บทนำ
งานมงคลสมรสลูกชายคนเล็กโรงแรมชื่อดังถูกจัดขึ้นอย่างสมฐานะ และหน้าตาทางสังคมทั้งสองครอบครัว แขกเหรื่อมากมายถูกเชิญมาร่วมเป็นศักขีพยานในความรักของคนทั้งสอง คำพูดชื่นชมว่าบ่าวสาวทั้งสองเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกดังขึ้นให้ได้ยินไปทั่วงาน
ใบหน้าของบ่าวสาวแย้มรอยยิ้มประดับบนใบหน้าตลอดเวลา มือทั้งคู่จับกันไว้เมื่อต้องเดินต้อนรับและที่มาร่วมงาน มีบางจังหวะหันมายิ้มให้กัน ยิ่งทำให้ทั้งสองดูเหมาะสมอย่างที่แขกในงานเอ่ย
จวบจนถึงแขกเหรื่อในงานทยอยกลับ เหลือเพียงญาติสนิททั้งสองฝ่ายที่ต้องทำหน้าที่ส่งตัวบ่างสาวเข้าหอ การอวยพร การให้ข้อคิดในชีวิตคู่จึงถูกเอ่ยออกมาให้คนทั้งสองได้ฟัง
“แม่ไปก่อนนะลูก ฝากดูแลแอ้มด้วยนะ” มารดาของเจ้าสาว เอ่ยฝากฝั่งลูกสาวคนโตที่เป็นเสาหลักของบ้านกับลูกเขยป้ายแดง
“ครับคุณแม่”
“แม่ก็ฝากคินณ์ด้วยนะหนูแอ้ม ทนหน่อยนะลูก” มารดาของเจ้าบ่าวก็ขอฝากฝังบุตรชายคนเล็กกับลูกสะใภ้เช่นกัน
“ค่ะคุณแม่”
“งั้นพวกเรากลับก่อนนะ ลูกจะได้พักกัน พ่อไปนะ” บิดาของเจ้าบ่าวเอ่ยขึ้นบ้าง จากนั้นทั้งสองครอบครัวก็พากันออกจากห้องไป
เจ้าบ่าวทำหน้าที่เดินไปปิดประตูห้องพัก และเดินกลับมาหาเจ้าสาวคนสวยที่นั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มทั้งวันบัดนี้เรียบเฉยด้วยกันทั้งคู่
“จะเอายังไงก็ว่ามา” เจ้าสาวคนสวยไม่รั้งรอจะทำข้อตกลง เมื่อภายในห้องมีกันเพียงสองคน
“ครบสองปีเมื่อไหร่เราหย่ากันทันที แต่ระหว่างทางจากวันนี้ไปถึงสองปี คุณจะต้องทำหน้าที่เป็นภรรยาของผม ทั้งพฤตินัยและนิตินัย เพราะผมไม่ใช่สุภาพบุรุษที่จะมาแต่งงานในนามโดยปล่อยให้ชีวิตเหี่ยวแห้ง” จะว่าเห็นแก่ตัวก็คงได้ แต่จะให้นอนจับมือกันเฉยๆ ก็ไม่ได้ไหม ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคือผู้ชายฮอตที่มีสาวมาคอยวิ่งตามอยากได้
และคนที่กล้าได้กล้าเสียอย่างพาขวัญ มีหรือจะไม่รับข้อเสนอนั้น เพราะเธอก็ไม่ได้ใสซื่อถึงขนาดคิดว่าสามีป้ายแดงของเธอจะเก็บเธอไว้โดยไม่ทำอะไร ร่างบางในชุดเจ้าสาวสีขาวขยับลุกขึ้นเดินมาหยุดตรงหน้าคุณากร
“ได้! แต่ในระหว่างสองปี คุณห้ามไปมีอะไรกับคนอื่นนอกจากแอ้ม และเมื่อเราหย่ากัน คุณต้องจ่ายค่าเสียหาย ค่าสึกหรอให้แอ้มยี่สิบล้าน”
“หน้าเลือด!! สิบล้าน เอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่ต้องเอา” พาขวัญกัดฟันกรอก ยกมือขึ้นจับท้ายทอยคุณากรกระชากผมชายหนุ่มจนหน้าหงาย
“โอ๊ย!! ทำบ้าอะไรวะ” คนถูกกระชากผมรับดึงมือนั้นออกไป ร้องถามคนตรงหน้าเสียงห้วน นี่แค่วันแรกนะ ยัยนี่ยังกล้าทำกับเขาแบบนี้ ประทับใจชะมัด!!!
