1 ปี 5 เดือน กับอีก 15 วัน
ภายในห้องพักชั้นยี่สิบสองของคนโดมิเนียมหรูใจกลางเมืองกรุง บนเตียงนอนสีขาวสะอาดตา ตอนนี้มีชายหญิงกำลังนัวเนียซุกไซ้อยู่บนเตียงในเวลาช่วงเช้า ที่พระอาทิตย์เพิ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้ามาได้ไม่นาน
ใบหน้าของหญิงสาวเหยเกคิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน ดวงตากลมโตหลับพริ้ม สะบัดหน้าไปมาอยู่บนเตียงใหญ่ ด้านบนมีชายหนุ่มรูปร่างกำยำ กำลังขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวโหมไฟพิศวาสเข้าใส่พลิ้วไหว
“ซี้ด...อืม...คินน์ เร็วอีกค่ะ แอ้มต้องการคุณ” เสียงหวานกระเส่าร้องครวญคราง มือบางจับเอวสอบจิกเล็บยาวลงไป เพื่อระบายความทรมานที่มาพร้อมกับความสุขจนแทบขาดใจ
“อือ ได้สิครับคนดี” ตอบรับเสียงพร่า
เอวสอบเริ่มขยับเข้าออกรัวเร็ว บรรเลงเพลงพิศวาสรับแสงแรกของวันเร่าร้อน รุนแรง เมื่อความสุขกำลังเดินทางใกล้เข้ามา ร่างกำยำโหมแรงเข้าสู้อย่างบ้าคลั่ง
“อ้ะ...คินณ์ คุณแรง...อ้ะ...แรงไปแล้วนะ...อืม”
“ก็คุณร้องขอเองคนดี...อืม”
“บ้าจริง”
“เอาแรงๆ เลยเหรอครับ ได้สิ...เดี๋ยวผัวจัดให้” การได้แกล้งภรรยาในเวลาเช้าแบบนี้ คือความสุขที่สุดของคุณากร ยิ่งได้ยินเสียงหวานแว้ดใส่ เขาก็ยิ่งมีแรงมากขึ้นกว่าเดิม
“อ้ะ...ตาบ้า...อ้ะ...ไม่ใช่” ตีมือลงบนต้นแขนอย่างหมั่นไส้
แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือจังหวะเอวสอบที่เร่งให้รัวแรงขึ้นจากเดิมจนพาขวัญหอบกระชั้น บิดเร่าอยู่ใต้ร่างหนา
และไม่นานเพลิงพิศวาสก็ค่อยๆ มอดดับพร้อมกับความสุขที่ล้นทะลักออกมาจากคนทั้งสอง มีเพียงเสียงของลมหายใจกระเส่าเพราะความเหนื่อยในการเร่งเครื่องช่วงสุดท้ายเท่านั้นที่ดังออกมา
“เสร็จแล้วก็ลุกไปสักทีสิ จะนอนทับทำไม หนัก!” เสียงแหลมแว้ดใส่ ไม่มีความหวานเจือปนดั่งเมื่อครู่สักนิด ผลักคนตัวโตออกจากร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง ที่ตามเนื้อตัวมีร่องรอยของการเอาแต่ใจของผู้ชายที่กำลังขยับตัวลงจากเตียงอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะเนินอกทั้งสองข้าง ที่ดูเหมือนจะมีร่องรอยมากกว่าส่วนไหน
“เวลาคุณทับตัวผม ผมยังไม่เคยพูดสักคำว่าหนัก” ตาโตถลึงใส่จนแทบจะหลุดออกนอกเบ้า มองคนที่เอ่ยประโยคลามกออกมาหน้าตาย
“บ้าฉิบ! นี่คุณทำผมเป็นแผลอีกแล้วนะแอ้ม” มองหน้าคนที่นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่บนเตียงอย่างกวนประสาท เมื่อบริเวณต่ำจากเอวสอบลงมามีร่องรอยถลอกจากเล็บของภรรยาที่จิกลงมา
