม่มีครับคุณป้า พี่พายเขาพักผ่อนน้อยน่ะครับ ถ้าได้พักผ่อนอีกสักหน่อยคงจะดีขึ้น” “ช่วงนี้พายเขาก็คงทำงานหนักจริงๆ นั่นแหละ” “ครับ แต่คุณป้าไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลพี่พายให้เอง” คุณหญิงณลิลลอบถอนหายใจไล่ความกังวล พลางพยักหน้ารับเมื่อเธอได้ยินจากปากของเพลิงกัลป์เองกับหู ไม่ว่าจะพูดอะไรเธอก็แทบจะไม่ระแคะระคายหูเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขานั้นปฏิบัติตัวดีกับเธอเสมอมา “ป้าฝากเราดูแลทีนะเพลิง พยายามให้เขากินข้าวให้ตรงเวลา ป้าพูดจนป้าเปียกปากแฉะก็ยังไม่ฟัง” “ได้ครับ เรื่องอาหารเช้าผมจะเป็นคนจัดการให้เขาเอง” “ขอบใจจ้ะ” เมื่อได้ยินว่าเพลิงกัลป์รับปากด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สายตาของคุณหญิงณลิลก็มั่นใจว่าเพลิงกัลป์จะสามารถดูแลลูกชายของเธอได้เป็นอย่างดี รถคันสีดำขลับขับเข้ามาจอดตรงหน้าทางเข้าโรงแรม เป็นจังหวะเดียวกันที่เพียงพายเดินกลับมาพอดี “ไปไหนมาเหรอครับ” เพลิงกัลป์เลิกคิ้วถาม พยายามที่จะสบสายตากับเพียงพาย ทว่าอีกฝ่ายดันหลบตาเขาแล้วตอบแบบตัดบทแทน “คุยงาน” เพียงพายเดินเข้าไปประคองผู้เป็นแม่ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วส่งคุณหญิงณลิลขึ้นรถ “ถึงบ้านแล้วโทรหาผมด้วยนะครับ” ทั้งคู่ระบายยิ้มบนใบหน้าส่งมารดาจนกระทั่งลับสายตาไป ไม่นานรถของพวกเขาก็มาจอดตรงหน้าพอดี คนขับรถในชุดสีดำเดินลงเปิดประตูให้ทั้งสองคน เพลิงกัลป์ผายมือให้เพียงพายขึ้นก่อนจะเดินตามเข้าไปด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ทว่าเมื่อเสียงปิดประตูรถดังขึ้นทุกอย่างก็เข้าสู่ความสงบ รอยยิ้มบนใบหน้าของเพียงพายก็เลือนรางหายไปหลงเหลือไว้เพียงใบหน้าที่มึนตึงใส่อีกคน ราวกับว่าอยากจะเลิกเสแสร้งแกล้งทำเต็มที เพลิงกัลป์ยกยิ้มมุมปากพลางกระชับเสื้อสูทด้วยสีหน้าอารมณ์ดี เขาขยับตัวเพื่อถอดเสื้อสูทวางพาดไว้ที่พำนักแขน พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อจนถึงกลางอกถกแขนเสื้อขึ้นถึงข้อพับแขน แล้วเอนหลังพิงเบาะอย่างสบายใจ พลางเสตามองเพียงพายด้วยสายตาเรียบนิ่ง “วันนี้นายแสดงละครเก่งอีกแล้ว ว่ามั้ย” เสียงเหน็บแนมจากผู้ชายที่ชื่อเพียงพายดังขึ้น “ผมเปล่าแสดงละครเลยนะครับ” เพลิงกัลป์ตอบกลับแล้วระบายยิ้ม นัยน์ตาดูซุกซนยามได้เห็นอีกฝ่ายไม่สบอารมณ์ “เหรอ แต่ฉันรู้สึกว่านายแสดงเนียนจนฉันเกือบเชื่อเลยว่าเราเป็นคู่รักที่รักกันมาก” “ผมมาในฐานะคนของราชาฉัตรบดินทร์นะครับ จะทำให้เสียหน้าได้ยังไง” “อ่า ปกติทำตัวขายหน้าอยู่แล้วสินะ” สีหน้าที่คล้ายว่าน้อยใจของเพลิงกัลป์ถูกกลบด้วยการที่เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เพราะเขาเองก็คงจะไม่ยอมให้เพียงพายถือไพ่เหนือเขาอยู่บ่อยๆ แต่เขาจะเป็นคนที่กำราบเพียงพายให้ได้เองต่างหาก “พี่เองก็อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าพี่คิดอะไรอยู่” “คิดอะไร” “สายตาที่พี่มองผู้ชายคนนั้น มันไม่เหมือนเพื่อนมองเพื่อนเลยสักนิด” ใบหน้าของเพียงพายมีปฏิกิริยาตอบรับเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้แสดงทีท่าอะไรออกไป นอกจากเปรยสายตาขึ้นมองคู่สนทนาแล้วส่ายหน้าติดเอือมระอา “คงเสียใจแย่เลยใช่มั้ยครับ ที่ต้องเดินไปส่งเพื่อนรักเข้าเรือนหอ” “ทำไมนายถึงชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นนัก สนใจแต่เรื่องของตัวเองก็พอ” “ยอมรับแล้วสินะว่าผมพูดความจริง” “ฉันไม่จำเป็นต้องตอบนาย” เพลิงกัลป์พยักหน้ารับช้าๆ อย่างกวนประสาท ก่อนจะขยับตัวนั่งหันหน้าเข้าหาเพียงพาย “ว่าแต่พี่จูบไม่เก่งเหรอ” เสียงทุ้มถามขึ้น เขาดูพอใจไม่น้อยที่เห็นแววตาดูหยิ่งยโสวูบไหวเพียงครู่หนึ่ง “จะอยากรู้ไปทำไม” “ผมถาม เพราะเห็นว่าพี่ทำเหมือนคนไม่เคยจูบมาก่อน” “ฉันแค่ตกใจ” “ถึงว่าล่ะ ตัวเกร็งเชียว” เพียงพายเงียบแทนการตอบกลับ ก่อนที่ภาพจะตัดไปยังเหตุการณ์ที่ทั้งคู่ร่วมงานแต่งของเตชินท์ ขณะที่สายตาของเพียงพายกำลังทอดมองไปยังเพื่อนสนิท กล้องในงานก็ดันจับภาพของเพลิงกัลป์และเพียงพายขึ้นบนจอใหญ่ เล่นเอาแขกเหรื่อในงานส่งเสียงเชียร์ทั้งคู่ยกใหญ่ ในวินาทีนั้นเพียงพายทำได้แค่ยิ้มให้กล้อง ใต้ตาแดงก่ำคล้ายคนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ก่อนจะถูกเพลิงกัลป์ใช้โอกาสนี้จุมพิตบนเรียวปากสีสวยเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ เล่นเอาเสียงปรบมือดังก้องไปทั่วห้องโถงประชุม รวมถึงสีหน้าพึงพอใจของคุณหญิงณลิลด้วย เพียงพายไม่รู้ว่าคนภายนอกมองว่าการเกี่ยวดองของสองตระกูลเป็นยังไง แต่สำหรับเพียงพายการแต่งงานของพวกเขามันก็เป็นเพียงแค่การขยายอำนาจในแวดวงธุรกิจ และก็ใช่ว่าทั้งคู่จะต้องดูรักกันดีเหมือนภาพหน้าสื่อที่ทุกคนได้เห็น เพียงพายไม่ได้อยากแต่งงานตั้งแต่แรก ทั้งหมดเป็นความต้องการของพ่อกับแม่เขาที่ต้องการให้ราชาฉัตรบดินทร์โอบอุ้มอธินันท์พันธสกุลในวันที่ยากลำบาก อธินันท์พันธสกุลต้องพึ่งราชาฉัตรบดินทร์ก็จริง แต่ทางฝั่งของพวกเขาก็จำเป็นต้องมีอธินันท์พันธสกุลเช่นกัน