“ก็ดึงสติไง สองปีที่แอ้มต้องเสียร่างกายให้คุณใช้ตามสบาย คุณคิดว่ามันจะไม่สึกหรอเลยหรือไง อย่ามาเอาเปรียบกัน สมบัติที่จะได้ก็ตั้งมากมายหลายร้อยล้านไม่ใช่เหรอ กะอีแค่เงินยี่สิบล้านขนหน้าแข่งไม่ร่วงหรอกมั้ง”
“แต่การที่คุณยอมตกลงแต่งงานก็เพราะหวังในส่วนแบ่งสมบัติของคุณตาคุณด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ใช่! เราสองคนต่างก็ต้องการสมบัติเหมือนกัน แต่แอ้มเสียหายมากกว่า เอาร่างกายให้คุณเชยชม กระทำย่ำยี คุณก็ต้องจ่าย”
“พูดอย่างกับผมไม่เอาร่างกายให้คุณเชยชมอย่างนั้นแหละ... สิบห้าล้าน อย่าเรื่องมาก ให้ได้แค่นี้” พาขวัญหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างชั่งใจ
เอาวะ! กำขี้ดีกว่ากำตด อย่างน้อยๆ ก็มีเงินมาตั้งหลักตั้งสิบห้าล้าน
“โอเค” เมื่ออีกคนตกลงคุณากรก็ยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน สุดท้ายก็เห็นแก่เงินเหมือนกัน
“และมีอีกข้อตกลงที่เราสองคนต้องทำร่วมกันนั้นก็คือ ห้ามหึง ห้ามหวง ห้ามก่อกวน ถ้าผมจะคุยกับผู้หญิงคนอื่น ในขณะที่เราสองคนยังได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยากัน แต่ผมก็จะไม่คุยประเจิดประเจ้อหรอกนะ เพราะยังไงผมก็เป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะรักษาหน้าคุณที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา”
“ตามสบายเลยค่ะ คุณจะคุยกับผู้หญิงกี่ร้อยคนแอ้มจะไม่ยุ่ง เพราะแอ้มก็จะคุยเหมือนกัน ขอแค่อย่างเดียว อย่าไปมั่วกับผู้หญิงพวกนั้น เพราะถ้าแอ้มรู้ขึ้นมาว่าคุณนอกกายแอ้ม รับรองว่าแอ้มไม่ปล่อยมันไว้แน่” ไม่พูดเปล่ายังยื่นมือมาจับเป้ากางเกงคุณากร เป็นการบอกให้ชายหนุ่มทราบว่ามันที่เธอพูถึงก่อนหน้าคืออะไร
คุณากรสะดุ้งเฮือกตกใจไม่คิดว่าผู้หญิงตรงหน้าจะทำแบบนี้ รีบจับมือของพาขวัญออกจากเป้าตัวเอง
“โอ๊ย!! คุณนี่มันบ้าชะมัด จับแรงขนาดนี้เกิดมันสู้มือขึ้นมาจะทำยังไง” พาขวัญอมยิ้ม หมุนตัวหันหลังให้ชายหนุ่ม เอี้ยวใบหน้ากลับมาหาพร้อมรอยยิ้มหวาน
“ถอดชุดให้หน่อยสิคะ แล้วแอ้มจะบอกว่าถ้าไอ้นั่นของคุณมันสู้มือขึ้นมา ต้องทำยัง” คุณากรยกยิ้มคืนกลับ ยักคิ้วให้หญิงสาว จัดการรูซิบชุดแต่งงานออกให้อย่างเบามือเพราะอยากรู้เต็มทนว่าคนปากดี ใจกล้า อย่างพาขวัญจะทำยังไง หากน้องชายเขามันสู้มือขึ้นมา เธอจะมีวิธีจัดการหรือรับมือกับมันเช่นไร
เอาล่ะ...ไรท์จะบอกว่า เขาสองคนไม่ใช่คนดีค่ะ555
อย่าหาคำว่านางเอก กับ พระเอก จากเรื่องนี้ มีแต่ตัวเอกเท่านั้น เพราะทั้งสองคนแสบพอกัน เรื่องนี้งดดราม่า งดปวดตับ งดน้ำตา มีแต่เสียงหัวเราะเท่านั้น