“อุ้ย! ขอโทษค่ะ แอ้มลืมตัว” คุณากรส่ายหน้าให้คนที่อยู่กินร่วมกันมาในฐานะสามีภรรยาร่วมหนึ่งปีกับอีกหน้าเดือนอย่างเอือมระอา
วันแรกเป็นยังไง วันนี้ก็เป็นเช่นนั้น อาจจะมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ในความกวนประสาท ในความประสาทแดกของหญิงสาวที่ขยันหาเรื่องมาให้ปวดหัว
“คุณคินณ์!! บอกกี่ครั้งกี่หนทำไมไม่จำ ว่าตรงคอคือห้าม ทำไมถึงยังทำ เมื่อไหร่จะเลิกมึนสักทีฮะ” และเสียงแหลมๆ น่ารำคาญก็ดังขึ้นมาอีกครั้งจากในห้องน้ำ พร้อมกับเจ้าของเสียงที่เดินออกมาด้วยใบหน้าบูดบึ้งอารมณ์เสีย มีผ้าเช็ดตัวพันรอบกาย จ้องคนที่ทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวที่ยืนพิงผนังห้องกระจก มองดูพระอาทิตย์ลอยขึ้นอย่างกับภาพนั้นคือภาพที่สวยที่สุด
“อุ้ย! โทษทีก็ตอนนั้นอารมณ์มันได้ ความเสียวมันพาไป ได้ยินเสียงคุณครางทีไร ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกที” ตอบกลับออกมาหน้าตายเหมือนกับที่พาขวัญตอบตัวเองเมื่อสักครู่ไม่มีผิด พาให้คนฟังก็ยืนหน้าแดงก่ ำจิกตามองสามีกวนประสาทตาขวาง สุดท้ายก็กรีดร้องออกมาเพราะทำอะไรไม่ได้
“อ้าย!! คนบ้า เมื่อไหร่แอ้มจะหมดเวรหมดกรรมกับผู้ชายอย่างคุณสักทีนะ บ้าเอ้ย!” ร้องด่าออกไปอย่างอารมณ์เสีย หมุนตัวเดินกลับห้องน้ำไป พร้อมกับเสียงประตูห้องน้ำที่กระแทกเสียงดัง
พาให้เจ้าของห้องพักแสนเจ้าระเบียบคิ้วกระตุกขึ้นมา ร่างสูงเดินเข้ามายืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ ยกแขนขึ้นเท้าเอวร้องตะโกนออกไป
“ถ้าประตูห้องน้ำผมพังเมื่อไหร่นะ ผมเก็บเงินกับคุณมาเป็นค่าซ่อมแน่ พาขวัญ”
“รวยออกจะล้นฟ้า กับอีแค่ค่าซ่อมประตูยังจะมาเก็บกับแอ้มอีกเหรอ อีตาคินน์บ้า ผัวขี้งก!!” ยังไม่วายที่คนในห้องน้ำจะตะโกนด่าคุณากร
คุณากรขี้คร้านจะต่อล้อต่อเถียงให้ยืดยาว จึงเลือกที่จะสงบปากสงบคำซะ เพราะชายหนุ่มไม่อยากฟังเสียงแหลมๆ แสบแก้วหูให้อารมณ์เสียแต่เช้าแบบนี้
เช้าๆ แบบนี้สิ่งที่ชายหนุ่มปรารถาอยากได้จากคนในห้องน้ำคือเสียงหวานๆ ที่ครางเรียกชื่อตัวเอง ยามที่เขาเป็นคนคุมเกมบนเตียงมากกว่า และเขาก็มักจะได้ยินมันเสมอในทุกเช้า แต่อารมณ์สุนทรีกลับขุ่นมัวอีกหน เมื่อเห็นเตียงนอนยับยู่ยี่ผ้าห่มม้วนเป็นกองอยู่บนนั้น
“แอ้ม!! คุณไม่พับผ้าห่มเก็บเตียงนอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอีกแล้วนะ”
“พูดแบบนี้มาตั้งปีกว่า จนจะหย่ากันอยู่แล้ว ไม่เบื่อหรือไง เห็นมันกองอยู่ก็ทำให้มันเรียบร้อยสิ” คุณากรยกมือขึ้นดึงทึ้งผมตัวเองอย่างอารมณ์เสีย เป็นผู้หญิงอะไร ความเรียบร้อยไม่มีเอาซะเลย
เบื่อโว้ย!!!!