อาจจะเรียกได้ว่าถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน หรือน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอะไรทำนองนั้น “ทำอย่างกับนายจูบเก่งนัก” เพลิงกัลป์หลุบตามองริมฝีปากอีกฝ่าย “อยากจะลองมั้ยล่ะครับ” เพียงพายส่ายหน้า ก่อนจะเบือนหน้าเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่ว่างเปล่า “อายุปูนนี้แล้วนึกว่าจะชินแล้วซะอีก” คนอายุมากกว่าถึงกับหันหน้ากลับมามอง ก่อนจะถอนหายใจด้วยความไม่สบอารมณ์ “นายคิดว่าคนที่เอาแต่ทำงานแบบนั้นฉันมีเวลาเถลไถลเหมือนนายเหรอ” “ผมไม่เคยเถลไถลนะครับ เพราะเข้านอนก่อนสี่ทุ่มตลอดเลย เป็นเด็กดีขนาดนี้ทำไมพี่ถึงใส่ความผมได้” เพลิงกัลป์ยกยิ้มกวนประสาท “อย่าให้ฉันจับได้ก็แล้วกัน นายได้ถูกแฉแน่เพลิงกัลป์” “พี่ไม่เอ็นดูผมหน่อยเหรอครับ” “เหอะ” เพียงพายแค่นหัวเราะในลำคอ มองเพลิงกัลป์ที่เอาแต่ยิ้มไม่หุบ “อ่า รู้มั้ยว่าพี่ทำตัวไม่ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อนตัวเอง คุณป้าถามผมด้วยนะว่าพี่เป็นอะไรหรือเปล่าถึงได้ออกไปแบบนั้น คิดดูสิครับว่าถ้าผมไม่แก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าเอาไว้ได้ มันจะเป็นยังไง” “แล้วถ้าฉันไม่แก้ต่างให้นายเรื่องผู้หญิงคนนั้นที่พาไปห้างแล้วเจอพ่อของนาย มันจะเป็นยังไง” “เพื่อนผมทั้งนั้นแหละครับ อีกอย่างเขาไม่สนใจผมหรอก ไม่เคยมีใครสนใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” น้ำเสียงติดน้อยใจของเพลิงกัลป์ถูกกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “แล้วเป็นยังไงกับการเอาหน้า แม่ฉันคงจะปลื้มนายน่าดู” เพียงพายพูดแล้วยกท่อนขาขึ้นไขว่ห้าง มือประสานไว้บนตัก “ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำ แค่นั้นเองครับ” เพลิงกัลป์เอียงศีรษะจ้องอีกฝ่ายแล้วขยิบตาใส่ทีนึง “สักวันนายจะโดนจับได้เพลิงกัลป์ ว่านายไม่ได้ใสซื่อเหมือนที่พวกเขาคิด” น้ำเสียงแกมประชดดังขึ้น ไม่ได้หลงกลไปตามลูกเล่นที่แพรวพราวราวกับเพชรของอีกคนแต่อย่างใด “ผมไม่ได้เสแสร้งเวลาอยู่ต่อหน้าพวกท่านนะครับ ผมก็แค่ต้องทำตัวให้สมเกียรติกับอธินันท์พันธสกุลด้วยเท่านั้นเอง” ว่าพลางยิ้มกะล่อน “สักวันฉันจะจับนายให้ได้คาตา.. เพลิงกัลป์” เพียงพายกดเสียงต่ำอย่างเอาจริงเอาจัง เพลิงกัลป์กระตุกยิ้มร้ายบนมุมปาก เรียวคิ้วเข้มเลิกขึ้นในเชิงท้าทายอีกฝ่าย “ถ้างั้นก็จับผมให้ได้สิครับ.. ท่านประธาน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม